สิบล้อขับปาดรถตู้บนทางลงจากเขาพร้อมลงมาฟาดกระจกรถคู่กรณีพังยับ
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณทางลงเขากะตะ ถนน ปฏัก ในเขต อำเภอกระรน จังหวัดภูเก็ต ซึ่งถูกบันทึกจากรถยนต์ที่ขับอยู่ด้านหลัง โดยมีสองคลิปสองเหตุการณ์หลังจากคลิปที่รถสิบล้อหมายเลขทะเบียน 81-1000 ภูเก็ต ขับปาดไปมารถตู้โตโยต้าคอมมิวเตอร์ สีขาวหมายเลขทะเบียน 31-2214 ภูเก็ต อย่างน่าหวาดเสียวหลังจากนั้นก็ได้มีคลิปต่อเนื่องในอีกบริเวณหนึ่งหน้าตลาดแม่สมจิตร โดยรถสิบล้อคันก่อเหตุได้ขับรถจอดขวางหน้ารถตู้คู่กรณีหลังจากนั้นคนขับสิบล้อได้ลงมาต่อว่ารถตู้คู่กรณีโดยในมือถือประแจสีขาวพยายามเงื้อขู่จะทุบกระจกหน้าต่างด้านข้างคนขับของรถตู้ และพยายามใช้มืออีกข้างดึงเปิดประตูและทุบที่กระจกหน้าต่างอย่างแรง ก่อนจะทุบที่กระจกมองข้างอีกครั้งอย่างแรงจนแผ่นกระจกหลุดตกลงบนพื้น ก่อนรีบเดินกลับไปที่รถ ซึ่งจากคลิปคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นสาเหตุต่อเนื่องจากเหตุขับกันไปมาขณะลงเขา
ภาพจากคลิปเหตุการณ์แรกขณะรถสิบล้อขับปาดรถตู้ขณะลงเขา
สำหรับเหตุการณ์อุกอาจนี้หลังจากได้แพร่หลายออกไปในโลกออนไลน์ทางด้านตำรวจ โดย ร้อยตำรวจเอก สุริยง บัวเกิดเพชร รอง สว.(สอบสวน) สภ.กะรน ได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่สายตรวจ ติดตามคู่กรณีมาพบ เบื้องต้นทราบตัวผู้ก่อเหตุและผู้เกี่ยวข้อง 3 รายคือ นายหัตพงศ์ อินนุรักษ์ อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดตรัง คนขับบรรทุกสิบล้อ คันก่อเหตุ และนายอนุพงศ์ แซ่ง้อ อายุ 24 ปี คนขับตู้คู่กรณี พร้อมนายสุนทร ชุนวร อายุ 53 ปี เจ้าของรถยนต์ตู้ผู้เสียหาย มาให้การ โดยมี พ.ต.อ.ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ ผกก.สภ.กะรน ร่วมสอบปากคำ
ภาพจากคลิปเหตุการณ์ที่สองขณะคนขับสิบล้อลงมาต่อว่าคนขับรถตู้
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า คู่กรณีทั้งสองฝ่ายขับขี่รถมาจากบริเวณวงเวียนห้าแยกฉลอง โดยนายอนุพงศ์ ขับรถตู้อยู่ช่องทางด้านขวา ส่วนนายหัตพงศ์ ขับรถบรรทุกสิบล้ออยู่ช่องเดินรถซ้ายมือทางด้านหลัง โดยนายหัตพงศ์ พยายามจะขับแซงรถตู้ แต่ไม่สามารถแซงได้ เนื่องจากรถตู้ขับกันไม่ให้แซงได้ จึงเกิดอารมณ์โมโห และพยายามแซงเป็นผลสำเร็จ ที่บริเวณหน้าตลาดแม่สมจิตร จึงปาดหน้ารถยนต์ตู้บังคับให้หยุดรถ จากนั้นนายหัตพงศ์ ได้ลงจากรถพร้อมนำเอาประแจรถสิบล้อลงมาด้วย แล้วใช้มือข้างขวาต่อยไปที่กระจกรถตู้ด้านขวา ทำให้กระจกรถตู้หลุดได้รับความเสียหาย
คลิปเหตุการณ์จริงจากสื่อออนไลน์
ซึ่งทางคนขับรถตู้ให้การว่า คนเองขับรถอยู่ทางด้านขวามือตลอดทาง ซึ่งน่าจะไม่ผิดปกติอะไรแต่ทางตำรวจซึ่งเป็นพนักงานสอบได้แจ้งว่าการขับขี่รถอยู่ในช่องเดินทางขวามือโดยตลอดนั้นเป็นการกระทำผิดพระราชบัญญัติจราจร พ.ศ. 2522 ฐาน ไม่ขับรถในทางเดินรถด้านซ้ายตาม มาตรา 33,151 จึงได้แจ้งพฤติการณ์การกระทำผิดให้คนขับรถตู้ทราบ ซึ่งนายอนุพงษ์ คนขับรถตู้ก็ได้รับทราบข้อกล่าวหาพร้อมรับสารภาพและยินยอมให้เปรียบเทียบปรับ จึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับในข้อหาดังกล่าวเป็นเงิน 500 บาท
คนขับรถตู้ (ซ้าย)และคนขับรถสิบล้อ(ขวา) เข้าพบเจ้าหน้าที่พร้อมปรับความเข้าใจ และถูกปรับทั้งคู่ตามกฏหมาย
ส่วนหนุ่มคนขับสิบล้อเลือดร้อน จากหลักฐานที่ปรากฏนั้น ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 392 ฐานทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจ ในลักษณะการขู่เข็ญ จากกรณีใช้กำลงทำลายกระจกข้างของรถตู้จนได้รับความเสียหายซึ่งนายหัตพงษ์ได้รับทราบข้อกล่าวหาพร้อมให้เปรียบเทียบปรับตามกฏหมายเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท ส่วนตามเสียหายของรถตู้ที่เกิดขึ้นจากความอารมณ์ร้อนของหนุ่มสิบล้อทางนายสุนทรเจ้าของรถตู้ไม่ติดใจเอาความ และได้ให้คู่กรณีทั้งสองทั้งคนขับรถตู้และสิบล้อปรับความเข้าใจกันและให้มีน้ำใจบนท้องถนนแก่กันพร้อมขอโทษและจับมือกันต่อหน้าเจ้าพนักงานเป็นอันจบเรื่อง
ภาพและคลิปประกอบข่าวโดย ไทยรัฐ และ Nation Photo
ดูเพิ่มเติม