รวบรวมปัญหาจากประสบการณ์ของผู้ใช้ TOYOTA Avanza พร้อมเสนอแนะวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้น

TOYOTA AVANZA ปี 2012

ตลอดอายุตลาด 14 ปี Avanza แม้จะไม่ได้มียอดขายในประเทศไทยมากเท่าที่ อินโดนีเซีย แต่ก็ไม่ทำให้ Toyota Motor Thailand สามารถปฏิเสธการทำตลาด Avanza รุ่นใหม่ไปได้จนถึงปัจจุบันที่ยังได้เห็นโฉมของปี 2018 ในตลาดเมืองไทย

ดูเลย:  เสริมแหนบ

รถยนต์ New Avanza 2018-2019 รุ่นล่าสุดของ Toyota

เหตุผลที่เป็นแบบนี้ เพราะ TOYOTA Avanza เป็นรถที่ชิ้นส่วนแทบทั้งคัน ผลิตในประเทศอินโดนีเซียซึ่งมีมาตรฐานแตกต่างประเทศของเรา  ชิ้นส่วน หรือ ระบบการทำงานของรถยนต์ต่างๆเมื่อผ่านการใช้งานไปในระยะหนึ่งแล้ว มักจะเกิดปัญหาที่สร้างความหงุดหงิดใจให้กับผู้ขับขี่อยู่บ้าง ซึ่งเราจะมาสรุปถึงปัญหาจากประสบการณ์ของผู้ใช้จริง แต่ละประเด็น พร้อมแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหา ของ Avanza ที่น่าจะเป็นที่พอใจแก่ผู้ขับขี่ไปได้ไม่มากก็น้อยตามหัวข้อด้านล่าง

• ปัญหาเกียร์กระตุก

ภาพประกอบบทความ

จากคำบอกเล่าของผู้ใช้ Avanza  ที่พบคือ มีอาการกระตุกกระชากเวลาเกียร์เปลี่ยน การตอบสนองต่อการทดกำลังเชื่องช้าอืดอาดไม่ทันใจหรือไม่ได้อย่างใจ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ผ่านการใช้ไปแล้วระยะหนึ่งหรือในช่วง 2 แสน กม. หรือใช้งานอยู่ดีๆ จู่ๆ เกียร์ก็ไม่ยอมเปลี่ยนเอาดื้อๆ หรือแม้แต่จะขับถอยหลัง พอยัดเกียร์ R รถก็ยังนิ่งสนิทไม่ขยับ หรือเมื่อขับไปก็กระตุกกระชากยามเปลี่ยนเกียร์ 

วิธีแก้ปัญหาก็คือ การหมั่นดูแลในเรื่องของน้ำมันเกียร์ ควรให้ช่างหรือศูนย์เปลี่ยนน้ำมันเกียร์พร้อมกับการเปลี่ยนปะเก็นแคร้งเกียร์พอช่วยได้บ้างแต่ก็ต้องถ่ายน้ำมันเกียร์เก่าออกให้หมด พอเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ใหม่ใส่ของเหลวหล่อลื่นเกียร์ที่มีความสดเข้าไป รวมถึงเปลี่ยนกรองน้ำมันเกียร์ไปด้วยพร้อมกัน อาการที่ว่ามาก็อาจหายไปหรือกระตุกน้อยลงขึ้นอยู่กับการสึกหรอเสียหายของเกียร์ว่าน้อยหรือมาก

ควรเปลี่ยนถ่ายของเหลวที่ใช้หล่อลื่นเกียร์ออโต้ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่างระยะ 20,000 ถึง 30,000 กิโลเมตร หรือปีละครั้ง สังเกตุน้ำมันเกียร์ออโต้มีสีแดงเมื่อเทออกจากกระป๋องใหม่ๆ และจะยังคงมีสีแดงต่อไปอีกระยะขณะที่ขับใช้งาน หลังจากผ่านการใช้งานมาจนถึงเวลาที่จะต้องลงมือเปลี่ยนถ่ายสีของน้ำมันเกียร์ออโต้จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ควรหมั่นสังเกตรอยหยดของน้ำมันที่รั่วออกมาจากเครื่องยนต์หรือเกียร์ออโต้หากเป็นน้ำมันเครื่องรั่วและหยดลงมาบนพื้นมักมีสีดำคล้ำแตกต่างจากน้ำมันเกียร์อัตโนมัติที่มีสีแดงเข้มและใสมากกว่าน้ำมันที่ใช้หล่อลื่นเครื่องยนต์ ลักษณะของการวางเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนที่แตกต่างกันทำให้คุณสังเกตคราบน้ำมันรั่วและหยดลงพื้น

• ปัญหากินน้ำมัน

ภาพประกอบบทความ

จากคำบอกเล่าของผู้ใช้ Avanza เมื่อ.วิ่งในเมืองด้วยอัตราความเร็วเฉลี่ยที่ 90-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยไม่คิกดาวน์ และพยายามให้เปลี่ยนเกียร์ไม่เกิน 3000 รอบต่อนาที(เกียร์ออโต้) มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ 12-13 กม./ลิตร เมื่อทำความเร็ว เฉลี่ยที่ 90-120 กม./ชม. หรือยืนพื้นที่ 110 กม. จะมีอัตราการกินน้ำมันถึง 12 โลต่อลิตรเลยทีเดียว แต่พอวิ่งนอกเมืองด้วยอัตราความเร็วที่ 110-120 จะมีอัตราการสิ้นเปลืองที่14.7 โลต่อลิตร

สำหรับวิธีแก้ปัญหา หากรถมีปัญหาเรื่องการกินน้ำมัน เจ้าของรถควรที่จะต้องมีเคล็ดลับในการดูแลรักษารวมถึงปรับการขับขี่ด้วยวิธีตามหัวข้อด้านล่าง ดังนี้

-ปรับตั้งเครื่องยนต์อย่างถูกต้อง

เครื่องยนต์ที่มีการปรับตั้งที่ถูกต้องจะช่วยประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ และการแก้ปัญหาที่สำคัญ เช่น เซ็นเซอร์วัดปริมาณออกซิเจนทำงานผิดปกติ จะสามารถช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้มากขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ และผู้ขับขี่ไม่ควรละเลยสัญญาณไฟเตือนให้นำรถเข้าไปตรวจสอบ

-ตรวจสอบแรงดันลมยาง

การเติมลมยางที่เหมาะสมสามารถเพิ่มระยะทางในการขับขี่ได้มากขึ้นถึง 3.3 เปอร์เซ็นต์ และช่วยให้ปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนานขึ้น ยางที่มีลมยางอ่อนอาจทำให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น 0.3 เปอร์เซ็นต์ สำหรับทุกหนึ่งปอนด์ต่อตารางนิ้วของความดันลมยางที่ตกลงทั้งสี่ล้อ ซึ่งการตรวจสอบลมยาง ผู้ขับขี่ไม่ควรตรวจสอบแค่จากในระบบเพียงอย่างเดียว แต่ควรตรวจเช็คสภาพลมยางด้วยอุปกรณ์วัดลมยางที่ดีอย่างน้อยเดือนละครั้ง และหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านคู่มือการใช้งานรถยนต์ของคุณ3. เครื่องยนต์หลวม

-แก้ไขปัญหาสิ่งอุดตัน

หากคุณหายใจไม่ออก คุณก็จะเคลื่อนไหวได้ยากลำบาก เครื่องยนต์ก็เช่นกัน เครื่องกรองอากาศที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างหนัก และสิ่งแปลกปลอมอาจทำลายเครื่องยนต์ได้ การเปลี่ยนไส้กรองที่อุดตันจะช่วยเพิ่มการประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ ตามข้อมูลของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐหรืออีพีเอ ระบุว่า ในรถยนต์สมัยใหม่ การเปลี่ยนไส้กรองที่อุดตันและสกปรกจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้รถยนต์มีการเร่งความเร็วที่ดีขึ้น

   -เลือกใช้น้ำมันเครื่องให้เหมาะสม

การใช้น้ำมันเครื่องจะช่วยลดการเสียดสีของเครื่องยนต์ เพราะการเสียดสีนั้นจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ยากขึ้น ดังนั้น การใช้น้ำมันเครื่องตามที่บริษัทผู้ผลิตรถแนะนำจะช่วยเพิ่มการประหยัดน้ำมันขึ้นอีก 1-2 เปอร์เซ็นต์

-ใช้เกียร์สูง

เมื่อขับรถด้วยเกียร์ธรรมดาให้ใช้เกียร์สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อรักษารอบเครื่องยนต์ให้ต่ำเนื่องจากการหมุนรอบเครื่องยนต์ต่ำจะใช้น้ำมันที่น้อยกว่า แต่ไม่ควรขับขี่เช่นนี้มากเกินไป เพราะจะฉุดกำลังเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์หยุดทำงาน หากขับขี่รถเกียร์อัตโนมัติ ควรผ่อนคันเร่งเล็กน้อย ในจังหวะที่ระบบเกียร์เปลี่ยนไปสู่เกียร์ที่สูงขึ้น รถเชฟโรเลตทุกรุ่นใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ซึ่งมีอัตราการทดเกียร์ที่สูงกว่า ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงคงที่และประหยัดน้ำมัน

 -ลดความเร็วลงอย่างนุ่มนวลหรือเปลี่ยนเกียร์จากเกียร์สูงมาเกียร์ต่ำจนรถจอดสนิท

เมื่อขับรถเกียร์อัตโนมัติในสภาพการจราจรที่หนาแน่น คุณสามารถขับรถเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ เพราะรถจะแล่นไปข้างหน้าโดยอัตโนมัติ หากขับรถเกียร์ธรรมดา ให้ลดเกียร์ลงอย่างต่อเนื่องจนรถจอดสนิท ผู้ขับขี่สามารถถอนคันเร่งออก ขณะที่ยังใส่เกียร์เดินหน้าอยู่ได้ เครื่องยนต์สมัยใหม่แทบจะไม่ใช้น้ำมัน และเพียงพอต่อการเลี้ยงเครื่องยนต์ไม่ให้ดับ เครื่องยนต์จะใช้น้ำมันมากกว่าถ้าอยู่เกียร์ว่าง ขณะรถจอดนิ่งโดยทั้งหมดนี้หากคุณทำได้ครบทุกข้อน่าจะช่วยประหยัดน้ำมันได้อย่างแน่นอน

• ปัญหาช่วงล่างเปราะบาง

มีหลายเสียงจากผู้ใช้ ที่บอกกันปากต่อปากช่วงล่างของ Avanza ค่อนข้างจะเปราะบาง จะสังเกตได้ชัดเมื่อขับที่ความเร็วมากกว่า 90 กม./ชม. มีความกระเด้ง กระดอน ยิ่งกว่ารถตู้พร้อมเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา

เปลี่ยนโช๊คและสปริงคุณภาพดีเพื่อทำให้ช่วงล่างแน่นขึ้นอุ่นใจทุกการขับขี่

โดยการแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยวิธี ปรับช่วงล่าง Avanza จากกระเด้ง กระดอน ด้วยการเปลี่ยน โช๊ค ยี่ห้อที่มีคุณภาพพร้อมกับ สปริงดีๆ ก็จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับช่วงล่างได้ไม่มากก็น้อยอีกทั้งยังหมดเรื่องการบรรทุกคนหรือสัมภาระอีกด้วย

สรุป