เครื่องยนต์คืออะไร “เบนซิน” กับ “ดีเซล” เลือกอะไรดี และถ้าจะให้ทันยุคเข้าสมัยหลายคนอาจมองไปที่เครื่องยนต์ไฮบริดหรือถ้ามองการณ์ไกลยิ่งกว่านั้นจะเลือกระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบไปเลยดีไหม ประเภทของเครื่องยนต์แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอย่างไร เราจะพาไปไขคำตอบกัน
เครื่องยนต์เบนซิน
เครื่องยนต์เบนซินนับเป็นขุมพลังที่ได้รับความนิยมแพร่หลายพบเห็นได้ในรถยนต์นั่งทั่วไป โดยระบบเครื่องยนต์เบนซินในปัจจุบันจะมีตั้งแต่ 3 สูบ ไปจนถึง 8 สูบ ส่วนแบบ 12 สูบ และ 16 สูบ ยังมีหลงเหลืออยู่บ้างแต่มักอยู่ในรถยนต์น้อยรุ่นและมีราคาสูงจัด นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการวางกระบอกสูบ เช่น สูบเรียง สูบวี (กางกี่องศาก็ว่าไป ถ้าสูบนอนก็คือสูบวีที่กาง 180 องศา) รวมถึงขนาดความจุแตกต่างกันไป
ข้อดี
ของเครื่องยนต์เบนซินคือทำงานราบเรียบ เงียบ แรงสั่นสะเทือนน้อย (โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล) ปล่อยมลพิษต่ำ สามารถแรงม้าได้สูงกว่า
ข้อเสีย
ความสิ้นเปลืองและค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสูงกว่าดีเซล (ในไทย) ขณะที่แรงบิดต่ำกว่า ความทนทานน้อยกว่า
เครื่องยนต์ดีเซล
อดีตเครื่องยนต์ดีเซลมักใช้งานในรถเพื่อการขนส่งหรือเพื่อการพาณิชย์เป็นหลัก ต่อมา (ไทย) มีการผลักดันให้เชื้อเพลิงดีเซลมีราคาต่ำลงและนำมาใช้ในรถกระบะขนาด 1 ตัน (รถกระบะไทยยุคแรกยังใช้เบนซิน) ขยายต่อมาจนถึงรถหรู
ข้อดี
ในรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำ ขุมพลังดีเซลให้แรงบิดได้สูงกว่าเบนซิน ทนทานและประหยัดกว่า
ข้อเสีย
เสียงและแรงสั่นสะเทือนของการทำงานมีมากกว่า ค่าบำรุงรักษาสูงเมื่อเกิดความเสียหาย ตัวเครื่องยนต์มีน้ำหนักมาก ปล่อยมลพิษสูงโดยเฉพาะเขม่าที่เกิดจากการเผาไหม้
เครื่องยนต์ไฮบริด/ปลั๊ก-อิน ไฮบริด
เครื่องยนต์ไฮบริดคือการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายใน (จะดีเซลหรือเบนซินก็ได้) กับมอเตอร์ไฟฟ้า หลายระดับหลายรูปแบบ ตั้งแต่ Micro Hybrid (ระบบ Idling Stop, ระบบชาร์จไฟจากการเบรก และ ISG), Mild Hybrid ไปจนถึง Full Hybrid ซึ่งจะมีทั้ง Self-Charging Hybrid และ Plug-in Hybrid
ข้อดี
ปล่อยมลพิษน้อย ลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปภายในและการใช้เชื้อเพลิง ช่วยให้การตอบสนองของอัตราเร่งดีขึ้น
ข้อเสีย
ความซับซ้อนจากการประสานการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปภายในกับมอเตอร์ไฟฟ้า ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในส่วนของแบตเตอรี่ปัจจุบันยังมีราคาสูง (อนาคตมีแนวโน้มถูกลง)
เครื่องยนต์ไฟฟ้า
ถูกคาดว่าจะเป็นขุมพลังของยานยนต์โลกในอนาคต เพราะหลายประเทศประกาศขีดเส้นตายหยุดจำหน่ายรถใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในกันแล้ว เช่น ยุโรป เพราะปัญหาโลกร้อนอันเกิดจากมลพิษซึ่งถูกปล่อยจากรถยนต์ ดังนั้น เครื่องยนต์ไฟฟ้าหรือขุมพลังไฟฟ้าที่ประกอบด้วยมอเตอร์และแบตเตอรี่จึงเป็นทางเลือกที่หลายคนให้ความสนใจ
ข้อดี
ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ การทำงานที่นิ่งเงียบ อัตราเร่งสูงและต่อเนื่องคงที่ กินพื้นที่น้อย ชิ้นส่วนน้อย ดูแลรักษาง่าย
ข้อเสีย
ยังไม่แพร่หลาย ระยะทางวิ่งน้อย ชาร์จไฟนาน จุดชาร์จไฟโดยเฉพาะในไทยเป็นของหายาก ทำให้มีข้อจำกัดในการเดินทาง แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ราคาสูง (ในตอนนี้)
ขุมพลังเปรียบเสมือนหัวใจของรถยนต์ที่ทำให้ขับเคลื่อนไปได้ ดังนั้น การเลือกประเภทของเครื่องยนต์จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรรู้และไม่ควรมองข้าม รู้ไว้ใช่ว่าแม้บางครั้งในความเป็นจริงเราก็ไม่มีทางให้เลือกมากนัก