เปิดตัว MG HS PHEV 2021 ปลั๊กอินไฮบริด ราคา 1.359 ล้านบาท!

เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับ MG HS PHEV 2021 (เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี) เอสยูวี Plug-in Hybrid ที่ผสาน 2 ระบบขับเคลื่อนเข้าด้วยกัน ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,359,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นยนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริดที่ถูกที่สุดในตลาด

MG HS PHEV 2021

MG HS PHEV 2021 ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด Brit Dynamic ที่ผสานทั้งสมรรถนะ (Performance) การควบคุม (Handling) การออกแบบ (Design) และความปลอดภัย (Safety) ได้อย่างลงตัว เต็มไปด้วย Passion แบบฉบับยนตรกรรมอังกฤษตามมาตรฐานของ MG

MG HS PHEV 2021 ราคา 1.359 ล้านบาท

ตัวถังภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ ที่สอดรับกับไฟหน้าแบบ LED Projector ได้อย่างดี มาพร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequentail ไฟท้าย LED Space Light Field ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 18 นิ้ว และหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ขนาดใหญ่ 1.1 ตารางเมตร

หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา

ภายในห้องโดยสารมีความโปร่งโล่ง กว้างขวาง มากับสีใหม่อย่างสีทูโทน Monaco Blue พร้อมวัสดุผิวสัมผัสนุ่มแบบ Soft Touch เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sport Bucket Seat โอบกระชับเรือนร่างช่วยให้นั่งได้อย่างสบาย ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบความบันเทิง อาทิ ระบบ i-SMART รองรับการสั่งการด้วยเสียง, จอแสดงผล Full Virtual Dasboard ขนาด 12 นิ้ว, จอทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว, ลำโพงพร้อมซัพวูฟเฟอร์ 8 ตำแหน่ง ทั้งยังมีการติดตั้งฟิล์มกันเสียงและแผ่นซับเสียง ทำให้เงียบมากขึ้น

ภายในสีทูโทน Monaco Blue

จอแสดงผล Full Virtual Dasboard ขนาด 12 นิ้ว

หน้าจอ TOUCHSCREEN ขนาด 10 นิ้ว

ด้านขุมพลังจะเป็นแบบ Plug-in Hybrid ซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบ เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า และแรงบิด 250 นิวตันเมตร ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 122 แรงม้า และแรงบิด 230 นิวตันเมตร

ส่วนแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไอออน ขนาดความจุ 16.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง โดย MG HS PHEV จะมีกำลังสูงสุดรวมกันทั้งระบบที่ 284 แรงม้า และแรงบิด 480 นิวตันเมตร สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลสุดที่ 67 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ NEDC)

ขุมพลัง Plug-in Hybrid

ด้านระบบความปลอดภัย ก็ให้มาแบบจัดเต็ม อาทิ ถุงลมนิรภัย 6 จุด, ระบบควบคุมการทรงตัว SCS, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไหล TCS, ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้พลิกคว่ำ ARP, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA, Around View Monitor ฯลฯ

ถุงลมนิรภัย 6 จุด คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย

Around View Monitor

โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่

• สีขาว Arctic White ภายในสีทูโทน Monaco Blue
• สีแดง Scarlet Red ภายในสีดำ Black
• สีดำ Black Knight ภายในสีดำ Black

มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี

สีแดง Scarlet Red

สีดำ Black Knight

อ่านเพิ่มเติม >>

• ใครก็ฉุดไม่อยู่รถยนต์ MG ผลิตรถในไทยสะสม 1 แสนคัน !!
• ยืนยันแล้ว! Nissan Navara 2021 เปิดตัว 5 พ.ย. นี้!