หลายคนพบปัญหา "เสียงดัง" ในรถยนต์ Honda HR-V
Honda HR-V ยอดรถยนต์อเนกประสงค์สไตล์ครอสโอเวอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม พร้อมทางเลือกรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีให้ถึง 4 รุ่น ได้แก่ รุ่น S , รุ่น E , รุ่น E Limited และ รุ่น EL เริ่มต้นเพียง 930,000 บาท ติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.8 ลิตร ผสานเข้ากับกับการดีไซน์โครงสร้างตัวถังอย่างพิถีพิถันเพิ่มความสบายมากยิ่งขึ้นด้วยฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครัน แม้จะมีจุดเด่นในเรื่องของเครื่องยนต์ และ เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าแต่ Honda HR-V ก็ยังคงมีจุดด้อยอยู่บ้างในส่วนของเสียงดังที่รบกวนผู้ขับขี่อยู่เสมอ ทั้งนี้ได้มีผู้ใช้งานสื่อออนไลน์โพสต์บอกเล่าถึงประสบการณ์ที่พบเจอดังนี้
ความคิดเห็นที่ 1
เสียงจะดังหน่อยเมื่อวิ่งบนถนนคอนกรีตครับ ถ้ายางมะตอยไม่ดัง เป็นยางดันล็อป แก้มค่อนข้างเตี้ย ลายสปอร์ต มันเลยดังหน่อย แต่ดังแบบเสียงยางบดถนน ไม่ได้ดังกราวสนั่น สะท้าน
วิธีแก้ในความเห็นส่วนตัวผม เมื่อจะต้องเปลี่ยนชุดต่อไปจะลองใช้มิชลิน เพราะเจ้านี้เน้นนิ่ม เงียบ
ฮอนด้าที่เคยใช้มาก็เงียบนะครับ แต่ตอนใช้นั้นเป็น CRV G2 หน้ายางยังไม่กว้างมาก ซึ่งมันนานมาแล้ว
แต่ถ้าสนใจยังมีเวลาให้คิดเยอะครับ เพราะตอนนี้เซลไม่รับจอง ยอดจองเท่าที่มีตอนนี้ยังผลิตส่งไม่ทัน ทราบว่าต้นปีคงจะเปิดรับจองใหม่ พร้อมราคาใหม่(ที่แพงขึ้นบ้าง)
ดูราคา Audi R8 ที่นี่
ความคิดเห็นที่ 2
ผม คห. 1 นะ มาตอบอีกรอบ
เท่าที่รู้จัก Honda / เคยนั่งรถ Honda เค้ามานะ Honda เค้าเก่งเรื่อง
- ออกแบบให้สวย
- เครื่องยนต์ ประสิทธิภาพสูง
แต่เรื่อง เสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร ... ไม่ได้เรื่อง ครับ
คงมีเรื่องนี้อย่างน้อยเรื่องนึงแหละ ถ้าเอาไปเทียบกับ ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นยี่ห้อใหญ่ๆ ยี่ห้ออื่นๆ เช่น Toyota , Nissan
ความคิดเห็นที่ 3
นั่งของเพื่อนมา ค่อนข้างดังครับ ทั้งเสียงรถรอบข้าง เสียงยาง เก็บเสียงรอบตัวทุกอย่างเข้ามาห้องโดยสารได้ดีทีเดียวของผมเจอแค่เสียงยางบดถนนนะที่ดัง... พอสลับมาขับ Camry Mc นี่คนละเรื่องเลย
เท่าที่ใช้มา 3 วัน อัตราเร่งดีครับ แต่เหมือนจะกินน้ำมันมากกว่า Camry MC extremo
ช่วงล่างก็แข็งๆ ประกอบกับเบาะแข็งๆแน่นๆยิ่งทำให้รู้สึกกระด้างตอนขับ
ส่วนเรื่องไม่เกาะถนนนี่ผมไม่รู้สึกนะ หรือขับไม่เคยเกิน 110 ก็ไม่รู้
พวกฟังก์ชั่นหน้าจออะไรพวกนี้ผมว่า Camry MC เข้าใจง่ายกว่านะ
ความคิดเห็นที่ 4
เรื่องเสียงผมว่า HRV ที่ความเร็วต่ำๆเงียบกว่า FD 2.0 อีกนะ
ฮอนด้าแบรนด์นี้เก็บเสียงแพ้คู่แข่งนิดนึงแต่เรื่องเครื่องยนต์นี่เป็นจุดขายของเขา
ความคิดเห็นที่ 5
ใช่ครับ Honda เรื่องเก็บเสียงสู้ค่ายอื่นไม่ได้ เคยได้ Accord G8 มาสลับใช้กับ Camry acv40 อยู่พักนึง
Camry เงียบกว่า นิ่มกว่า พอสมควร ยิ่งถ้าเทียบกับ Teana ยิ่งไปกันใหญ่
แต่ HRV นี่ก็ไม่ไหวจริงๆ คันละเป็นล้าน เก็บเสียงดีกว่า สวิฟ มิราจ นิดเดียว เฮ้อออออ
ความคิดเห็นที่ 6
ผมใช้ HR-V อยู่ จะ 1 ปีละ
เรื่องเสียงรบกวนผมว่า มันเงียบกว่า Swift ECO อีกคัน นิดเดียวเอง
เสียงรบกวน ไม่หงุดหงิดเท่าเสียงก็อกแก๊ก ภายในและช่วงล่างครับ
ถ้าตัดสินใจเอาแล้ว ขอให้โชคดี ได้รถที่ไม่มีปัญหานะครับ
เพราะถ้ามี ปวดหัวแบบผมแน่
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้าชอบก็ต้องทำใจครับ จ่ายตังไปทำดูท่าได้ไม่คุ้มเสีย หรือนานๆไปทนฟังแล้วลำบากใจก็ลองไปแดมป์ดู แต่มาใหม่ๆ ไปรื้อนี่เสียดาย เผลอๆ ทำไม่ดีนี่เสียใจอีก
ส่วนซุ้มล้อหลังถ้าจำไม่ผิดเหมือนซุ้มล้อหลังจะเป็นพรมกำมะหยี่ ไม่แน่ใจพ่นอะไรเข้าไปได้ไหม
เรื่องช่วงล่างถ้าไม่ค่อยเกิน 110 ก็สบายๆครับ เป็นรถที่น่าใช้ส่วนตัวเห็นว่าใช้ในเมืองเป็นหลักนานๆออกด้านนอกทีนี่เหมาะมาก
ความคิดเห็นที่ 8
ใครเป็นเจ้าของ Honda HR-V ขอให้แวะอ่านสักนิดนะครับ
ข้อความข้างล่างนี้คือ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ HR-V จากเจ้าของและผู้ใช้งานจริง
1) ช่วงล่างด้านหน้ามีเสียงดังกรักๆ ปกติจะดังหนุบๆ เวลาผ่านลูกระนาดเล็กๆคมๆ จะเจอเสียงนี้ค่อนข้างชัด
