มอเตอร์ไซค์ เติมน้ํามันอะไร จึงจะเหมาะกับรถของคุณ
มอเตอร์ไซค์ เติมน้ํามันอะไร จึงจะเหมาะกับรถที่ใช้งาน แล้วน้ำมันแต่ละเกรดมีความแตกต่างกันไหม หากเติมน้ำมันผิดประเภทจะส่งผลเสียอะไร ?
น้ำมัน มอเตอร์ไซค์ที่เห็นอยู่ในปั๊มมีหลายเกรดให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล 91 แก๊สโซฮอล 95 รวมถึง E20 ซึ่งแต่ละเกรดจะมีค่าออกเทนที่แตกต่างกันไป หากเติมน้ำมันผิดเกรดอาจส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์และสมรรถนะการขับขี่ได้ แล้วรถมอเตอร์ไซค์ เติมน้ํามันอะไรถึงจะดี บทความนี้มีคำแนะนำมาฝาก
น้ำมัน มอเตอร์ไซค์มีหลายเกรดให้เลือก
ค่าออกเทนคืออะไร ?
ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่าค่าออกเทนที่ได้ยินกันบ่อย ๆ หรือ Octane Rating คือ ค่าที่บอกความสามารถของน้ำมันเชื้อเพลิงว่าทนต่อการชิงจุดระเบิดตัวเอง ก่อนการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ได้มากแค่ไหน นั่นหมายความว่ายิ่งค่าออกเทนสูงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต่อต้านการจุดระเบิดตัวเองได้มากเท่านั้น ทั้งนี้ หากน้ำมันชิงจุดระเบิดตัวเองก่อน จะทำให้เกิดแรงดันภายในห้องเผาไหม้มากกว่าปกติ และส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานผิดพลาดนั่นเอง
มอเตอร์ไซค์ เติมน้ํามันอะไร
น้ำมัน มอเตอร์ไซค์แต่ละเกรด มีอะไรบ้าง ?
- น้ำมันเบนซิน 91 : เกิดจากการกลั่นน้ำมันดิบ ที่นำมาปรับแต่งให้ได้ค่าออกเทนและคุณภาพที่ต้องการ
- แก๊สโซฮอล : เป็นการนำน้ำมันเบนซินและเอทานอล หรือเอทิลแอลกอฮอล์) ที่มีคุณสมบัติที่สามารถเพิ่มค่าออกเทนได้มาผสมกัน
- แก๊สโซฮอล์ 91 (E10) : น้ำมันเบนซิน (ออกเทน 87%) 90% + เอทานอล 10%
- แก๊สโซฮอล์ 95 (E10) : น้ำมันเบนซิน (ออกเทน 91%) 90% + เอทานอล 10%
- แก๊สโซฮอล์ 95 (E20) : น้ำมันเบนซิน (ออกเทน 95%) 80% + เอทานอล 20%
น้ำมันเชื้อเพลิง มีค่าออกเทนแตกต่างกัน
มอเตอร์ไซค์ เติมน้ํามันอะไร?
โดยปกติแล้วรถมอเตอร์ไซค์แทบจะทุกรุ่น จะระบุค่าออกเทนที่เครื่องยนต์ต้องการไว้ในคู่มือการใช้ รวมถึงบริเวณใต้เบาะรถ ผู้ใช้สามารถเติมน้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงกว่าสเปคเครื่องยนต์ได้ แต่ห้ามเติมน้ำมันที่มีค่าออกเทนต่ำกว่าความต้องการของเครื่องยนต์ เพราะจะทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงจุดระเบิดตัวเองก่อน จนส่งผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ เมื่อขับไปแล้วอาจมีอาการอืด หรือติด ๆ ดับ ๆ เนื่องจากเครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพนั่นเอง
อีกหนึ่งข้อควรระวังที่ควรทราบ สำหรับผู้ที่เติมเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล แต่ไม่ค่อยได้ใช้รถมอเตอร์ไซค์หรือนาน ๆ ทีจะใช้ อย่างที่บอกไปว่าเอทานอล มีคุณสมบัติเพิ่มค่าออกเทนได้จริง แต่ก็ระเหยง่ายด้วยเช่นกัน หากเติมน้ำมันแล้วปล่อยทิ้งไว้ ไม่ค่อยใช้งาน ก็อาจทำให้เอทานอลเกิดการระเหยจนส่งผลให้ค่าออกเทนลดลงได้
ไม่ควรเติมน้ำมันที่มีค่าออกเทนต่ำกว่าสเปคเครื่องยนต์
จะเห็นได้ว่าความแตกต่างของน้ำมันแต่ละประเภทอยู่ที่ค่าออกเทน ผู้ขับขี่จึงควรเติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทนเหมาะสมกับเครื่องยนต์ จึงจะทำให้สมรรถนะในการขับขี่มีประสิทธิภาพ ไม่อืด หรือส่งผลเสียต่อการทำงานของเครื่องยนต์
อ่านเพิ่มเติม >>
