ที่ 1 รุ่น SS6oo_no100_ฐิติพงศ์
กองทัพนักบิดไทยสร้างผลงานระดับมาสเตอร์ “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร ดาวบิดไทยจาก คอร์ คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ผงาดแชมป์รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. ในศึก เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ เรซแรก ขณะ “ตี” อนุภาพ ซามูล จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ฟอร์มดุคว้าชัยรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ได้ร้องเพลงชาติไทยฉลองต่อหน้าแฟนความเร็วในบ้านเกิด ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2018 สนามแรก มีเปิดฉากดวลความเร็วเรซแรกในเมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร ซึ่งในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. แข่งขันทั้งสิ้น 10 รอบสนาม ส่วนในรุ่นใหญ่อย่าง ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. ดวลกันทั้งสิ้น 18 รอบสนาม
โดยตำแหน่งโพลในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. ตกเป็นของ โมฮัมหมัด ซัควาน ไซดี้ นักบิดมาเลเซียนจาก ทีมมูซาชิ บุนซิว ฮอนด้า ขนาบข้างด้วยจอมเก๋าชาวออสเตรเลียนอย่าง แอนโธนี เวสต์ จาก วีไบค์ อิคาซูชิ เรซซิ่ง ในกริดที่ 2 ส่วนนักบิดไทยอย่าง รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม กดเวลารั้งกริดสตาร์ทแถวหน้าในอันดับ 3
ออกสตาร์ทเรซนี้เป็น เวสต์ ที่ทะยานขึ้นเป็นผู้นำได้อย่างรวดเร็ว ตามด้วย เดชา ไกรศาสตร์ นักบิดไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลดน์ เรซซิ่ง ทีม ในอันดับ 2 และไซดี้ ในอันดับ 3 โดยหลังผ่าน 4 รอบสนามกลายเป็น ฐิติพงศ์ วโรกร นักบิดไวด์การ์ดจาก คอร์ คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ที่ทะยานขึ้นมาเป็นหัวแถวได้สำเร็จ ตามด้วย อาซลัน ชาร์ แชมป์เก่าชาวมาเลเซียนจาก แมนวล เทค เควายที และ เดชา ในอันดับ 2-3
ในรอบที่ 8 ของการแข่งขัน เดชา ต้องพลาดล้มออกจากเรซอย่างน่าเสียดายในโค้งที่ 3 ขณะที่ ฐิติพงศ์ นำห่างคู่แข่งออกไปเรื่อยๆ เมื่อผ่านไปครึ่งทางของการแข่งขัน
จบการแข่งขัน 18 รอบสนาม ฐิติพงศ์ บิดหายเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วย คว้าแชมป์ไปครองอย่างสุดมันส์ ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง เวสต์ ถึง 4.274 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ชาร์ ตามหลังแชมป์ 4.654 วินาที
ส่วน รัฐพงษ์ จบการแข่งขันในอันดับ 6 ตามหลังแชมป์ 5.700 วินาที ตามด้วย เขมินท์ คูโบะ นักบิดลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นจาก ยามาฮ่า เรซซิ่ง ทีม เอเชียน ในอันดับ 9 ด้าน ภาสวิชญ์ ฐิติ วรารักษ์ นักบิดหน้าใหม่จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ จบการแข่งขันในอันดับ 18
เด็กไทยกระหึ่ม : นักบิดดาวรุ่งชาวไทยสร้างผลงานระดับมาสเตอร์ในศึกสองล้อชิงแชมป์เอเชีย “ตี” อนุภาพ ซามูล จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ผงาดคว้าแชมป์รุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. เรซแรกจากศึก เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2018 สนามแรก ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ส่วนเกมในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. มีนักบิดไทยอย่าง อนุภาพ ซามูล จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม เป็นเจ้าของโพล ขนาบข้างด้วย กฤชพร แก้วสนธิ ดาวรุ่งฟอร์มแรงจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ มาริโอ เซฮร์โจ ซาร์จี้ ดาวรุ่งอินโดนีเซียนจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม
ผ่านการแข่งขันรอบแรกเป็น มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่งจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ทีทะยานจากกริดที่ 8 ขึ้นมารั้งอันดับ 1 ได้สำเร็จ ทว่าในรอบถัดมา กฤชพร กลับสามารถทวงจ่าฝูงกลับมาครองได้ แต่การขับเคี่ยวในกลุ่มหน้าก็เข้มข้นสุดๆ จากการช่วงชิงของนักบิดนับ 10 คน โดยเฉพาะเจ้าของโพลอย่าง อนุภาพ และนักบิดไทยคนอื่นๆ และนักบิดแถวหน้าจากเอเชียอีกหลายคน
การแข่งขันต้องมาวัดกันถึงโค้งสุดท้าย โดยหลังผ่าน 10 รอบสนาม เป็น อนุภาพ ที่พลิกแซง มุกข์ลดา ได้ในโค้งสุดท้ายเข้าป้ายเป็นคันแรก คว้าชัยชนะเรซแรกในประเทศไทยไปครองได้อย่างสุดมันส์ เฉือนอันดับ 2 อย่าง มุกข์ลดา เพียง 0.220 วินาที เท่านั้น นับเป็นการได้ยืนโพเดี้ยม 2 อันดับแรก พร้อมรองเพลงชาติไทยฉลองต่อหน้าแฟนความเร็วในบ้านเกิดอย่างยิ่งใหญ่ ส่วนอันดับ 3 เป็นของ มาริโอ เซอร์โย อาจี้ นักบิดดาวรุ่งอินโดนีเซียนจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม อย่างไรก็ดี หลังจบเรซ มุกข์ลดา โดนลงโทษปรับ 5 อันดับ ส่งผลให้ร่วงลงไปจบเรซในอันดับ 7 อย่างน่าเสียดาย
ขณะที่นักบิดไทยคนอื่นๆ ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พีระพงศ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม จบการแข่งขันในอันดับ 4 ตามด้วย กฤชพร แก้วสนธิ เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในอันดับ 8 และ คณาทัต ใจมั่น จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ในอันดับ 10
สำหรับการแข่งขัน เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2018 สนามแรก เรซที่ 2 จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคมนี้ โดยรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. จะออกสตาร์ทเรซ 2 ของสุดสัปดาห์นี้ ในเวลา 14.05 น. ส่วนรุ่นใหญ่อย่าง ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. จะดวลกันในเวลา 15.05 น.