เปิดตัว 2021 Bmw Series 5 ยนตรกรรมผู้บริหารระดับพรีเมียม เริ่ม 2.99 ล้าน
ต้อนรับต้นปี 2564 ทางบริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ได้เปิดตัว 2021 Bmw Series 5 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นที่ 7 ในสามรุ่นย่อย ได้แก่ Bmw 520d M Sport, Bmw 530e Elite และ Bmw 530e M Sport ที่มาพร้อมความเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น รูปโฉมที่ทรงพลังยิ่งขึ้นทั้งภายนอกและภายใน ตลอดจนเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่ล่าสุด เรียกว่าเป็นที่สุดของยนตรกรรมผู้บริหารระดับพรีเมียมในตลาดประเทศไทย
เริ่มกันที่ไฮไลท์เด่น ๆ ของ 2021 Bmw Series 5 ที่มาพร้อมความแตกต่างในเรื่องของดีไซน์ภายนอกที่ดูสะดุดสายตา ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าทรงไตคู่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 20 % จนมีคนแซว ๆ กันว่ากระจังหน้ามันจะใหญ่ขึ้นในทุก ๆ เจเนอเรชั่น โดยรูปทรงของกระจังหน้าเป็นทรงแปดเหลี่ยมที่ยาวลงมาชนกับกันชนหน้า ล้อมรอบด้วยกรอบที่เชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียว ส่วนบนของซี่ในกระจังหน้ายื่นออกมาเล็กน้อย ซึ่งสอดรับกับไฟหน้า Adaptive LED รูปตัว L อย่างลงตัว
กระจังหน้าทรงไตคู่ที่มีขนาดใหญ่
ไฟท้ายสามมิติทรงตัว L
ดีไซน์ด้านท้ายรถสื่อถึงรูปลักษณ์ที่ผสานความสง่างามและล้ำสมัย ไฟท้าย LED มาในรูปแบบสามมิติทรงตัว L สอดคล้องกับไฟหน้า โดยไฟท้ายและไฟเบรกได้รับการออกแบบมาให้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว เสริมลุคสปอร์ตด้วยท่อไอเสียทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่ท้ายรถทั้งสองด้านซึ่งรวมเป็นส่วนหนึ่งของกันชนท้ายไว้ได้อย่างลงตัว
2021 Bmw Series 5 ใหญ่ยาวกว่ารุ่นเก่า ด้วยมิติตัวรถที่ยาวกว่าเดิมถึง 27 มิลลิเมตร ทำให้มีความยาว 4,963 มิลลิเมตร พร้อมด้วยประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงต้าน (Cd) เพียง 0.23 ซึ่ง 2021 Bmw Series 5 ทั้งสามรุ่นย่อยยังมาพร้อมชุดแต่ง M Aerodynamics และล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาลาย Double-spoke ขนาด 18 นิ้ว สำหรับรุ่น 520d M Sport และล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาลาย Y-spoke แบบสลับสี ขนาด 19 นิ้ว สำหรับรุ่น 530e M Sport ขณะที่รุ่น 530e Elite มาพร้อมล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ลาย Double-spoke
ในส่วนของเครื่องยนต์ 2021 Bmw Series 5 ใหม่ มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและระบบปลั๊กอินไฮบริด พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ใหม่ล่าสุด
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ BMW 520d M Sport
- เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ถูกติดตั้งอยู่ใน BMW 520d M Sport พร้อมมอบพละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,750 - 2,500 รอบ/นาที สามารถวิ่งจาก 0 -100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 7.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 235 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ถูกติดตั้งอยู่ใน BMW 530e Elite และ BMW 530e M Sport พร้อมมอบพละกำลังสูงสุด 184 แรงม้าที่ 5,000 - 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,350 - 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด ส่งกำลังรวมสูงสุดถึง 215 กิโลวัตต์ / 292 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ BMW 530e Elite และ BMW 530e M Sport
ช่องชาร์จไฟสำหรับระบบปลั๊กอินไฮบริด
นอกจากนี้ยังมีระบบ XtraBoost ที่จะช่วยเพิ่มกำลังได้มากถึง 40 แรงม้า ในระยเวลาเพียง 10 วินาที เมื่อขับขี่ในโหมด SPORT ทำให้ BMW 530e Elite และ BMW 530e M Sport สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม. ได้ในเวลาเพียง 5.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 235 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้งนี้สามารถขับขี่แบบไร้มลพิษได้เป็นระยะทาง 52 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่แรงดันสูงความจุ 12.0 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่ติดตั้งอยู่ใต้เบาะหลัง
BMW 530e Elite และ BMW 530e M Sport ยังมีระดับการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยต่ำเพียง 41 กรัม/กิโลเมตร ตามการอ้างอิงผล ECO Sticker โดยเคลมได้ว่าเป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดขนาดใหญ่ในไทยที่ปล่อยมลพิษต่ำที่สุดในกลุ่มอีกด้วย
ในส่วนของการควบคุมที่เฉียบคมและโฉบเฉี่ยวเช่นเดียวกันรุ่นก่อนหน้า ทั้งการออกแบบที่เน้นน้ำหนักเบา และการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 โดยช่วงล่างมาพร้อมเพลาหน้าแบบปีกนกคู่และเพลาหลังแบบ five-link ให้คุณขับขี่ได้อย่างนุ่มสบายทั้งในชีวิตประจำวันและขณะเดินทางไกล ฐานล้อที่ยาวและกว้าง รวมทั้งการออกแบบที่เน้นน้ำหนักเบา และการกระจายน้ำหนักแบบ 50:50 ช่วงล่างมาพร้อมเพลาหน้าแบบปีกนกคู่และเพลาหลังแบบ five-link จึงขับขี่ได้อย่างนุ่มสบายทั้งในชีวิตประจำวันและขณะเดินทางไกล รวมถึงในการขับขี่ที่ต้องใช้ความคล่องตัวสูง
ทั้งนี้ BMW 530e M Sport มาพร้อมระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว (Integral Active Steering) ที่มีระยะกว้างกว่ารุ่นก่อนหน้า ส่งล้อหลังมาช่วยเสริมสมรรถนะการเข้าโค้งเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วมากกว่า 3 กิโลเมตร/ชั่วโมง และยังช่วยเสริมความคล่องตัวขณะเข้าจอด ในส่วนของ BMW 530e M Sport มาพร้อมช่วงล่างแบบ Adaptive ขณะที่รุ่น 520d M Sport มาพร้อมช่วงล่างแบบ M Sport ที่เป็นเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ใน 2021 Bmw Series 5
ระบบ Integral Active Steering
เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ BMW 520d M Sport และ 530e M Sport มาพร้อมระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) และฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในสภาวะต่าง ๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Stop & Go (Active cruise control with Stop & Go function) ใน BMW 530e M Sport และระบบควบคุมความเร็วคงที่ พร้อมฟังก์ชันช่วยลดความเร็ว (Cruise Control with braking function) ใน BMW 520d M Sport และ 530e Elite รวมถึงระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Attentiveness Assistant) ในทั้งสามรุ่น
ระบบ Driving Assistant
นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยอีกมากมายในทุกรุ่นเพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ เช่น เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection) ระบบ Active Protection และเซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง (Park Distance Control) และสำหรับ BMW 530e M Sport ยังมาพร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera) และระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus) เพื่อยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบายโดยเฉพาะขณะถอยจอดและจอดขนาน
ระบบ Crash Sensor
ระบบ Surround View Camera
ในแง่ของภายในห้องโดยสารของ 2021 Bmw Series 5 ทั้งสามรุ่น ยังคงเน้นการผสานทั้งความสง่างามและความล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกัน และยังคำนึงถึงผู้ขับขี่เป็นหลัก ภายในห้องโดยสารถูกตกด้วยแต่งด้วยวัสดุพรีเมียมและงานฝีมือสุดประณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ คอนโซลกลางมาในสีดำเงาเพื่อความหรูหรา ตัดกับพวงมาลัยหุ้มหนังมัลติฟังก์ชัน M Sport พร้อมคอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec ในรุ่น 520d M Sport และ 530e M Sport
ภายในห้องโดยสาร 520d M Sport และ 530e M Sport
ภายในห้องโดยสาร 520d M Sport และ 530e M Sport
นอกจากนี้ 2021 Bmw Series 5 ทั้งสามรุ่นยังมาพร้อมเบาะหนังแท้ Dakota ภายในห้องโดยสารของ BMW 520d M Sport และ 530e M Sport ตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมลาย Rhombicle Smoke Grey พร้อมแถบโครเมียม ขณะที่ BMW 530e Elite ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาพร้อมแถบโครเมียมอีกด้วย
ภายในห้องโดยสาร BMW 530e Elite
2021 Bmw Series 5 ยังได้รับการพัฒนาในด้านระบบความบันเทิงและการสื่อสารให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดย BMW 520d M Sport และ 530e M Sport มาพร้อมจอ BMW Head-up Display และระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7 ที่สามารถปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมระบบปลดล็อกประตููอัจฉริยะ (Comfort Access System) ที่รองรับ BMW Digital Key ซึ่งเปลี่ยนให้ iPhone กลายเป็นเหมือนกุญแจรถ สามารถล็อกและปลดล็อกรถได้โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะสั้นแบบ NFC (Near Field Communication) โดยรองรับผู้ใช้ได้สูงสุดถึง 5 คน อีกทั้งผู้ขับขี่สามารถเลือกควบคุมระบบการทำงานของรถยนต์ ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร ระบบการเชื่อมต่อ และระบบนำทางได้ผ่านทางจอ Control Display ระบบสัมผัส ระบบ iDrive ปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชันบนพวงมาลัย ระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่าน BMW Intelligent Personal Assistant และ BMW gesture control
ภายในห้องโดยสาร BMW 530e Elite
ภายในห้องโดยสาร BMW 530e Elite
ภายในห้องโดยสาร BMW 530e Elite
เมื่อซื้อ 2021 Bmw Series 5 ทั้งสามรุ่น จะโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard ซึ่งครอบคลุมการบำรุงรักษา 3 ปี / 60,000 กิโลเมตร และการรับประกัน 3 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง ทั้งสามรุ่นยังมีให้เลือกใน 5 สี ได้แก่ Alpine White, Black Sapphire metallic, Bluestone metallic และ Phytonic Blue รวมทั้งสี Bernina Grey Amber effect สำหรับ BMW 520d M Sport และ 530e M Sport
อ่านเพิ่มเติม
2021 Volvo XC40 Recharge ขุมพลังใหม่ เริ่ม 2.09 ล้านบาท
BMW X4 xDrive20d M Sport X 2020 ระดับการตกแต่งใหม่ ราคาเดิม