ปัญหาและข้อเสียต่างๆ ของรถ Nissan Livina พร้อมวิธีการแก้ไขแบบตรงจุด!

ข้อเสียของ Nissan Livina รถ Compact MPV จากแดนอิเหนา

Nissan Livina มีปัญหาและข้อเสียอะไรบ้าง?

Nissan Livina รถยนต์เอนกประสงค์กลุ่มที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Compact MPV ซึ่งก่อนหน้านี้อาจไม่คุ้นชื่อนักสำหรับประเทศไทย เนื่องจากเจเนอเรชั่นแรกเปิดตัวมาแบบเงียบๆ (และไปแบบเงียบๆเช่นกัน) แต่สำหรับ Livina โฉมเจเนอเรชั่นที่ 2 ในปี 2019 ได้ใช้เพลทฟอร์มเดียวกันกับ Mitsubishi Xpander (ผลิตที่อินโดนีเซียเหมือนกัน) โดยปรับกระจังหน้าเป็น V-MOTION ตามฉบับของ Nissan รุ่นใหม่ๆ ส่วนรายละเอียดอื่นๆแทบจะถอดแบบกันมาเลยทีเดียว ซึ่งทำให้ Livina ใหม่ มีความทันสมัย สปอร์ต บึกบึน น่าใช้มากกว่าเวอร์ชั่นแรก สำหรับใครที่สนใจ Livina มือสอง หรือกำลังใช้รุ่นนี้อยู่ วันนี้เรามีรีวิวปัญหาและข้อเสียต่างๆของ Nissan Livina โฉมแรก พร้อมวิธีการแก้ไข มาฝากทุกท่านครับ

ดูเลย:  ราคา Nissan Juke

เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว กำลัง 114 แรงม้า

ปัญหาเร่งแซงอืด

อัตราเร่งแซงของ Nissan Livina ถือว่าไม่ได้อืดจนน่าเกลียด ด้วยเจ้าตัวติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว กำลัง 114 แรงม้า แรงบิด 153 นิวตัน-เมตร หากเทียบกับรุ่นอื่นที่เครื่องยนต์ขนาดเท่ากัน จะรู้สึกได้ว่าไม่แตกต่างกันมากนัก เพียงแต่ระบบเกียร์ของ Livina ที่เป็นเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งจะต้องรอรอบที่เหมาะสมจึงจะวิ่งฉิว ไม่ได้กดคันเร่งปุ๊บแซงได้ปั๊บอย่างเช่นบางรุ่น โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่เร่งแซงราว 90-120 กม./ชม. (รอบราวๆ 2,200-2,500)จะใช้เวลาประมาณ 10 วินาทีกว่าๆ หากใครที่เคยชินขับรถเก๋งจะรู้สึกว่าการเร่งตอบสนองได้ไม่ทันใจเท่าที่ควร ซึ่ง Livina นั้นเป็นรถครอบครัว กอรปกับตัวถังใหญ่กว่า ย่อมไม่สามารถออกแบบมาให้วิ่งฉิวเหมือนรถเก๋ง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่ารถของเราวิ่งอืดมากกว่าตอนแรกอย่างผิดสังเกต ควรตรวจสอบส่วนต่างๆ ดังนี้

• กรองน้ำมันเชื้อเพลิง หากมีสิ่งสกปรกอุดตัน จะทำให้การไหลของน้ำมันไม่สะดวก รถจะมีกำลังหาย วิ่งอืด สตาร์ทติดยาก
• น้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่อง เมื่อใช้งานเป็นระยะเวลานาน หรือขับทางไกลบ่อยๆ น้ำมันเครื่องที่ถูกความร้อนจะมีการเสื่อมสภาพ ส่งผลต่อการทำงานของอะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆ ทำให้กำลังรถยนต์ตกลง
• หัวเทียน หากเสื่อมประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถจุดระเบิดในกระบอกสูบได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้รถอืด กำลังตก และเครื่องยนต์สั่น
• คอยล์จุดระเบิด หรือคอยล์หัวเทียน จะทำงานประสานกับหัวเทียนเพื่อจุดระเบิดในกระบอกสูบ หากมีการรั่ว หรือเสื่อมสภาพ จะมีอาการคล้ายๆกับหัวเทียนเสีย

อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 12.2 กม./ลิตร

ข้อเสีย เปลืองน้ำมัน

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ Nissan Livina เฉลี่ยประมาณ 12.2 กม./ลิตร เมื่อเทียบกับขนาดตัวถังแล้ว ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ประหยัดมาก แต่ก็ไม่ได้สิ้นเปลืองเกินไปนัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กันลักษณะการขับขี่ และแรงกดบนคันเร่งของแต่ละบุคคลด้วย หากต้องการประหยัดมากขึ้นสามารถทำตามเคล็ดลับ ดังนี้

1. ลดการเร่งเครื่องยนต์โดยไม่จำเป็น
2. ลดน้ำหนักบรรทุก นำสิ่งของที่ไม่จำเป็นสำหรับใช้งานออก
3. ตรวจเช็คลมยางให้อยู่ในความเหมาะสม
4. พยายามขับขี่ด้วยความเร็วคงที่
5. แตะเบรกโดยไม่จำเป็นให้น้อยที่สุด

อุปกรณ์แต่ง Nissan Livina

ข้อเสีย หาของแต่งยาก

ต้องยอมรับว่า Nissan Livina รุ่นเจเนอเรชั่นที่ 1 มีคนใช้ไม่แพร่หลายเท่าไหร่ ชุดแต่งต่างๆนอกเหนือจากที่ติดตั้งมาขณะออกรถใหม่แล้วจะหายากพอสมควร (ยกเว้นชิ้นเล็กๆ อาทิ ฝาครอบ มือจับ) ส่วนชิ้นใหญ่ๆต้องสั่งผ่านตัวแทนในเว็บไซส์เอง (รุ่นนี้ผลิตในอินโดนีเซีย) ซึ่งค่าใช้จ่ายในการขนส่งไม่ได้สูงมาก ส่วนระยะเวลาในการรอสินค้าขึ้นอยู่กับเว็บที่ท่านใช้บริการ ส่วนมากไม่เกิน 1 สัปดาห์

ข้อเสีย อะไหล่หายาก

เนื่องจากมีคนใช้น้อย หลายๆคนจึงกังวลว่าอะไหล่จะหายากหากต้องการซ่อมแซมด่วน สำหรับอะไหล่ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ส่วนใหญ่สามารถใช้ร่วมกันกับ Nissan Tiida และนิสสันรุ่นอื่นๆได้ แต่ส่วนประกอบตัวถังหากต้องเปลี่ยน ทางศูนย์บริการและอู่นอกมักไม่สต็อกสินค้าไว้ จะใช้วิธิสั่งเป็นครั้งๆแทน ซึ่งต้องรอนานพอสมควร

เบาะที่นั่งด้านหลังแข็ง ไม่รับกับสรีระผู้โดยสารเท่าที่ควร

ปัญหา เบาะไม่นุ่ม โดยเฉพาะเบาะหลังแข็งมาก

อีกปัญหาหลักที่ผู้ใช้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เบาะแข็ง” ซึ่งการออกแบบเบาะให้มีส่วนนูนส่วนเว้าไม่รับกับสรีระผู้โดยสารเท่าที่ควร การรองรับน้ำหนักไม่นุ่ม กอรปกับตัวเบาค่อนข้างเอนเล็กน้อย หากใครที่ชอบขับรถหลังตรงจะรู้สึกไม่ถนัด ปวดหลังง่าย ไม่เหมาะสำหรับนั่งโดยสารทางไกล โดยเฉพาะผู้สูง (ทั้งที่เป็นรถสำหรับครอบครัว ซึ่งจุดประสงค์หลักของผู้ซื้อคือเอาไว้สำหรับพาสมาชิกในบ้านไปเที่ยว) การแก้ปัญหานี้ นอกจากจะเปลี่ยนเบาะใหม่ (เปลืองงบมาก) ยังสามารถใช้แผ่นดันหลัง และเบาะรองนั่งเสริม ให้มีความนุ่ม รองรับสรีระได้ดีขึ้นครับ

Nissan Livina ปัญหาจุกจิกน้อย ใช้งานคุ้มค่า

จากปัญหาและข้อเสียข้างต้น จะเห็นได้ว่านอกจากเบาะแข็งทำให้ปวดหลังแล้ว ส่วนใหญ่ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องแก้ไขจุกจิก และไม่มีผลต่อสมรรถนะการขับขี่ หรือความปลอดภัยของผู้โดยสาร ด้วยราคา Nissan Livina โฉมเจเนอเรชั่นที่ 1 มือสองราว 300,000-400,000 บาท แต่ได้รถตัวถังใหญ่ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ออพชั่นครบครัน ช่วงล่างดี ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว สำหรับท่านใดที่สนใจ Nissan Livina 2019 ป้ายแดง คงต้องรอสัมผัสตัวจริงในโชว์รูม ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่า Nissan Livina น่าใช้งานทีเดียวครับ

อ่านเพิ่มเติม:
Nissan Livina 2019 คู่แฝด Xpander เปิดตัวอย่างเป็นทางการในแดนอิเหนา
รีวิว Mitsubishi Xpander 2018 สัมผัสความสบายในทุกการขับขี่