ด้วยอิทธิพลจากพายุเตี้ยนหมู่ ส่งผลให้ฝนตกหนักทั่วประเทศจนเกิดน้ำท่วมในหลาย ๆ พื้นที่ ผู้ใช้รถจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หากน้ำท่วมสูงไม่เกินข้อเท้า ก็ยังสามารถขับรถผ่านไปได้ แต่ถ้าท่วมสูงเกิน 30 เมตร (เลยฟุตบาทขึ้นไป) ถ้าจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำหรือหลีกเลี่ยงเส้นทางนั้นไม่ได้ ผู้ขับขี่ต้องเตรียมความพร้อมให้ดี โดยสามารถทำตามเทคนิคได้ ดังนี้
ปิดแอร์รถยนต์
เมื่อต้องขับรถลุยน้ำ ไม่ควรเปิดแอร์รถยนต์ เนื่องจากพัดลมแอร์จะพัดน้ำเข้าห้องเครื่องจนอาจทำให้เกิดการช็อตในห้องไฟฟ้า ส่งผลให้รถดับได้
ขับรถด้วยความเร็วต่ำ
ควรขับรถด้วยความเร็วต่ำ เพื่อประคองให้รถยนต์ไม่ดับ โดยใช้ความเร็วคงที่ รักษารอบเครื่องยนต์ไว้ประมาณ 1,500 - 2,000 รอบต่อนาที สำหรับเกียร์ธรรมดา ควรใช้เกียร์ 1 หรือ 2 หากเป็นเกียร์ออโต้ ควรใช้เกียร์ L
เลี้ยงคลัตซ์ไว้
สำหรับรถเกียร์ธรรมดา ควรเลี้ยงคลัตช์ไว้และเร่งเครื่องยนต์ให้เดินสูงกว่าปกติ เพื่อไม่ให้รถดับ และป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าห้องเครื่อง
ลดความเร็ว เมื่อขับรถสวนทาง
หากไม่ลดความเร็ว คลื่นจากรถทั้งสองคันที่ขับสวนกันจะเกิดการปะทะกัน ทำให้ระดับน้ำสูงกว่าเดิม จนอาจเข้าห้องเครื่องได้
รักษาระยะห่างจากรถคันหน้า
เมื่อแช่น้ำนาน ๆ ระบบเบรกจะมีประสิทธิภาพต่ำลง ส่งผลให้เบรกไม่ค่อยอยู่ จึงควรรักษาระยะห่างไว้เพื่อไม่ให้เกิดการชนท้าย โดยหลังจากขับรถผ่านน้ำมาแล้ว ควรขับให้ช้าลงและเหยียบเบรกเป็นระยะ ๆ เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรก
อย่าเพิ่งดับเครื่อง เมื่อขับรถถึงที่หมายแล้ว
เมื่อขับรถพ้นน้ำหรือถึงที่หมายแล้ว อย่าดับเครื่องยนต์ในทันที ควรติดเครื่องไว้ก่อน เพื่อไล่ความชื้นที่อยู่ในห้องเครื่องออก ถ้าดับเครื่องยนต์เลย น้ำที่ยังค้างอยู่อาจไหลเข้าท่อได้
กรณีที่รถดับขณะขับรถลุยน้ำ ให้พยายามเข็นรถขึ้นที่สูง เพื่อไม่ให้น้ำเกินครึ่งล้อ หรือโทรเรียกช่างมาลากไป และห้ามสตาร์ตเครื่องยนต์ใหม่เด็ดขาด เพราะจะทำให้น้ำเข้าห้องเครื่องได้ จนเกิดความเสียหายภายในมากกว่าเดิม
อ่านเพิ่มเติม >>