สำหรับการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ก่อนการขับขี่นั้น ในปัจจุบันมีการละเลยมากขึ้น สังเกตได้จากอุบัติเหตุที่มีสถิติมากขึ้น ซึ่งปัญหาหลักๆที่มักพบนั่นก็คือ ปัญหาของยางรถยนต์ เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับขี่ หากยางเกิดการสึกหรอ ก็จะทำให้ประสิทธิภาพต่างๆของรถนั้นลดลง และยังส่งผลกระทบไปถึงระบบอื่นๆของรถด้วย ไม่เว้นแม้แต่การเบรกรถ
ดังนั้น ข้อควรรู้ของผู้ใช้รถก็คือ การตรวจเช็คสภาพของยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าหากพบปัญหาก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันเวลา ซึ่งการเช็คสภาพรถยนต์สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
การเช็คจุกลมยางนั้น ถือเป็นชิ้นส่วนหนึ่งที่สำคัญของยางรถยนต์เป็นอย่างมาก เพราะจุกลมยาง จะต้องปิดให้สนิท เพราะในบางครั้งส่วนนี้ก็อาจจะมีการเสื่อมสมรรถภาพไปตามกาลเวลาและการใช้งาน เหมือนกับส่วนอื่นๆ ซึ่งหากพบว่ามีการเสื่อมแล้วก็ต้องเปลี่ยนพร้อมกันกับยางรถยนต์เลย เพราะชิ้นส่วนนี้จะติดตั้งพร้อมกันกับยางรถยนต์ ถ้าหากว่าจุกลมยางมีความเสื่อม ยางรถยนต์เองก็มีโอกาสที่จะเสื่อมเช่นเดียวกัน ดังนั้น ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนยางรถจะต้องตรวจเช็คทุกครั้งว่ามีการเปลี่ยนจุกลมด้วยหรือไม่
การตรวจสอบจุกลมยางรถยนต์
สำหรับการใช้รถยนต์นั้น แน่นอนว่ายางรถยนต์คือส่วนที่ได้รับผลกระทบจากการขับขี่มากที่สุด เพราะในบางครั้งอาจจะไปเผลอเหยียบอะไรมาบ้างก็ไม่สามารถคาดเดาได้ อีกทั้งถนนที่มีความแตกต่างกัน จึงอาจจะทำให้ยางรถยนต์มีรอยขีดข่วนอยู่บ้าง ซึ่งในส่วนนี้ห้ามละเลยเป็นอันชาด เพราะหากรอยบาดแผลที่เกิดบนยางนั้นลึกไปจนถึงโครงสร้างภายในของยาง ก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้หากไม่ได้ตรวจเช็คให้ดีเสียก่อน ที่สำคัญคือหากพบว่าร่องรอยนั้นค่อนข้างที่จะเห็นชัดเจนว่ามีขนาดที่ใหญ่ ไม่ใช่รอยขนแมวโดยทั่วไป จะต้องทำการเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่โดยทันที
การตรวจสอบรอยขีดข่วนบนยางรถยนต์
การเช็คลมยางอย่างสม่ำเสมอนั้นถือเป็นสิ่งที่ต้องตรวจเช็คก่อนการเดินทางทุกครั้งอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าหากลมยางมีปริมาณที่น้อยลงก็จะสามารถไปเติมได้อย่างทันท่วงที ไม่ต้องไปจอดรถที่ยางแบนข้างทาง อย่างไรก็ตาม เคล็ดลับง่ายๆของการเติมลมยางก็คือ ไม่ควรเกิน 36 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของยางและประเภทของรถด้วยเช่นเดียวกัน แต่ถ้าหากเป็นการเติมลมล้อ โดยส่วนมากจะต้องทำเป็นประจำทุกๆเดือน หรือทุกครั้งก่อนเดินทางในระยะที่ไกล
การตรวจสอบความดันลมยาง
ความเสื่อมของดอกยางนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติของการใช้รถ ยิ่งผู้ที่ใช้รถอย่างหนักหน่วงดอกยางก็จะเสื่อมเร็ว ซึ่งโดยปกติแล้วดอกยางก็จะเสื่อมไปตามอายุการใช้งาน ผู้ใช้รถเองก็จะต้องตรวจเช็คอยู่เสมอ อย่างน้อยต้องตรวจดอกยางเดือนละ 1-2 ครั้ง จะทำให้สามารถประเมินได้ว่า ในตอนนี้ดอกยางมีสภาพเป็นอย่างไร จะต้องเปลี่ยนใหม่เมื่อใด ข้อสังเกตง่ายๆคือ หากดอกยางเริ่มโล้น หรือร่องของดอกยางลึกน้อยกว่า 1.6 มม. จะต้องทำการเปลี่ยนใหม่โดยทันที เพราะดอกยางที่โล้นแล้วจะไม่สามารถยึดเกาะพื้นถนนได้ดีเท่าที่ควร ยิ่งถ้าหากขับรถในสภาวะที่ฝนตกนั้นถนนจะมีความลื่นมากกว่าปกติ การที่ดอกยางโล้นอาจจะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้นั่นเอง
การตรวจสอบความเสื่อมของดอกยาง
การตั้งศูนย์นั้น ก็คือการนำรถเข้าไปตั้งศูนย์ที่ศูนย์บริการ ซึ่งควรกระทำประมาณเดือนละ 1-2 ครั้ง เพราะการตั้งศูนย์นี้จะทำให้เกิดความมั่นใจกับคุณภาพของดอกยางได้มากขึ้น เพราะถ้ายางไม่ได้รับการตั้งศูนย์ก็จะทำให้เกิดการเสื่อมของดอกยางเร็วขึ้นกว่าปกติ ดังนั้นการตั้งศูนย์จึงถือว่ามีความสำคัญอยู่ไม่น้อยทีเดียว
การตั้งศูนย์ยางรถยนต์
สำหรับการดูแลรักษายางรถยนต์นั้น ถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้น เพราะยางรถยนต์เองถือมีความสำคัญต่อระบบการขับขี่ของรถยนต์เป็นอย่างมาก หากยางมีการเสื่อมสภาพนั้นก็จะต้องนำไปเปลี่ยนโดยทันที ผู้ใช้รถเองก็จะต้องศึกษาวิธีการดูแลรักษาอยู่เป็นประจำ เพราะนอกจากจะเป็นการรักษาความปลอดภัยให้ตนเองแล้ว ยังเป็นการรักษาสภาพรถให้ดีอยู่เสมออีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม :