14:04, 3 ต.ค. 2562

เตือน! หยุดใช้/รถหาย/ชำรุด ต้องแจ้งขนส่งฯ หากค้างภาษีรถเกิน 3 ปี ทะเบียนถูกระงับ

บันทึกรายการ

ใช้-ไม่ใช้ก็ต้องแจ้ง! ขบ. เผย กรณีหยุดใช้รถ รถหาย หรือใช้งานไม่ได้ ต้องแจ้งกรมการขนส่ง พร้อมเตือนหากรถค้างภาษีเกิน 3 ปี จะถูกระงับทะเบียนทันที

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2562 นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ผู้ใช้รถส่วนหนึ่งมักเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกรณีเลิกใช้รถ รถหาย หรือชำรุด ว่าไม่จำเป็นต้องแจ้งกับนายทะเบียน และไม่ต้องชำระค่าภาษีรถประจำปีแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงเมื่อเกิดกรณีดังกล่าว ผู้เป็นเจ้าของรถต้องแจ้งความจำนงในการไม่ใช้รถต่อนายทะเบียนที่สำนักงานขนส่งทางบกเสียก่อน โดยนำคู่มือจดทะเบียนรถ, สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, แผ่นป้ายทะเบียนรถ และแบบคำขอแจ้งการไม่ใช้รถ ไปยื่นเรื่องดำเนินการได้เลย



เลิกใช้/รถหาย/ชำรุด ต้องแจ้งขนส่ง

ดูเพิ่มเติม

ค้างจ่ายเกิน 3 ปี ถูกระงับทะเบียน

หากไม่มาติดต่อขอดำเนินการชำระภาษีตามกำหนดในแต่ละปีผู้ใช้รถต้องชำระภาษีพร้อมค่าปรับทั้งหมด (ที่ค้าง) และหากค้างจ่ายภาษีรถเกิน 3 ปี ทะเบียนจะถูกระงับทันที ทั้งนี้ ถ้ามีความประสงค์จะใช้รถคันดังกล่าวต่อไป ต้องดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนรถใหม่ โดยต้องคืนแผ่นป้ายทะเบียนเดิมพร้อมชำระภาษีประจำปีย้อนหลัง และจ่ายเงินค่าปรับเพิ่มเติม ส่วนเอกสารหรือหลักฐานที่ต้องเตรียมไป ได้แก่ คู่มือจดทะเบียนรถ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน แผ่นป้ายทะเบียนรถ แบบคำขอแจ้งใช้รถที่แจ้งไม่ใช้รถไว้ และหลักฐาน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ 

ดำเนินการได้ใน 90 วัน ก่อนครบอายุต่อภาษี

โดยปัจจุบันสำนักงานขนส่งฯ มีการอำนวยความสะดวกให้ผู้มาใช้บริการสามารถชำระภาษีได้อย่างสะดวก รวดเร็ว พร้อมเพิ่มช่องทางการชำระภาษีประจำปีให้หลากหลายมากขึ้น ซึ่งผู้ใช้รถสามารถดำเนินการได้ก่อนครบอายุภาษี 90 วัน 

ดูเพิ่มเติม

ประชาชนนิยมเสียภาษีที่ขนส่งมากที่สุด 4.2 ล้านคัน 

รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ยังเพิ่มเติมเกี่ยวกับสำหรับสัดส่วนการชำระภาษีรถประจำปีของประชาชนในกรุงเทพมหานครว่า ในเดือนสิงหาคม 2562 ประชาชนยังคงนิยมไปใช้บริการที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 มากที่สุด สูงถึง 4,181,013 คัน จัดเก็บภาษีรถประจำปีได้ 5,848,457,875.58 บาท 

รองลงมาคือ การชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทาง “เลื่อนล้อ ต่อภาษี (Drive Thru for Tax)” จำนวน 628,259 คัน จัดเก็บภาษีได้ 1,120,020,921.71 บาท 

ส่วนการให้บริการที่หน่วยเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถประจำปี ในวันเสาร์-อาทิตย์ ตามโครงการ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)” ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีทั้ง 14 สาขา ตามมาเป็นอันดับ 3 โดยมีผู้มาชำระภาษีรถประจำปีจำนวน 477,048 คัน จัดเก็บภาษีได้ 672,692,460.17 บาท 

ปิดท้ายด้วย อันดับสี่ คือช่องทางการชำระออนไลน์ อย่างเว็บไซต์ e-service มีประชาชนใช้บริการจำนวน 198,131 คัน จัดเก็บภาษีได้ 282,909,334.00 บาท

อย่างไรก็ตาม ย้ำกันอีกครั้ง หากรถหาย, เลิกใช้ หรือรถชำรุด อย่าลืมให้แจ้งเรื่องต่อนายทะเบียน ที่สำนักงานขนส่งฯ อย่าละเลยจนปล่อยความยุ่งยากตามมาในภายหลัง ด้วยความหวังดีจาก Khaorot 

SUNSAWON

ในหมวดเดียวกัน