เผยวิธีการแก้ไขปัญหา BMW X3 ที่ง่ายและไม่ต้องเสียเวลากุมขมับอีกต่อไป

หากพูดถึง BMW X3 แล้ว หลายคนคงจะนึกถึง SUV ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เป็นหนึ่งในคู่แข่งคนสำคัญของ Mercades-Benz GLC, Audi Q5 หรือแม้กระทั่ง Volvo XC60 ที่ไม่ว่าจะเปิดตัวมาแต่ละครั้งก็ล้วนแต่ฟาดฟันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เพราะต่างก็เป็นแบรนด์ระดับโลกเหมือนกัน และมีเทคโนโลยที่ก้าวหน้า จึงทำให้ต่างฝ่ายต่างก็ต้องการขึ้นแท่นเป็น SUV ที่ดีที่สุด

ปัญหา BMW X3 มีอะไรบ้าง

หากนับเจเนอเรชั่นของ BMW X3 ที่ได้รับการจัดจำหน่ายในบ้านเราถึงปี 2018 ถือว่าผ่านมาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 แล้วก็ว่าได้ โดย BMW X3 นั้น ถือเป็น SUV ที่กำเนิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในระดับครอบครัวเป็นหลัก แต่มีเพียงรุ่นย่อยเดียวเท่านั้นที่ได้นำมาทำตลาดในบ้านเรา นั่นก็คือ BMW X3 xDrive 20d xLine นั้นก็คือรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร แน่นอนว่า ถึงแม้จะนำมาจำหน่ายในบ้านเราเพียงรุ่นย่อยรุ่นเดียว แต่นี่คือสุดยอดรถ SUV สไตล์สปอร์ตที่ดีที่สุดของ BMW เลยก็ว่าได้ ทั้งการออกแบบ สมรรถนะการใช้งาน หรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีที่ไม่มีคำว่ากั๊ก

ดูเพิ่มเติม:  บีเอ็มดับเบิลยู

การใช้งานของ BMW X3

โดยดีไซน์เบื้องต้นนั้น มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ Adaptive LED พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ การออกแบบให้รับกับกระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่แบบแอคทีฟ สามารถเปิด-ปิดตะแกรงได้ตาสภาพภายนอก ไฟตัดมอกแบบ LED รูปทรงหกเหลี่ยมที่ได้รับการออกแบบมาใช้ในตระกูล X เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ยังถูกผสานไว้ด้วยระบบ Comfort Access เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของตัวรถ ดีไซน์ภายในถูกติดตั้งเบาะนั่งแบบสปอร์ตพร้อมหนัง Vernasca ให้ความรู้สึกที่นุ่ม และละเอียดมากขึ่น ส่งผลต่อการนั่งและความสบายในขณะใช้งานได้อย่างลงตัว อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเทคโนโลยีและระบบอำนวยความสะดวกต่างๆก็จัดหนักจัดเต็ม ตามสไตล์ของ BMW อาทิ ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้า ระบบล็อคความเร็ว ระบบช่วยเบรกขณะเข้าโค้ง ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน หรือแม้กระทั่งเซ็นเซอร์ช่วยการจอดของตัวรถ

ดีไซน์ภายนอกของ BMW X3

เส้นสายการออกแบบของ BMW X3

แน่นอนว่า BMW X3 xDrive 20d xLine ที่ถูกจำหน่ายในบ้านเรานั้น มาพร้อมกับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ BMW TwinPower Turbo ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (HP) ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8.0 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 213 กม./ชม. พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

เครื่องยนต์ของ BMW X3

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ BMW X3 จะได้รับความนิยมและคำวิจารณ์ที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีข้อบกพร่องด้านการใช้งานอยู่บ้าง โดยเฉพาะหลังจากที่ใช้งานมามากกว่า 6 เดือนขึ้นไป โดยปัญหา BMW X3 ที่เกิดขึ้นนั้นได้รับการเปิดเผยจากผู้ใช้งานจริง และทาง Khaorot.com จะมาแนะนำวิธีการแก้ไขที่ง่ายแสนง่าย ชนิดที่ปอกกล้วยเข้าปากยังยากกว่าเลยก็ว่าได้

ปัญหาเกียร์ BMW X3

ปัญหาและสาเหตุ : สำหรับปัญหาเกียร์ของ BMW X3 นั้น แน่นอนว่าค่อนข้างทำให้หลายคนปวดหัวและเครียดเป็นอย่างมาก เพราะค่าซ่อมเกียร์ของ BMW ค่อนข้างแพง ชนิดที่เริ่มต้นหลักแสน ทั้งที่ใช้งานรถมาไม่กี่ปี แต่กลับต้องมาเสียค่าซ่อมบำรุงที่สูง ทั้งที่ปกติแล้วอายุการใช้งานของเกียร์อัตโนมัติของรถยนต์จะมีอายุการใช้งานตั้งแต่ 10-20 ปี หรือมากกว่า 300,000 กิโลเมตร ดังเช่นที่ผู้ใช้งานได้อธิบายถึงอาการของเกียร์ BMW X3 เอาไว้ว่า

“วันนี้ขับรถไปแถว bts พญาไท รถติดอยู่พอออกตัวแล้วมีเสียงดังครึ๊นนๆๆ เลยเลี้ยวเข้า ไอดีโอ้ เรียกรถมายก หน้าจอฟ้องว่า เกียร์ 4*4 มีปัญหา ประมาณนี้ครับ พอเหยียบคีนเร่งก็ดัง ปล่อยไหลธรรมดาได้ มันมีสาเหตุอะไรไหมครับ เคยเปลี่ยนเกียร์โฟร์มาแล้วตอนนั่นมีเสียงดังกึกๆเฉยๆ พอสอบถามไปทาง BMW ก็แจ้งมาว่าเกียร์พัง ต้องยกเกียร์ใหม่ทั้งลูก ค่าซ่อมหลักแสนบาท ต้องทำยังไงดีครับ”

แน่นอนว่าปัญหาเกียร์ของ BMW X3 หรือแม้กระทั่งในรถยนต์รุ่นอื่นๆที่เกิดปัญหาเดียวกัน มักมาจากการขาดการดูแลและพฤติกรรมการขับขี่รถยนต์ที่ไม่ค่อยดีต่อรถของตนเอง จึงส่งผลให้เกียร์พังก่อนอายุการใช้งานจริง อาการที่ส่อแววว่าเกียร์รถมีปัญหาก็คือ เสียง และการสั่นสะเทือนของรถ หรือแม้กระทั่งสมรรถนะการขับขี่ที่แปลกออกไปจากเดิม อย่างเช่น เมื่อสตาร์ทรถแล้วนับ 1-10 รถยังไม่วิ่ง หรือรอบเครื่องของรถสูงแต่ไม่สามารถออกตัวได้ นี่คืออาการของเกียร์รถที่มีปัญหา อาจจะเป็นลักษณะของ เกียร์ลื่น เกียร์กระตุก หรือแม้กระทั่ง เกียร์กระชาก หากไม่รีบแก้ไขอาจจะส่งผลต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินในอนาคตได้

ดีไซน์ภายในของตัวรถ

วิธีการแก้ไข : สำหรับวิธีการแก้ไขนั้น หากเกิดขึ้นแล้วก็คงจะต้องนำเข้าไปเปลี่ยนเกียร์ใหม่ทั้งระบบอย่างเดียว เพราะไม่สามารถแก้ไขได้เพียงจุดใดจุดหนึ่งเท่านั้น แต่ก่อนที่จะเกิดปัญหาเป็นรอบที่สอง หรือเกิดครั้งแรก มีวิธีการป้องกันคือ

1. เปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่รถยนต์ โดยต้องรู้จักการถนอมรถ ถนอมเกียร์ ขับขี่ถูกวิธี และดูแลอย่างสม่ำเสมอ อย่างเช่น การเข้าเกียร์ N เมื่อเจอภาวะรถติดเป็นเวลานาน การไม่ขับลากเกียร์ หรือการใช้เกียร์ให้สัมพันธ์กับความเร็วที่ใช้

2. การดูแลเกียร์รถยนต์อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการใช้น้ำมันเกียร์ที่มีมาตรฐาน ดีกว่าการประหยัดเงินซื้อนำมันเกียร์ที่ไม่ดี แล้วทำให้ปัญหาสะสมจนต้องมาแก้ไขปัญหาภายหลัง แน่นอนว่าการใช้น้ำมันเกียร์จะต้องดูคู่มือรถเป็นหลัก แต่หากหาไม่ได้ก็ให้เลือกน้ำมันเกียร์ที่สามารถทดแทนของเดิมได้ สังเกตได้จากน้ำมันเกียร์จากก้านวัด

3. เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะที่กำหนด ซึ่งก็คือระยะ 40,000 กิโลเมตร แต่หากอยู่ในสภาวะที่จราจรติดขัด ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยมากกว่าปกติ ก็จะต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์มากขึ้น เพราะไม่เช่นนั้นน้ำมันเกียร์จะมีประสิทธิภาพลดลง มีสิ่งสกปรกไปเจือปนได้ง่าย โดยการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์มี 2 ประเภท คือ การเปลี่ยนถ่ายแบบปกติ และการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทั้งระบบ โดยการเปลี่ยนแต่ละประเภทก็จะมีระยะการขับขี่ที่กำหนดไว้แตกต่างกัน

​

ปัญหา หน้าปัดรถขึ้นไฟ ABS

ปัญหาและสาเหตุ : โดยสาเหตุที่หน้าปัดรถยนต์แจ้งเตือนสัญญาทั้งไฟเหลือง ABS ไฟ TPM หรือแม้กระทั่ง ไฟเหลือง Parking Break ตลอดเวลานั้น หลักๆก็คือเกิดจากไฟที่แบตเตอรี่ไปเลี้ยงระบบไม่เพียงพอต่อการใช้งานจริง ระบบหลายๆอย่างจึงไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยหากยังขับขี่อยู่ก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ แค่ต้องระมัดระวังเรื่องการเบรกมากขึ้น ให้ขับในลิมิตที่พอดีไม่เร็วจนเกินไป เพราะไฟ ABS ก็คือการแจ้งเตือนระบบเบรกของรถยนต์นั่นเอง

วิธีการแก้ไข : เริ่มต้นโดยการสังเกตเมื่อหน้าปัดรถขึ้นสัญญาณต่างๆขึ้น โดยเฉพาะไฟเบรก ABS ขัดข้อง เนื่องจากเบรก ABS นั้น จะส่งผลต่อการกันไม่ให้ระบบเบรกล็อคตาย ซึ่งหากเกิดปัญหานี้แล้วมักจะส่งผลต่ออุบัติเหตุที่ร้ายแรงเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้ล้อรถหมุนทันที และอาจจะทำให้พลิกคว่ำได้อีกด้วย ซึ่งหากตรวจเช็คจนแน่ใจแล้วว่าปัญหาเกิดจากระบบเบรก หรือเป็นเพราะสายไฟภายใน ก็จะสามารถนำรถไปตรวจสอบอย่างละเอียดและซ่อมบำรุงได้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็น การทำงานของเบรกว่ายังหนึบดีหรือไม่ ตัวเบรกทำงานตลอดหรือไม่ เต็มประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด ช่องรถชะลอความเร็วทำงานตามปกติหรือไม่ หรือแม้กระทั่งวิธีการตรวจสอบลมยางของรถยนต์ แน่นอนว่าวิธีการแก้ไขหลักๆ ก็จะต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญดำเนินการให้ ซึ่งการแก้ไขมีทั้ง การเปลี่ยนสายเซ็นเซอร์ ตัวปั๊ม ABS ซ่อมสายไฟที่ชำรุด แต่ถ้าหากขาดจะต้องทำการเปลี่ยนใหม่แทน แน่นอนว่าวิธีการที่แตกต่างกันออกไปย่อมส่งผลต่อค่าใช้จ่ายโดยตรง หากเรารู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรเป็นหลัก และจะต้องแก้ไขอย่างไร ก็จะสามารถหาแนวทางแก้ไขที่ดีที่สุดได้ต่อไป

ปัญหาหน้าปัดรถขึ้นไฟสัญญาณเตือนของ BMW X3

สรุป

สำหรับปัญหา BMW X3 นั้น ถือเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไป เนื่องจากระบบภายในของตัวรถยนต์ต่างก็มีความใกล้เคียงกัน เพราะฉะนั้นหากเกิดปัญหาขึ้นก็จะสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที และยังสามารถเลือกวิธีการแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสมได้อีกด้วย

....

อ่านเพิ่มเติม :

• เปรียบเทียบสปอร์ต SUV หลักสามล้าน ระหว่าง BMW X3 2019 กับ Mercedes-Benz GLC 2019 ใครเด่นใครโดน
• รีวิวรถ PPV มือสองน่าใช้ที่สุด !