ปัญหามาจากชุดแรคพวงมาลัยครับ รถวิ่ง 20000 โล ผมเปลี่ยนมา 3 อันละ รถผมน่าจะเป็นเคสใหญ่ hr-v แรกๆของ ฮอนด้าประเทศไทย เลยละ เปลี่ยนรื้อช่วงล่างหน้าไปเกือบหมด ไม่เจอตัวการ งมทั้งช่างศูนย์ทั้งช่างสำนักงานใหญ่ จนมาเจอแรคตัวปัญหา
เปลี่ยนใหม่ แรกๆเงียบเลย แน่นอยู่ซัก 3 อาทิตย์กลับมาดังอีก เหมือนใช้ไปมันเริ่มคลอน ผมเปลี่ยนขนาดนี้แล้วยังดัง ผมเชื่อเลยนะว่าเป็นทุกคัน ในคลับ hr-v club พอผมโพสไป ผู้ใช้เกิน 70% อาการเดียวแป๊ะ! ผมว่าทำยังไงก็ไม่หาย ถ้าไม่พัฒนาพาร์ทมาใหม่ อ่อนแอมาก
2) ตอนปล่อยรถไหลๆซักความเร็ว 20 30 แล้วเร่งส่งต่อ มีการกระแทกกึกๆ รับรู้ได้ถึงแป้นคันเร่ง เหมือนเก่ารถเพลาขับหลวมมันเร่งส่งแล้วมันจะกระแทกกึกๆตึกๆอะไรทำนองนั้นครับ รวมถึงเสียงคล็อกๆเบาๆตอนเร่ง/ถอนคันเร่ง (กลางคืนเงียบๆจะได้ยินชัด) มีเสียงทุกครั้ง เป็นจังหวะตัดต่อ จับ/ปล่อย ของเกียร์เรื่องกึกๆไม่เป็นทุกครั้งแต่บ่อย น่ารำคาญมาก ซื้อรถใหม่ให้ฟีลเหมือนรถเก่า
ปัญหาทั้ง 2 เสียง ตามที่ช่างบอกมาจาก ชุด inboard เพลาหน้าครับ มีระยะ clearance ให้ตัว ทำให้เกิดเสียงได้ เค้าบอกเป็นปกติ ซึ่งผมอยากจะถุยใส่หน้าไอคนออกแบบมาก ti อีกคนบอกเป็นเสียงการทำงานของชุด torque converter ในชุดเกียร์ ไม่รู้จะฟังใครดีแน่ แต่ทั้งคู่ก็ยืนยัน นี่คือปกติ...
ความคิดเห็นที่ 9
รถมีอาการแปลกๆ ตั้งแต่รับรถมาวันแรก เจอทางต่างระดับมีเสียง จากด้านหน้าดังกึก ก็คิดว่าไม่มีอะไรหรือถ้าเป็นอะไร ก็คงแก้ไขได้ แต่สุดท้ายคิดผิด!!!!
มีอาการอื่นตามมาอีกเยอะเลย ทิ้งรถไว้ที่ศูนย์ 2 เดือนเพื่อแก้ไข
ออกมาแป๊บเดียวก็กลับมาเป็นอาการเดิม ก็เข้าใจได้ว่ารถรุ่นไหนก็มีปัญหา
แต่ไม่เข้าใจเลยคือ มีปัญหาแต่ทำไมแก้ไขไม่ได้ product คุณเองยังแก้ไม่ได้
แล้วที่ไหนจะแก้ไขได้ หรือต้องให้ไปจบที่ร้านเฉพาะทาง แล้วจะมีศูนย์กับการรับประกันไว้ทำไม
จุดพีคสุดคือ piano black คอนโซลเกียร์มีรอยร้าว ทำเรื่องเคลม ตั้งแต่ พ.ย. 58 จนถึง มี.ค.59 ยังไม่ได้ของ ได้รับแจ้งว่า "ขอเอาไว้ประกอบรถใหม่ก่อน"
มันคืออะไร!!!!!!!
สุดท้ายทนไม่ไหว ขอยอมแพ้ ต่อคุณภาพและบริการอันห่วยแตก ก็ต้องขายทิ้งไป
ความคิดเห็นที่ 10
ตอนนี้ใช้รถมา 1 ปี สิ่งที่ต้องทนอยู่ทุกวัน คือ 1. เสียงในห้องโดยสารหน้าคอนโซล มันมีเสียงดังเหมือนคอนโซลหลวม 2. เวลาแตะเบรคจะได้ยินเสียงเบรค เอี๊ยดๆ จี๊ดๆ ที่บริเวณล้อหลัง (อาการนี้เอาเข้าศูนย์กลับมา 2 วันเป็นใหม่ ทั้งหน้าฝน หน้าร้อน) 3. เครื่องยนต์มีเสียงดัง กึกๆๆๆ ตลอดเวลา ที่ติดเครื่องยนต์ เอาเข้าศูนย์ช่างบอกว่า ปกติ แต่คือตอนนั้นรถยังใหม่ป้ายแดง แต่งงว่าทำไมมันมีเสียงดัง 4. เสียงคอมแอร์จะตัดเสียงดังมาก เหมือนจะดังสู้กับเสียงกึกๆ
ความคิดเห็นที่ 11
มายกมือค่ะ ทางขุขระเล็กน้อยก็เป็นค่ะ ข้อแรกเลย เบรคปุ๊บมันดังกึกๆ เหมือนกระแทกอะไรไม่รู้ น่ารำคาญมาก แล้วก็เวลาจอดรถกดเบรคมือ มันดังเอี๊ยด เอาเข้าศูนย์บอกปั๊มลมเบรคเสีย รออะไหล่ 6 เดือน เปลี่ยนใหม่ใช้ได้3เดือนเป็นอีก ตอนนี้เลยปล่อยไว้เฉยๆ
ความคิดเห็นที่ 12
เราใช้รุ่น top2016 ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเลยค่ะ จะมีคือเสียงคอนโซลดังที่ไม่ชอบ แต่การขับขี่รู้สึกดีมาก คนที่มาขับคันนี้ก็ว่าดีมาก มาอ่านนี่ตกใจเลย จริงๆถ้าขนาด 70% มีอาการหนัก ฮอนด้าควรปรับปรุงมากกว่านี้นะ ส่วนตัวรู้สึกโชคดีที่ยังใช้ได้ดีมาตลอด
ความคิดเห็นที่ 13
ผมถอย HR-V จะได้เดือนหนึ่ง ปัญหาที่พบคือเวลาเข้าเกียร์ D แล้วออกตัว จะชอบมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดตลอดแล้วก็หาย
สำหรับวิธีการแก้ปัญหาเสียงดังภายใน Honda HR-V โดยเฉพาะระบบห้ามล้อที่มักส่งเสียงดังในขณะทำการเบรกอาจมีสาเหตุสืบเนื่องมาจากแรงฝืดในจานเบรก เพราะเมื่อผู้ขับขี่ขับรถออกไปมนสถานที่ต่างๆจานเบรกจะหมุนทำงานอยู่ตลอดเวลายิ่งในช่วงการจราจรแออัดด้วยแล้วมักมีเสียงดังออกมาอยู่เสมอ อีกทั้งในกรณีที่จานเบรกขึ้นสนิม หรือ มีฝุ่นเกาะ เนื่องจากการขับรถลุยแอ่งน้ำด้วยสาเหตุหลายประการเหล่านี้อาจทำให้รถท่านมีเสียงดังขณะเบรกได้
เพราะฉะนั้นควรนำรถเข้าไปตรวจเช็คระบบห้ามล้อกับศูนย์บริการเพื่อความปลอดภัยและขจัดเสียงรบกวน นอกจากนี้แล้วการเปลี่ยนยางก็นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับผลดีหากต้องการลดเสียงรบกวน เพียงเลือกใช้ยางที่มีคุณสมบัติลดแรงกระแทกและมีความนุ่มนวลสูงก็สามารถที่จะช่วยลดเสียงดังลงได้ระดับหนึ่ง
ฉีดพ่นสเปรย์ลดเสียงรบกวนบริเวณใต้ซุ้มล้อ
ส่วนในกรณีที่มีเสียงดังออกมาจากล้อ หรือ ซุ้มล้อ ผู้ขับขี่สามารถทำการแก้ไขได้ด้วยตนเองเพียงใช้สเปรย์สำหรับพ่นกันเสียงใต้ซุ้มล้อที่มีจำหน่ายอยู่ในห้างสรรพสินค้าทั่วไปในปัจจุบัน นำมาพ่นลงไปยังบริเวณซุ้มล้อทั้ง 4 ข้าง แล้วปล่อยให้แห้งประมาณ 30 นาที โดยลักษณะของสเปรย์จะเป็นเหมือนยางเคลือบสีดำมีคุณสมบัติป้องกันเสียงจากล้อเข้ามาภายในห้องโดยสาร สำหรับราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1 กระป๋องเพียง 200-300 บาทเท่านั้น อีกทั้งเพื่อการเก็บเสียงให้เงียบสนิทควรพ่นข้อต่อต่างๆบริเวณใต้ท้องรถเพิ่มเติมด้วย
ส่วนในกรณีที่มีเสียงดังภายในห้องโดยสารหากมีเสียงที่ดังไม่มากนักอาจลองเปิดเพลงให้มีเสียงดังดูบ้าง หรือ ติดตั้งชุดเครื่องเสียงใหม่ที่ให้เสียงถูกใจแล้วเปิดขับกล่อมในขณะที่ทำการขับขี่ก็อาจกลบเสียงรบกวนดังกล่าวลงได้บ้าง แต่ในกรณีที่มีเสียงดังมากจนรบกวนสมาธิในการขับขี่ก็สามารถที่จะแก้ไขได้ด้วยการนำรถของท่านเข้าไปยังศูนย์บริการแล้วบอกช่างให้ทำการติดตั้งแผ่นแดมป์ (แผ่นกันเสียง) บริเวณประตู เพดานห้องโดยสาร และ พื้น ก็สามารถช่วยป้องกันเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นภายในห้องโดยสารได้อีกทางหนึ่ง ในปัจจุบันมีให้เลือกอยู่หลายเกรดแล้วแต่ความพอใจของตัวผู้โดยสารเอง
ติดตั้งแผ่นแดมป์ลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร
ประเด็นต่อมาในกรณีที่เกิดเสียงดังขึ้นที่เบาะนั่งแก้ไขได้ไม่ยากเพียงปรับตั้งตำแหน่งเบาะนั่งใหม่ เนื่องจากในบางครั้งการปรับตั้งโดยตัวผู้โดยสารเองอาจทำให้มีชิ้นส่วนของเบาะไปเสียดสีกับอุปกรณ์อื่นอยู่จนทำให้เกิดเสียงขึ้น ทั้งนี้ผู้ขับขี่ควรปรับตั้งพร้อมทั้งทดลองนั่งบนเบาะดูว่าจะมีเสียงผิดปกติอีกหรือไม่หากยังไม่บรรเทาลงควรนำรถของท่านเข้าไปตรวจเช็คที่ศูนย์บริการต่อไป
ส่วนเสียงลมรบกวนภายในห้องโดยสารสามารถแก้ไขได้โดยเปลี่ยนยางขอบประตูซึ่งอาจมีการเสื่อมสภาพจนทำให้มีเสียงลมเข้ามาภายในห้องโดยสาร นอกจากนี้แล้วหากยังแก้ไขเสียงดังจากลมไม่ได้ให้ผู้ขับขี่ติดตั้งยางกันเสียงรบกวนเพิ่มเติมได้โดยทำการติดตั้งในตำแหน่งใกล้เคียงกับยางขอบประตูก็สามารถลดปัญหาเสียงลมเข้ามาภายในห้องโดยสารได้เช่นกัน
สำหรับปัญหาเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารสามารถเกิดขึ้นได้กับรถทุกยี่ห้อ เพราะฉะนั้นผู้ขับขี่จึงควรตั้งสติแล้วค้นหาจุดที่ทำให้เกิดเสียงให้แน่ชัดก่อนทำการแก้ไขไปตามความเหมาะสมครับ
ดูเพิ่มเติม: