1. ขับรถโดยจำกัดความเร็วไว้ที่ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง
การจำกัดความเร็วถือเป็นสิ่งสำคัญหากผู้ขับขี่ต้องการที่จะประหยัดน้ำมันเมื่อใช้อัตราเร่งมากย่อมต้องมีการสิ้นเปลืองน้ำมันรวมถึงพลังงานโดยใช่เหตุ หากเลือกที่จะจำกัดความเร็วเอาไว้ไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นรวมถึงอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานของเครื่องยนต์น้อยลง แต่วิธีนี้อาจจะไม่ได้ผลมากนักหากนำมาใช้ในการขับขี่ภายในเมืองหรือท้องถนนที่มีปริมาณรถค่อนข้างที่จะหนาแน่น
ขับรถไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง
2. ตรวจเช็คลมยางก่อนออกเดินทาง
วิธีนี้หลายท่านคงมีการตรวจเช็คกันเป็นประจำเนื่องจากยางรถยนต์เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเดินทางไปได้ในทุกพื้นที่ การเติมลมยางให้ได้ตามค่าระดับมาตรฐานที่ระบุมาในรถตามแต่ละรุ่น หรือ ประมาณ 500 กิโลเมตร ช่วยให้สมรรถนะในการขับขี่รถดีมากยิ่งขึ้นพร้อมทั้งช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองการใช้พลังงานลงไปด้วย หากลมยางอ่อนเกินไปก็ย่อมทำให้ตลอดระยะการเดินทางมีการใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้นตามตัวไปด้วย
ทำความสะอาดไส้กรองอากาศทุกๆ 2-4 สัปดาห์
5. ตรวจเช็คเครื่องยนต์
การตรวจเช็คเครื่องยนต์เป็นประจำนอกจากจะส่งผลดีในการทำการขับขี่ได้อย่างไม่ติดขัดแล้วยังช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานของรถลงไปด้วยเนื่องจากการตรวจสอบรอยรั่วในระบบเชื้อเพลิง พร้อมทั้งเติมน้ำมันหล่อลื่นเมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนดทำให้การทำงานของเครื่องยนต์มีสมรรถนะที่ปกติและช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 9 เปอร์เซ็นต์
เปิดกระจกสูดกลิ่นไออากาศภายนอกตัวรถ
8. เมื่อไม่ขับก็ดับเครื่องยนต์
วิธีนี้อาจเป็นวิธีที่ได้ผลมากที่สุดเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับวิธีอื่นเพราะการจอดรถไว้โดยติดเครื่องยนต์ไปด้วยย่อมส่งผลให้เครื่องยนต์ยังคงทำงานอยู่โดยไม่จำเป็นแต่หากผู้ขับขี่ลองใช้วิธีการปิดเครื่องยนต์เมื่อไม่ได้ขับขี่หรือทำธุระเป็นเวลานานจะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นโดยการเปรียบเทียบเมื่อจอดรถพร้อมติดเครื่องยนต์ไปด้วยจะทำให้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันใน 10 นาที ประมาณ 200-400 CC
สำหรับทั้ง 8 วิธีช่วยลดค่าเติมน้ำมันพร้อมเพิ่มเงินในกระเป๋า ให้กับนักขับหลายคนที่นำไปปรับใช้ตามความเหมาะสมเฉพาะบุคคลเพื่อช่วยลดการใช้น้ำมันรวมถึงเป็นการอนุรักษ์พลังงานได้อีกทางหนึ่งด้วย
...
ดูเพิ่มเติม: