15:19, 21 พ.ค. 2564

รู้ไว้ใช่ว่า ค่าแบตเตอรี่รถยนต์ คืออะไร?

บันทึกรายการ

เคยสงสัยมั้ย? ค่าแบตเตอรี่รถยนต์คืออะไร? หากค่า CCA ต่ำจะส่งผลอย่างไร และควรเปลี่ยนเมื่อไหร่


ค่า CCA แบตเตอรี่ คืออะไร?

ค่า CCA (Cold Cranking Amp) คือ จำนวนกระแสไฟฟ้าที่แบตเตอรี่สามารถส่งออกมาได้ในเวลา 30 นาที เพื่อสตาร์ตเครื่องยนต์ที่อุณหภูมิต่ำ ยิ่งมีค่า CCA มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีกำลังในการสตาร์ตจะสูงขึ้นเท่านั้น กลับกันหากค่า CCA ต่ำ ก็จะส่งผลให้รถสตาร์ตไม่ติดนั่นเอง

การวัดค่า CCA นั้น ผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับมาตรฐานที่ถูกกำหนด เช่น หากวัดค่า CCA ของแบตเตอรี่ 1 ลูกตามมาตรฐาน SAE จะได้ 480 แต่ถ้าวัดตามมาตรฐาน EN แล้วจะได้ 430 เป็นต้น โดยมาตรฐานของค่า CCA มีดังนี้

  • มาตรฐาน SAE
  • มาตรฐาน EN
  • มาตรฐาน IEC
  • มาตรฐาน DIN

การเลือกใช้มาตรฐานขึ้นอยู่กับความนิยมในเขตพื้นที่นั้น ๆ สำหรับในประเทศไทยจะนิยมใช้มาตรฐาน SAE

อีกปัจจัยหนึ่ง ขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของแบตเตอรี่ ซึ่งแต่ละรุ่นจะให้กำลังไฟที่แตกต่างกัน เช่น แบตเตอรี่ 60 แอมป์ แบตเตอรี่แบบแห้ง วัดค่า CCA ได้ 580 ส่วนแบตเตอรี่แบบน้ำ วัดค่า CCA ได้ 540 เป็นต้น


การวัดค่า CCA ขึ้นอยู่กับมาตรฐานที่ถูกกำหนด


แบตเตอรี่ควรจะมีความจุตั้งแต่ 12.4 โวล์ตขึ้นไป

ค่าแบตเตอรี่รถยนต์ที่ควรเปลี่ยน?

หากวัดได้ค่า CCA ได้น้อยกว่าปกติหรือต่ำกว่า 300 CCA จนขาดกำลังในการสตาร์ต อาจมีสาเหตุมาจากกำลังไฟในแบตเตอรี่อ่อนกำลังลงหรือใกล้จะหมด จึงต้องชาร์จไฟให้เต็มแล้วค่อยวัดใหม่ แต่ถ้าชาร์จไฟแล้วยังวัดค่า CCA ได้น้อยอยู่เป็นไปได้ว่าแบตเตอรี่อาจจะเสีย ควรให้ช่างตรวจสอบและเปลี่ยนใหม่ให้

การชาร์จแบตเตอรี่ ต้องคำนึงถึงขนาดความจุที่หลงเหลืออยู่ก่อนจะชาร์จ จึงจะกะเวลาถูกว่าควรชาร์จนานเท่าไหร่ แรงดันชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไม่ควรสูงจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดระเบิดได้ ทางที่ดีควรใช้กระแสไฟต่ำ ๆ แม้จะใช้เวลานาน แต่ก็ยืดอายุการใช้งานให้นานกว่าการอัดไฟเข้าไปเยอะ ๆ ให้แบตเตอรี่เต็มเร็ว

วิธีการคำนวณกระแสไฟที่ควรชาร์จ

  • 10% x ขนาดความจุแบตเตอรี่ (Ah) = กระแสที่ควรชาร์จ

ตัวอย่าง

แบตเตอรี่รถยนต์ 12V ความจุ 90AH

  • 0.1 x 90 = 9.0

วิธีการคำนวณระยะเวลาในการชาร์จ

  • 65% x ขนาดแบตเตอรี่ (Ah) = จำนวน Ah ที่ต้องชาร์จเพิ่ม
  • จำนวน Ah ที่ต้องชาร์จเพิ่ม ÷ กระแสที่ควรชาร์จ = จำนวนชั่วโมงในการชาร์จ

ตัวอย่าง

แบตเตอรี่รถยนต์ 12V ความจุ 90AH

  • 0.65 x 90 = 58.5
  • 58.5 ÷ 9.0 = 6.5 ชั่วโมง

หมายความว่า ควรชาร์จไฟเพิ่ม 58.5 AH ด้วยกระแสชาร์จ 9.0A เป็นระยะเวลา 6.5 ชม.


การชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ ควรทำอย่างสม่ำเสมอ

การชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ ควรทำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อหล่อเลี้ยงกระแสไฟ และช่วยให้ค่า CCA ลดช้าลง ชะลอการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ แต่ระหว่างการชาร์จ ควรเช็กระกับแบตเตอรี่อยู่ตลอดและไม่ควรเปิดไฟหน้าทิ้งไว้ข้ามคืน

การเลือกแบตเตอรี่รถยนต์ ควรเลือกตามขนาดของรถและพฤติกรรมการใช้งานของผู้ขับขี่ ราคาของแบตเตอรี่รถยนต์ ขึ้นอยู่กับขนาดกำลังไฟ ประเภท และยี่ห้อของแบตเตอรี่ ยิ่งค่า CCA สูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีราคาสูงขึ้นเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม >>

ในหมวดเดียวกัน