MG5 ยนตรกรรมสุดล้ำที่ถูกดีไซน์โครงสร้างให้เรียบหรูในสไตล์รถอังกฤษเพิ่มความประทับใจมากยิ่งขึ้นด้วยหลังคาซันรูฟเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ผสานเข้ากับโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF รวมถึงกล้องมองภาพด้านหลังติดตั้งสัญญาณกะระยะ อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกมาอย่างครบครัน อาทิ พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ MID ให้ความบันเทิงผ่านระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว และ ระบบนำทาง Navigation ในราคาเริ่มต้นเพียง 649,000 บาท เท่านั้น
รถยนต์ MG5
MG5 ได้รับการติดตั้งไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ที่ผสานเข้ากับกระโปรงหน้าแบบ V-Shape พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน Daytime Running Lights แบบ LED และ ไฟตัดหมอกคู่หน้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับได้ด้วยไฟฟ้า หลังคาซันรูฟขนาดใหญ่เปิด-ปิดได้ด้วยไฟฟ้า ด้านหลังติดตั้งไฟท้ายทรงสปอร์ตเป็นแนวยาวขนานไปกับฝาปิดช่วงล่างติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 205/55 R16 โดยได้มีผู้แสดงความคิดเห็นถึงการออกแบบภายนอก MG5 เอาไว้ดังนี้
ความคิดเห็นที่ 1
ดีสวย ราคาถูก สมรรถนะเยี่ยม เหล็กแข็งแรง ดูตอนเค้าวิ่งแซงไปนิ่งกร๊ป เหมือน bmw benz พวกนี้เลย แต่อย่าไปเปรียบเทียบกะพวกนั้นเลย เอาเป็นว่าเหนือกว่า ญี่ปุ่นละกันครับ คุ้มแน่นอนถ้าเอาใช้ไม่สนเรื่องขายต่อ ศูนย์บริการมีเยอะแล้วด้วยตอนนี้
ความคิดเห็นที่ 2
ผมไปทดสอบขับมาหลายรอบและครับ ก่อนตัดสินใจ จัด MG 5 Turbo
จากการเทียบรถในรุ่นเดียวกัน ราคาที่เท่ากับ พวก Mazda 2 City Vios
ข้อดีของ MG 5 X Turbo เมื่อเที่ยบกับรถยี่ห้ออื่น ของตัว Top ของทุกรุ่นนะครับ
- ตัวรถใหญ่กว้างขวาง เทียบรุ่นใหญ่ของยี่ห้ออื่น
- วัสดุที่ทำตัวถังแข็งแรงหนาแน่น
- ระบบพวงมาลัยของ MG 5 เป็นระบบไฟฟ้า ใช้งานดีเยี่ยม เบา ตอบสนองดีมาก
- ช่วงล่างยึดเกาะรถดี
- ตัว Turbo แรงดีมาก เวลาต้องการแซงมีแรงเหลือเฟื่อ
- ระบบภายในออฟชั่น ให้มาครบ
- มีบริการ service on site โทรนัดเวลาที่ศูนย์
- ระบบ InkaNet (โทรหาปรึกษาได้ตลอดเวลา)
- ระบบเตือน พวกเวลารถมีปัญหา เช่นลมยาง
- มี Sunroof
ข้อด้อย
- แบร์นน้องใหม่ มีความเสี่ยงเรื่องความน่าเชื่อถือ (แต่ผมว่า CP คงไม่ทิ้งแน่ )
- ดีไซน์ภายในดูเรียบไปหน่อย
- ศูนย์ บริการน้อย (แต่กำลังขยายนะเป็นดูข่าว)
- เทคโนโลยี Keyless ยังไม่ให้มาเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น
- เรื่องของอะไหล่ (แต่ทางศุนย์แจ้งผลิตที่ไทยหมด น่าจะเวลารอไม่นาน ราคาไม่แพง)
- ราคาขายต่อ แน่นอนว่า ราคาต้องตกไปเยอะ (แต่ถ้าซื้อมาใช้งานผมว่าอย่าคิดมากครับเรื่องนี้ แล้วแต่คนนะ)
ทั้งหมดนี้ไม่ได้ อวย นะครับ ทดสอบเอง รวมรู้สึกของผมเอง สำหรับผมบอกเลยว่าคุ้มค่ากับราคานี้กับรถประสิทธิภาพ เท่านี้ ผมจัดมาแล้ว MG 5 1.5 X Turbo ซื้อจิงครับ
ความคิดเห็นที่ 3
ผมว่าสวย ภูมิฐาน มองเหมือนรถไฮโซ .................มาดูราคาเป็นมิตรดีครับ ,,,,,,,,,,,,,, ถ้ารุ่น629000 เบาะคนขับปรับ6ทิศทาง ผมว่าขายกระฉูด ไม่รู้จะ กั๊กใว้ทำไม แค่เบาะ รู้ทั้งรู้ว่า เบาะ 6ทิศทางนั้นคือหัวใจของการขับ ไม่มี เอ บี เอส ยังดีกว่าเลย ครับ
ความคิดเห็นที่ 4
ถอย MG5 รุ่น 1.5 X Sunroof มา 2 เดือน ตอนนี้อยู่อู่ยาวๆครับ
ปัญหาที่พบ
1. เบรคเสียงดังช่วงสตาร์ดรถใหม่ๆแล้วเบรคยังเย็นอยู่ ขับไปซัก 3000 กม. แรกก็จะไม่ค่อยดัง
2. บูธูทที่ต่อกับมือถือ สัญญาณขาดบ่อยมาก
3. ขับเกิน 100 km/hr จะมีเสียงลมเข้า
4. navigator พาอ้อมโลก
โดยรวมรถถือว่าโอเคมากครับ ภายในกว้างมาก ภายนอกก็สวย ตัวถังก็แข็งแรง ผมว่าราคานี้ถือว่าคุ้ม แต่เรื่องอู่ต้องปรับปรุงอย่างมากครับ
ตอนนี้รถผมมีเสียงดักแก๊กๆ เข้าอู่มาแล้ว 11 วัน ช่างเทคนิคโดยตรงก็มาดูแล้ว แต่ก็ยังหาสาเหตุไม่เจอ รถใหม่ก็ไม่ให้เปลี่ยนคงต้องสวดมนต์ต่อไปละครับ
ความคิดเห็นที่ 5
ตอนนี้เจอปัญหา Mg5 Sunroof เสียงดังแก๊กๆ ออกมาวันแรกเลย ให้ทางศูนย์ บอกแก้ปัญหาไม่ได้ ต้องให้ช่างเทคนิคอ่อนนุชดู ฝากทางMg เช็คการประกอบส่วนนี้ คาดว่าอาจจะไม่ใช่คันแรกที่เป็น
ความคิดเห็นที่ 6
เอาตัวรองท็อบที่ไม่ใช่ sunroof เป็นเครื่อง 1.5 turbo ตัวนี้ผมว่าคุ้มครับ sunroof เกรงว่านานไปยางมันจะเสื่อม น้ำอาจจะเข้าได้
ปล. ไฟตัดหมอกกับไฟ daylight ผมว่า ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ไฟ daylight จะช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นกว่าไฟตัดหมอกนะครับ แต่ส่วนมากหมอกลงก็เปิดไฟหน้าหมดแหละครับ
MG5 ได้รับการดีไซน์ภายในอย่างประณีตด้วยเฉดสีตกแต่งภายในโทนสีดำ เบาะนั่งคู่หน้าสามารถปรับด้วยมือได้ 4 ทิศทาง ส่วนเบาะนั่งด้านหลังปรับพับได้ พวงมาลัยยูรีเทนแบบมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ MID ระบบปรับอากาศแบบธรรมดา กุญแจรีโมทพร้อมปุ่มเปิดฝากระโปรงท้าย ระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอระบบทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว รองรับวิทยุ FM/AM MP3 ติดตั้งระบบนำทาง Navigation รวมถึงระบบ inkaNet ทางด้านผู้ใช้งานสื่อโซเชียลมีการกล่าวถึงการดีไซน์ภายใน MG 5 เอาไว้ว่า
ความคิดเห็นที่ 1
ผมก็ใช้ mg5 turbo sunroof
ออกมาวันแรกก็เจอปัญหา
1. แอร์เสียงดัง
2. วิ่ง 100 พอถอนเท้าออกจากคันเร่งมีเสียงวี๊ดๆๆๆๆ ยาว
3. เบรคมีเสียง ติ๊กๆ
4. เข้าเกียร์ถอยหลังค้างไว้เครื่องสั่น
5. กระจกค้าง
6. เครื่องเล่นวิทยุค้าง
เอาเข้าศูนย์แก้ปัญหาให้ แค่ 5กับ 6 ส่วนอย่างอื่นบอกปกติ ผมบอกเลยว่าปกติไม่เอาก็ไม่ให้เปลี่ยน ทำใจเย็นๆสักพักใหญ่ๆ ก็คุย
สรุปรับไม่ได้ เลยส่งช่างเทคนิคโดยตรงมา สรุปเปลี่ยนวาว เปลี่ยนเกียร์ สรุปอาการ 1 หาย 2,3,4 ไม่หาย แต่เสียงเบาลง สุดท้ายผมเอารถเข้าไปหลายวันมากไม่ได้ใช้ ตอนนี้ผมก็ใช้มันไป ถ้าเสียก็ไปเปลี่ยนทำใจครับ เศร้า เบื่อมาก
ความคิดเห็นที่ 2
พวงมาลัยเบาน่าจะเอาไปเป็นข้อเสียนะครับผมว่า ไม่รู้ย่านความเร็วสูงยังเบาเปล่าครับ
จริงๆเห็นด้วยหลายข้อนะ แต่ผมไม่เคยขับจริงไปลูบๆคลำๆเอาที่โชว์รูมแต่ไม่ได้ลองเทสไดรฟ์ ที่เกลียดมากถ้าไม่นับหน้าตามันก็ก้านจับเปิดประตูที่ดูบอบบางอย่างแรงกับที่ปรับเบาะเหมือนกันครับ กับภายในที่ดูไม่ค่อยสวยในสายตาผม แต่ถ้าวัดกับรถ segment เดียวกันถ้าคนไม่กลัวรถตลาดผมว่ามันน่าซื้อนะ หลายๆอย่างดูดีกว่าเจ้าตลาดทั้งวัสดุรวมไปถึงการประกอบ ยี่ห้อนี้ถ้าเพิ่ม 0บริการได้กับไม่งี่เง่าหลังการขาย อะไหล่มาครบๆ ถ้ายังรักษารถแนวๆนี้ได้ผมว่าเกิดได้อยู่ เอาง่ายๆถ้าคนไม่ห่วงเรื่องซ่อมรถยากผมว่ามันน่าใช้เลย...แต่บังเอิญผมยังอยู่พวกทั่วไป -*-
ความคิดเห็นที่ 3
ไปลองขับ mg 5 มาแล้ว...รู้สึกว่า....ไม่ชิน ตีไฟเลี้ยวกลายเป็นปัดน้ำฝนตลอด
แต่เรื่องนี้ขับไปสักพักก็คงจะชิน
เหยียบแรง มีช่วงอืดอยู่บ้างเล็กน้อยตอนออกตัว แต่ก็รับได้ ตอนเร่งขึ้นเสียงเทอร์โบฟังดูสะใจดี
ตัวที่อยากได้คือตัว Top ซันรูฟ เบาะหนัง เทอร์โบ
แต่พอดูรถโดยรวมแล้ว........กลับไม่อยากได้เพราะเจ้าซันรูฟนี่แหละ
เพดานรถด้านในช่วงที่เป็นกรอบซันรูฟมันนิ่มไป รู้สึกว่าคงมีหลายท่านที่ไปทดลองขับ ไปสัมผัสมันอย่างหนักหน่วงกันพอสมควร
มันจึงอ่อนยวบ เหมือนมีแค่โฟมอยู่ข้างใน แล้วลักษณะของมันห้อยลงมาเล็กน้อยจนดูผิดรูปทรงเดิมไป
สำหรับบ้านไหนที่ไม่มีเด็กๆ รุ่นนี้ก็น่าสนใจอยู่นะ แต่ถ้ามีเด็กๆ คงต้องระวังตรงนี้มากๆ เลยทีเดียว ซึ่ง ตัวเราเองเกรงว่าเราไม่สามารถดูเด็กๆ ได้ตลอด แน่นอนว่าซันรูฟเป็นที่ถูกอกถูกใจของเด็กๆ แต่เด็กๆจะห้อยโหนจนเพดานรถเสียรูปได้ดังเช่นรถทดลองขับที่เราไปลองขับมาไม่วันใดก็วันหนึ่ง เราจึงจำใจต้องตัดใจ จาก mg5 ไปโดยปริยาย ทั้งที่ชอบในอะไรหลายๆอย่าง เอาไว้เด็กๆ โตกันหมดแล้วเราค่อยว่ากันใหม่นะ
ความคิดเห็นที่ 4
ผมเข้าใจเจ้าของกระทู้ครับ รถป้ายแดง เธอจะต้องมีรูปตลอด จะเอารูปรถเปล่าๆ นี่มีเรื่องแน่ กลับเข้ามาเรื่องรถ ผมไม่ชอบคอนโซลครับมันดูเชยๆ อ่ะ เรื่องเครื่องคงเน้นการขับขี่ต่อเนื่องบูสมารอบต่ำแต่ไม่มาก แต่ชอบที่มีซันรูปนะ เวลาจอดรถตากแดดนานๆ เปิดแป๊บเดียวเย็นเลย
เรื่องท่าน ผบ ขอไม่แตะครับ ทุกคนมักจะมีมุมมองต่างกัน
ความคิดเห็นที่ 5
ผมทดลองขับขี่ของเพื่อนผมว่าดีเลยนะช่วงล่างแน่นดีครับการควบคุมและการเข้าโค้งทั้งระยะฟรีของพวงมาลัยแม่นใช้ได้ครับนํ้าหนักพอมีออกไปทางเบานิดๆตามราคางบเท่านี้ถือว่าดีนะครับส่วนเรื่องวัสดุและงานประกอบผมว่าทำได้ดีเกินมาตรฐานเลยครับวัสดุงานประกอบทั้งภายในและภายนอกผ่านเต็ม10ผมให้10ทำได้ตามมาตรฐานของกลุ่มเลยครับส่วนเรื่องอัตตราเร่งผมให้คะแนนไม่เท่าไหร่ครับถ้าไม่ใช่รุ่นturboผมชอบHonda cityที่สุดในกลุ่มนี้บอกเลยเพราะอัตตราเร่งยอดเยี่ยมสุดล่ะ
MG 5 มาพร้อมทางเลือกเครื่องยนต์ที่มีให้ถึง 2 รูปแบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ 15S4C DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-Tech ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เฉพาะในรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และ เครื่องยนต์รหัส 15S4G 4 สูบ 16 วาล์ว Turbo TCI-TECH ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เฉพาะในรุ่นเครื่องยนต์ Turbo 1.5 ลิตร โดยได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ใช้งาน MG 5 ที่กล่าวถึงขุมพลังของรถรุ่นนี้เอาไว้ว่า
ความคิดเห็นที่ 1
ไม่ได้ซื้อนะครับแต่เคยลองขับ วันนึงเต็มๆ รถในเครือ ช่วงล่างดี ที่สุดในราคานี้แล้วนะผมว่า อัตราเร่งตอนต้นเนี่ย ไมสมกับ โบ เท่าไหร่ แต่พอเกิน100 เริ่มมาครับ แรงเอาเรื่อง เบรคจิกอยู่โอเค เบาะสูงนั่งสบาย หนานุ่ม เกียร์ ฉลาดกว่าเดิมเยอะครับเทียบกับmg6 first Gen ข้อด้อยคือ อัตราสิ้นเปลือง ครับค่อนข้างกิน แต่เติม85ได้ เท่าที่ลองขับเกจน้ำมันลดเร็วพอตัว
อีกเรื่องนึงคือตำแหน่งของปุ่มคอนโซล กับ หน้าจอ navi ค่อนข้างยุ่งยาก
โดยรวมถ้าเล่น mg ผมว่า 5 คุ้มสุดครับ
ความคิดเห็นที่ 2
จากคนมี MG3 1คัน Vios CVT 1คัน และเคยลอง MG5 แล้ว
ถ้าจะเล่น MG5 แนะนำเป็นตัวเทอร์โบ ระบบเกียร์ การขับขี่ ฟังชั่น และวัสดุค่อนข้างเฟอเฟ็คจริงๆเมื่อเทียบกับราคา แทบจะไม่ต้องมองยี่ห้ออื่นเลย แต่อัตตราเล่งดันสู้ Vios ไม่ได้ทั้งๆที่เครื่องแรงกว่า การกินน้ำมันก็มากกว่า ลองคิดดูนะครับ ว่ารับได้มั้ย
ใช้มาปีกว่าๆ ครับ โอเคนะ เครื่องยนต์และเกียร์ไม่มีปัญหา หลายคนใช้รุ่นนี้ก็ไม่มีปัญหา ปัญหาที่เจอจะเป็นเรื่องเบรคดัง ที่แก้ไม่ได้ ก็ต้องทนกันไป ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่ เหยียบแน่นๆ มันก็ไม่ดัง
ฟีลลิ่งการขับรวมๆ จัดว่าโอเคครับ ส่วนตัวผมว่า Mazda 2 Diesel ขับสนุกกว่า ข้อดีของมันคือตัวถังกว้าง
พวงมาลัยหน่วงน้ำหนักมาดี การควบคุมสมเหตุสมผล ที่ความเร็วต่ำเบา ที่ความเร็วสูงจะหนัก
ช่วงล่างจะหนึบแน่นและตึงตัง มั่นใจที่ความเร็วสูง แต่เวลาเจอทางขรุขระจะรู้สึกสะเทือนลำไส้ใหญ่มาก
อัตราเร่งช่วงต้นมีการหน่วงคันเร่งแบบชัดเจนครับ เกียร์ 1->2 จะเปลี่ยนช้ามาก คนแก่บอกว่าชอบเพราะรู้สึกนุ่มนวล แต่ผมรู้สึกอึดอัด ช่วงความเร็วเกิน 40 จะขับได้ง่ายครับ บูสมาไวแรงบิดดีสั่งได้ดั่งใจ แต่ช่วงความเร็ว 60 กว่าๆ เขียนโปรแกรมคันเร่งมาแปลกๆ ไม่ค่อยยอม Kick Down ให้ มันจะค้างอยู่เกียร์ 6 ทำให้บางทีพอจะเร่งต้องตบเกียร์ไป Sport ไม่งั้นเร่งไม่ขึ้น
อัตราการกินน้ำมันจัดว่ากินหนักพอควรครับ E20 ในเมืองวิ่งได้ 8-10 km/l นอกเมืองวิ่งได้ 13-15 km/l
ข้อดีเด่นๆ ที่ผมประทับใจเทียบกับรถรุ่นอื่นในราคาใกล้ๆ กันก็จะมี
1. กล้องถอยหลังแบบหมุนตามพวงมาลัย อันนี้ทำให้ถอยจอดได้ง่ายมาก
2. ตัวถังใหญ่กว่าชาวบ้าน แต่หลังคาดันลาดลง ถ้าครอบครัวตัวสูงจะรู้สึกอึดอัด
3. เบรคดีมากครับ ถ้าเทียบรถเดิมๆ จากโรงงานผมว่าระยะเบรคน่าจะสั้นสุดในราคาเท่านี้ละ เคยเทียบกับ Mazda 2 แล้วระยะเบรคมันสั้นกว่า อาจจะเพราะยางแถม Mazda2 มันเป็นยางประหยัดน้ำมัน ลื่นปื๊ดเลยเบรคไม่ค่อยอยู่
4. มีซันรูฟ ส่วนตัวไม่ได้ใช้เลย แต่บางคนบอกว่ามีก็ดีกว่าไม่มี ส่วนตัวผมว่าถ้าเอาออกแล้วลดราคาลงซัก 2 หมื่นน่าจะดี
5. มีระบบตรวจเช็คลมยาง อันนี้ผมว่ามีประโยชน์มาก ผมโดนตะปูตำมา 2 รอบ ถ้าไม่มีระบบนี้ผมก็จะไม่รู้เลย ขับๆ ไปยางอาจจะระเบิดได้ บางคนบอกว่าให้ไปซื้อหัวจุกบลูทู้ธวัดเอาราคา 3000 กว่าๆ ก็วัดได้รู้แร่งดันด้วย แต่ผมมีเพื่อนซื้อมาใช้ได้เดือนเดียวโดนคนขโมยถอดจุก เหมือนเงินหายไป 3000 เฉยๆ เลยรู้สึกว่าเราไม่ควรเอาของแพงๆ มาติดไว้ที่ล้อรถยนต์
ก็ประมาณนี้ครับ สรุป
ถ้าอยากได้อ็อปชั่นครบๆ ในราคาเท่านี้ - เอาฮอนด้า Jazz หรือ City ดีกว่า ได้ถุงลม 6 ใบด้วย
ถ้าอยากได้รถขับสนุกสุดๆ - เอามาสด้า 2 ตัวท็อปแล้วไปเปลี่ยนยางดีกว่า
ถ้าอยากได้รถคันใหญ่ ขับสนุก อัตราเร่งพอได้ เซฟตี้ครบๆ มีซันรูฟ ไม่ต้องแต่งเพิ่ม - MG5 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ
ความคิดเห็นที่ 3
ผมใช้ตัวธรรมดา ลองตัว top แล้วไม่ชอบตรงที่เทอร์โบเปิดในจังหวะไล่เลี่ยกับการชิฟท์เกียร์ขึ้นสูง ผลคือรถกระชากไปข้างหน้าเพราะอัตราเร่งเพิ่มขึ้น มันมันมากตอนเร่งแซงบนทางหลวง แต่เป็นเรื่องน่าหวาดเสียวพอใช้สำหรับการขับในเมือง
สมรรถนะในการขับขี่และทรงตัวดีครับ สาดโค้งที่ความเร็งสูงๆ ได้โดยไม่ปัด ไม่หน่วงพวงมาลัยจนตึงมือ ระยะเบรคสั้นจนน่ากลัวโดนชนท้าย
กินน้ำมันกว่ายี่ห้ออื่นที่ขนาดเครื่องยนต์ไล่เลี่ยกันที่เคยใช้มา
อุปกรณ์เสริมไฮเทคในรถนั่นผมใช้ไม่ครบหรอก เพราะเป็นคนขับ สนใจแต่ถนนกับพวงมาลัยเท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 4
ได้ข่าวว่าตัวธรรมดา วิ่งในเมืองจะประหยัดกว่า
ส่วนตัว turbo วิ่งทางไกลจะคุ้มกว่า
ความประหยัด VIOS จะประหยัดกว่าในอัตราการกินน้ำมัน เพราะ น้ำหนักรถเบากว่าเยอะมาก
ภายใน CITY มีมาให้เยอะสุด
แต่ความปลอดภัย MG5 กินขาดตั้งแต่ตัวล่างสุด
ความกว้างของตัวรถ City กว้างสุด
ช่องเก็บของท้าย MG5 มากสุด
อัตราเร่ง MG5 ตัวธรรมดาน่าจะพอๆกับ VIOS และ CITY แต่ตัว MG5 TURBO ดีที่สุด
ความกว้าง+สูง ห้องโดยสาร MG5 มากที่สุด
ความคิดเห็นที่ 5
mg5 ดีครับใครถามผมๆบอกตรงๆเลยเป็นรถประสิทธิภาพดี แต่คุณภาพต่ำ(กว่าเจ้าอื่น) พลาสติก ส่วนประกอบต่างๆอาตไม่ดีเท่า อัตตราซดน้ำมัน มากถึงมากที่สุด อะไหล่ค่อนข้างแพงและหายาก แต่ถ้าเอาเรื่องเกาะถนน อัตตราเร่งในราคารถที่เท่ากัน ผมว่าmg5 ดีที่สุด เปรียบง่ายๆเหมือนโทรศัพท์จีนที่มีทุกฟังค์ชั่นน่ะแหละในราคาเบาๆ ใครชอบก็ซื้อไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อ สรุปง่ายๆถ้าใครต้องการรถประสิทธิภาพดีๆ ราคาถูกไม่สนเรื่องน้ำมัน ไม่สนขายต่อ เอาปลอดภัยเป็นที่ตั้ง เลือกmg ถ้าสนใจประหยัดน้ำมัน ขับทั่วๆไป อะไหล่ถูก เอายี่ห้ออื่นครับ
MG 5 เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ในทุกเส้นทางด้วยการนำโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF ที่สามารถปกป้องห้องโดยสารจากแรงกระแทกได้รอบทิศทาง อีกทั้งยังนำระบบกล้องมองภาพด้านหลังพร้อมสัญญาณกะระยะ รวมไปถึงการนำระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลันแบบ MSR ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งแบบ CBC และระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถลแบบ TCS เข้ามาติดตั้งไว้ในรถรุ่นนี้อีกด้วย ทั้งนี้ได้มีผู้แสดงความคิดเห็นถึงระบบความปลอดภัยใน MG 5 ดังนี้
ความคิดเห็นที่ 1
เทคโนโลยีสมัยใหม่ เขาบอกว่าเหล็กที่บางหรือพลาสติกที่เอามาทำเป็นส่วนประกอบตัวรถ
มันจะช่วยลดแรงกระแทกขณะชน ซึ่งทำให้ดูเหมือนบอบบางและเสียหายมาก แต่ในทางกลับกัน
ห้องโดยสารจะปลอดภัยกว่า เมื่อเกิดแรงกระแทกอย่างแรง ยิ่งถ้ามาเจอเหล็กหนา+หนา ความรุนแรงก็จะมากขึ้น
ความคิดเห็นที่ 2
ผมจองมาในงานมอเตอร์เอ็กโปร
แล้วเมื่อเช้าได้มีโอกาสทดสอบในสนาม
เทสหนักอย่างมันหนึบมาก ค้นเก่าผมใช้เจ้าตลาดเคยเจอมากัยตัวหักหลบกระทันหันท้ายนี้ปัดเลยในตัวmg5ผมมั่นใจช่วงล่างมากกก
เครื่องยนต์1500เทอร์โบ มันครับ
ผมจองโดยไม่ลังเลและไม่กังวน อนาคตไดลครับตัวนี้
เรื่องความปลอดภัย ผมมองว่าเขาเน้นไปทางก่อนชนเสียมากกว่า ระบบต่าง่มันช่วงให้ผ่านอุปสรรคหรือสถานการณ์แย่ๆได้
ผิดกับเจ้าอื่นที่คิดไปทาหลังชน
เมื่อวานผมก่อนเข้างานเจอ ciชนยุบทั้งหน้าและหลัง
รถเราจะไปถามคนอื่นเพื่อไร เราขับเองนะเงินเรานะ
ความคิดเห็นที่ 3
จอง MG5 มาแล้วครับ
ดูงานประกอบและความปลอดภัยแล้ว
ดีกว่ารถญี่ปุ่นครับ (คหสต.)นะครับ
แต่ลองไปดูตัวจริงเองด้วยตาดีกว่าครับจะรู้เอง
ความคิดเห็นที่ 4
เป็นรถที่น่าสนใจมากครับ แอบเชียร์ให้ไปรุ่ง ชอบตรงระบบความปลอดภัยให้มาครบๆ เลย
ที่ห่วงคือเรื่องของความทนทานในทุกๆ ส่วน โดยเฉพาะเครื่องและเกียร์ เรื่องอะไหล่ (การสำรองอะไหล่)
cp น่าจะจัดโปรโมชั่นให้พนักงานของตัวเองซื้อ จะได้เป็นทดสอบไปในตัว อีกทั้งช่วยเพิ่มยอดขายในระยะการก่อร่างสร้างแบรนด์
โดยส่วนตัวคิดว่า แบรนด์นี้ น่าจะแจ้งเกิดได้อย่างช้าๆ แต่คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีกสัก 7 ปี
...
ดูเพิ่มเติม: