ถ้าไม่อยากให้เครื่องยนต์พังบอกลาก่อนเวลาอันควร อย่าละเลย 4 สัญญาณเตือนภัย
การที่จะมีรถยนต์เป็นของตัวเองนั้นกว่าจะเก็บเงินมาซื้อรถยนต์สักคันไม่ว่าจะรถใหม่ป้ายแดง หรือรถมือสอง ต้องใช้ระยะเวลาและความอดทนในการเก็บหอมรอมริบเพื่อให้ได้เงินก้อนไปซื้อรถยนต์ และเมื่อได้รถยนต์มาไว้ในครอบครองแล้วก็ไม่ใช้ว่าจะมีรถยนต์ไว้เพียงแค่ขับไปขับมาเท่านั้น และไม่ว่าเจ้าของรถจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็จะต้องมีศึกษาหาความรู้เบื้องต้นในการดูแลรักษารถยนต์คันโปรดให้คงสภาพและสามารถใช้งานไปได้นานหลายปี โดยที่ไม่พังเร็วก่อนเวลาอันควร
ซึ่งการดูแลรักษารถยนต์นั้นไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงอุปกรณ์ชิ้นใหญ่ๆ ก็ไม่ควรละเลย ถึงแม้ว่าจะซ่อมไม่เป็น ก็ควรจะสังเกตให้เป็นว่ารถยนต์คันโปรดของคุณมีอาการงอแงอะไรบ้างที่แสดงมาให้คุณรู้ อย่ารอให้รถดับหรือจอดสนิทนิ่งกลางถนนแบบไม่รู้สาเหตุ หรือจอดทิ้งไว้ตอนเย็นพอตอนเช้าจะไปทำงานรถสตาร์ทไม่ติดซะอย่างนั้น ซึ้งถ้าเป็นอาการแบบนี้ก็แสดงว่าจะต้องมีอุปกรณ์อะไรสักอย่างกำลังมีปัญหา
และยิ่งเครื่องยนต์ของรถยนต์ทุกคันก็มีความสำคัญต่อรถยนต์เป็นอย่างมาก เพราะถ้าไม่มีเครื่องยนต์รถยนต์ก็ไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้ แต่ถ้าไม่อยากให้เครื่องยนต์ต้องบอกลาและพังก่อนเวลาอันควรก็ควรจะหัดสังเกตอาการและสัญญาณเตือนของเครื่องยนต์ว่ากำลังเริ่มมีปัญหาหรือเริ่มจะไม่ไหวแล้ว และอยากรู้หรือไม่ว่าก่อนที่เครื่องยนต์จะพังจะมีสัญญาณอะไรเตือนบ้าง วันนี้ Khaorot.com จะชวนคุณเจ้าของรถยนต์ทั้งหลายไปลองสังเกต 4 สัญญาณเตือนภัย ว่าเครื่องยนต์กำลังจะพังบอกลาก่อนเวลาอันควร
ไฟ ECO คืออะไร และมีไว้ทำไม???
ยิ่งสว่างยิ่งปลอดภัย! 6 เกร็ดน่ารู้ในการเช็คไฟหน้ารถ
มีเสียงดังแปลกๆ ดังแบบผิดปกติ
1. มีเสียงดังแปลกๆ ดังแบบผิดปกติ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการขับขี่ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ แต่ไม่ได้เกิดแบบต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเสียงเสียดสี หรือเสียงกระทบกันของโลหะ ซึ่งเสียงดังแบบนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนเพื่อแจ้งให้ผู้ขับขี่รู้ว่าเครื่องยนต์กำลังจะเกิดอาการงอแง และก็ถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย อย่านิ่งนอนใจหรือปลอบใจตัวเองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยเพราะอาการนี้อันตรายมากควรจะนำรถเข้าศูนย์หรืออู่เพื่อให้ช่างผู้ชำนาญการตรวจสอบจะดีกว่า
ได้กลิ่นเหม็นไหม้
2. ได้กลิ่นเหม็นไหม้ ไม่ว่าจะกลิ่นจากภายนอกรถ หรือขับๆ ไปแล้วได้กลิ่นเหม็นไหม้แปลกๆ ลอยเข้ามาให้ห้องโดยสาร โดยที่ไม่รู้สาเหตุว่ากลิ่นเหม็นไหม้นั้นเกิดมาจากตรงส่วนไหน อย่าฝืนขับต่อหรือเดินทางไกลโดยเด็ดขาด ควรจะนำรถเข้าตรวจเช็คเพื่อให้แน่ใจว่ากลิ่นเหม็นไหม้นั้นเกิดมาจากสาเหตุอะไรกันแน่ เพราะถ้าหากเกิดมาจากเครื่องยนต์มีปัญหาและยังฝืนขับขี่เดินทางต่อไปอาจจะทำให้รถยนต์ดับกลางอากาศได้
มีควันออกมาจากท่อไอเสียแบบผิดปกติ
3. มีควันออกมาจากท่อไอเสียแบบผิดปกติ ซึ่งถ้าเป็นรถยนต์ที่เครื่องยนต์มีความปกติไม่มีปัญหาควันที่ออกมาจากท่อไอเสียจะสะอาด ไร้กลิ่น ไร้สี และถ้าหากวันใดวันหนึ่งควันที่ออกมาจากท่อไอเสียรถยนต์ของคุณเป็นควันสีขาวไม่มีกลิ่น หรือควันสีฟ้าอ่อนๆ มีกลิ่นเหม็น ให้สันนิษฐานเลยว่าเครื่องยนต์กำลังมีปัญหา ให้รีบเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมรถยนต์ทันที
ไฟสัญญาณเตือนที่หน้าปัดรถยนต์
4. ไฟสัญญาณเตือนที่หน้าปัดรถยนต์ ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณเตือนแบบใกล้ตาใกล้ตัวเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อผู้ขับขี่สตาร์ทรถก็จะเห็นสัญลักษณ์ไฟทุกอย่างโชว์ที่หน้าปัด ซึ่งสัญญาณไฟ Check Engine ซึ่งสัญญาณไฟ Check Engine อาจจะไม่ใช้สัญญาณเตือนว่าเครื่องจะพังโดยตรง แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รู้สึกว่าอุปกรณ์บางอย่างในรถยนต์คันนี้จะต้องมีปัญหา ไม่ว่าจะของเหลวต่างๆ หรือระบบการทำงานต่างๆ จะต้องมีปัญหาสักอย่างควรจะรีบตรวจเช็คหลักๆ ก็ของเหลวทั้งหมด เพราะถ้าหากของเหลวขาด หรือน้อยลง หรือระบบต่างๆ ทำงานผิดปกติก็จะส่งผลต่อเครื่องยนต์ทำให้เครื่องยนต์พังได้
ซึ่งการรู้จักสังเกตอาการของรถยนต์ถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะจะได้รู้แต่เนิ่นๆ ว่ารถยนต์ของคุณอุปกรณ์ส่วนใดกำลังมีปัญหา แต่ก่อนที่จะรู้จักการสังเกตอาการของรถยนต์ ก็ต้องศึกษาหาความรู้เบื้องต้นเสียก่อนว่าอาการแบบไหนที่จะสื่อให้รู้ว่าอุปกรณ์ส่วนไหนจะเสียหรือต้องซ่อมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ด่วน อย่าสังเกตอาการของรถยนต์จากคำบอกเล่า เพราะถ้าสังเกตจากคำบอกเล่าแต่ไม่ได้มีความรู้ ก็จะทำให้กลายเป็นคนวิตกจริต พอได้ยินเสียงหรือสังเกตเห็นอะไรแปลกๆ ก็ตีความไปว่ารถยนต์กำลังมีปัญหา เครื่องยนต์กำลังจะพังแต่จริงๆ แล้วอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ และอาจจะถูกช่างที่ไม่มีจรรยาบรรณหลอกเงินค่าซ่อมจากคุณได้ ทางที่ดีควรศึกษาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรถยนต์ไว้สักนิด ดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ตรวจเช็คและเปลี่ยนของเหลวตามระยะ เท่านี้ก็ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว
ดูเพิ่มเติม: