nipponpaint (2)
บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด หน่วยธุรกิจสีพ่นซ่อมรถยนต์ ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดย ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และนายนพดล ศรีสินรุ่งเรือง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาบุคลากรของอาชีวศึกษา สาขาพ่นซ่อมสีรถยนต์” เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายนพดล ศรีสินรุ่งเรือง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด หน่วยธุรกิจสีพ่นซ่อมรถยนต์ กล่าวว่า จากนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม และคุณภาพทักษะฝีมือด้านวิชาชีพ รวมถึงแนวคิดที่ต้องการผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นิปปอนเพนต์เล็งเห็นถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานช่างสีรถยนต์ และในฐานะภาคเอกชนที่มีความพร้อมทั้งด้านวัสดุอุปกรณ์ และบุคคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนยกระดับวิชาชีพนี้ บวกกับเล็งเห็นศักยภาพของเยาวชนคนรุ่นใหม่ในสายอาชีวศึกษา จึงเกิดเป็นความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ซึ่งจะดำเนินการภายใต้โครงการ Protégé (โปรเตเจ้)ถ่ายทอดความรู้และทักษะฝีมือแก่บุคลากรอาชีวศึกษามาตั้งแต่ปี 2558 และสานต่อโครงการโดยจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาบุคลากรของอาชีวศึกษา สาขาพ่นซ่อมสีรถยนต์” เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ด้าน น.ส.คมคาย ธมะสุข หัวหน้าโครงการ Protégé บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด หน่วยธุรกิจสีพ่นซ่อมรถยนต์ กล่าวว่า นิปปอนเพนต์ดำเนินโครงการ Protégé ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยจัดการเรียนการสอนและฝึกทักษะวิชาชีพให้กับนักเรียน นักศึกษา และครูในสังกัด สอศ. ที่เข้าร่วมโครงการไปแล้ว 63 รุ่น จำนวน2,160 คน พร้อมสนับสนุนสีวัสดุอุปกรณ์ให้กับสถานศึกษาสังกัด สอศ. กว่า 150 แห่งทั่วประเทศ รวมมูลค่ากว่า 12 ล้านบาท และในปี 2561 ตั้งเป้าสอนบุคลากรอาชีวศึกษา 3,000 คน นอกจากนี้ยังร่วมกับคณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (อ.กรอ.อศ.) จัดทำหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น 75 ชั่วโมง สาขาช่างตัวถังและช่างซ่อมสีรถยนต์ยนต์ โดยตลอดทั้งโครงการตั้งเป้าจะผลิตช่างสีรุ่นใหม่ได้ 5,000 คน และจะเดินหน้าสานต่อโครงการเพื่อสนับสนุน พัฒนา เสริมสร้างความรู้และทักษะให้แก่เยาวชนในสาขาช่างสีรถยนต์อย่างต่อเนื่อง