Honda City e:HEV 2021 (ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี)
อวดโฉมอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Honda City e:HEV 2021 (ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี) Full Hybrid รุ่นแรกของเซกเมนต์ซิตี้คาร์ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Honda City Generation 5 ใต้แนวคิด “Ambitious Sedan” ที่มุ่งสร้างความมั่นใจและยกระดับการใช้ชีวิตให้ล้ำไปอีกขั้น มีให้เลือก 1 รุ่นย่อย คือ e:HEV RS ราคา 839,000 บาท
Honda City e:HEV 2021 มาพร้อมตัวถังทั้งหมด 6 สีให้เลือก ได้แก่
Honda City e:HEV 2021 ได้รับการออกแบบในแนวคิด “Standing on the Edge” ภายใต้โครงสร้างตัวถังแบบ Wide & Low เน้นความสปอร์ต ปราดเปรียว ตั้งแต่กระจังหน้าแบบ Gloss Black ที่มากับโลโก้ฮอนด้าสีฟ้า (H Mark) ไฟหน้า-ท้ายแบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black เสาอากาศแบบครีบฉลาม รวมถึงล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์เท่
กระจังหน้าแบบ Gloss Black และโลโก้ฮอนด้าสีฟ้า (H Mark)
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุสีดำดูเรียบง่าย ทว่าเบาะนั่งเป็นแบบหนัง ตัดด้วยด้ายสีแดง ให้ความรู้สึกสปอร์ต มีความกว้างขวาง นั่งสบายด้วยการออกแบบพื้นที่ให้สอดคล้องกับสรีระ และครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก อาทิ หน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 7 นิ้ว , ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย, หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว, รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay, ระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI ฯลฯ
ภายในห้องโดยสาร
มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 7 นิ้ว
เบาะนั่งแบบหนังตัดด้วยด้ายแดง
หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว
Honda City e:HEV 2021 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังแบบ Full Hybrid ระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ที่ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้แรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 - 3,000 รอบต่อนาที
ขุมพลังแบบ Full Hybrid
มั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING ที่ติดตั้งในรถ City Car ของฮอนด้าเป็นรุ่นแรก ซึ่งมีระบบการทำงานดังต่อไปนี้ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
เทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING
พร้อมอำนวยความสะดวกด้วยเทคโนโลยี Honda CONNECT ที่มีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย ได้แก่
- My Service ตรวจสอบประวัติการเข้ารับบริการ รวมทั้งการประเมินรายการอะไหล่และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น โดยจะมีการแจ้งเตือนกำหนดการเข้ารับบริการครั้งต่อไป
- Car Log แสดงผลข้อมูลการขับขี่โดยสามารถเลือกทริปโปรด และแชร์ผ่านโซเชียลมีเดียได้
- WiFi สัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายจากรถยนต์ สามารถใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ โดยมีระยะการส่งสัญญาณห่างจากตัวรถยนต์อยู่ที่ 40 เมตร แต่ต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง
- Airbag Deployment เมื่อเกิดอุบัติเหตุและถุงลมทำงาน กล่องอุปกรณ์ TCU จะส่งสัญญาณเตือนให้ทราบทันทีผ่านทางแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้าเพื่อทำการติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรฉุกเฉินที่ลูกค้าผู้ใช้งานระบุไว้ในระบบ เพื่อทำการประสานงานให้ความช่วยเหลือขั้นต้น
เทคโนโลยี Honda CONNECT
- Car Status แจ้งเตือนสถานะรถยนต์ เมื่อเกิดความผิดปกติจากระบบของรถยนต์ และ แจ้งเตือนสัญญาณกันขโมย เมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์จากภายนอก เช่น การเปิดประตู กระโปรงหน้า และฝากระโปรงท้ายของรถยนต์อย่างผิดปกติ
- Remote Vehicle Control สามารถสั่งการล็อกและปลดล็อกประตูทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถสั่งสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมทั้งตั้งค่าระดับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศในรถยนต์ และการสั่งดับเครื่องยนต์ ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งเปิดสัญญาณไฟ ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย โดยผู้ใช้งานจะต้องกำหนดรหัสส่วนตัวเป็นตัวเลข 4 หลัก (PIN) และจะต้องป้อนรหัสส่วนตัวทุกครั้งก่อนการใช้งาน
- Geo Fence & Speed Alert สามารถกำหนดขอบเขตการขับขี่รถยนต์ทั้งเข้าและออกตามพื้นที่ที่กำหนดไว้ และยังสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนความเร็วตามกำหนดได้อีกด้วย
- Find My Car สามารถตรวจสอบพิกัดรถยนต์ โดยระบบจะส่งพิกัดรถยนต์บนแผนที่ล่าสุด แสดงผลบนแอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องใส่รหัสส่วนตัว 4 หลัก (PIN) ก่อนการใช้งาน
อ่านเพิ่มเติม >>