ท่ามกลางสถานการณ์ที่เราต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (Covid-19) เช่นนี้ กรมการขนส่งทางบก จึงออกมาแนะนำให้ประชาชนที่ต้องเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะให้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเลี่ยงโควิด-19 ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
1. สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าระหว่างให้บริการ
ผู้ขับขี่ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในระหว่างให้บริการ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ ควรใช้อย่างถูกวิธี และควรปฏิบัติดังนี้
ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเลี่ยงโควิด-19
2. คนขับที่ป่วย มีอาการไข้ ไอ จาม ห้ามขับรถเด็ดขาด ควรกักตัวที่บ้าน เพื่อสังเกตอาการ
เมื่อรู้ตัวว่ามีอาการป่วย หรือเข้าข่ายอาการโควิด-19 อาทิ มีอุณหภูมิร่างกายเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส, มีอาการไอ หรือจาม, ลิ้นไม่รับรสชาติอาหาร, จมูกไม่ได้กลิ่นใด ๆ ฯลฯ ควรกักตัว เพื่อสังเกตอาการอยู่ที่บ้าน 14 วัน เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อโดยไม่รู้ตัว โดยในระหว่างกักตัวต้องปฏิบัติ ดังนี้
3. ผู้ขับรถสามารถปฏิเสธผู้โดยสารที่ไม่สวมหน้ากากได้
หากพบผู้โดยสารที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย ให้ปฏิเสธทันที เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19
หากมีไข้สูงต้องหยุดทำงาน และกักตัวอยู่ที่บ้าน
1. จัดที่นั่ง หรือเว้นระยะยืน อย่างน้อย 1-2 เมตร ตาม Social Distancing
2. จัดให้มี เจล แอลกอฮอล์ ประจำรถ ให้ทำความสะอาดรถทุกครั้งทั้งก่อนและหลัง
3. เมื่อหยุดขับรถ ให้เปิดประตูหน้าต่าง เพื่อระบาบอากาศภายในรถ
1. สวมหน้ากากตลอดเวลาระหว่างเดินทาง
ผู้โดยสาร ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาระหว่างเดินทาง แม้จะป้องกันไม่ได้ 100% แต่ก็ยังดีกว่าไม่ป้องกันใด ๆ เลย โดยควรปฏิบัติดังนี้
2. นั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร
บนรถโดยสารสาธารณะ เป็นที่ที่คนพลุกพล่านเข้าออกอยู่ตลอดเวลา เราจึงไม่สามารถรู้ได้ว่า ใครป่วยหรือไม่ป่วย ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และหลีกเลี่ยงการสูดหรือสัมผัสละอองเชื้อโรคจากคนอื่น ๆ จึงควรนั่งหรือยืนให้ห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร
3. ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสที่นั่ง หรือราวรถเมล์
4. ขอความร่วมมือในการงดคุยโทรศัพท์
อย่างไรก็ตาม หากพบรถโดยสารที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ "ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเลี่ยงโควิด-19" สามารถโทรแจ้งสายด่วนได้ที่ 1584
อ่านเพิ่มเติม >>