09:01, 13 ก.ย. 2562

สมัครหรือยัง ! ใบขับขี่ออนไลน์หรือใบขับขี่ดิจิทัล เริ่มใช้แทนใบขับขี่ตัวจริงได้ 20 กันยายน 2562

บันทึกรายการ

ใบขับขี่ออนไลน์หรือใบขับขี่ดิจิทัล เริ่มใช้ 20 กันยายน 2562 สะดวกง่าย แต่การจะใช้ใบขับขี่ออนไลน์แทนใบขับขี่ตัวจริง ต้องมีใบขับขี่แบบสมาร์ตการ์ดซึ่งจะมีแถบ QR Code แล้วเท่านั้น


ตัวอย่างใบขับขี่ออนไลน์หรือใบขับขี่ดิจิทัล ใช้แทนใบขับขี่ปกติได้ วันที่ 20 กันยายน 2562 เป็นต้นไป

เรียกว่าตามเทรนด์ในยุคดิจิทัลกันไปสำหรับใบขับขี่ออนไลน์ขานรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องพกใบขับขี่ตัวจริง โดยใบขับขี่ออนไลน์หรือใบขับขี่ดิจิทัลสามารถทำได้ด้วยการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น DLT QR LICENCE และใช้แสดงให้เจ้าพนักงานจราจรตรวจสอบข้อมูลใบอนุญาตขับรถได้ ซึ่งจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2562 เป็นต้นไป แต่ผู้ขับขี่จะต้องมีใบขับขี่สมาร์ตการ์ดรุ่นใหม่ที่มีแถบ QR Code แล้วเท่านั้น

ดังนั้นใบขับขี่ออนไลน์ถือเป็นอีกหนึ่งออปชั่นของผู้ขับขี่ที่มีใบขับขี่แบบสมาร์ตการ์ดรุ่นใหม่ (มีแถบ QR Code อยู่ด้านหลังบัตร) เรียบร้อยแล้ว ตามประกาศของกรมการขนส่งทางบกมีการปรับให้ “ผู้ขับขี่” สามารถแสดงใบอนุญาตขับรถหรือ “ใบขับขี่” ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต ต่อเจ้าพนักงานจราจร แทนการพกพาใบอนุญาตขับรถแบบเดิมได้ และยังครอบคลุมถึงการใช้สำเนาใบขับขี่ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะถือว่ามีใบขับขี่อยู่กับตัวแล้ว

โดยการแสดงใบขับขี่ออนไลน์หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (ผ่านอุปกรณ์ เช่น สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต) ทำได้ ดังนี้

  1. ผ่านแอปพลิเคชั่น DLT QR LICENCE ของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งทําให้ปรากฏภาพใบอนุญาตขับรถเสมือนจริง (ต้องติดตั้งแอปพลิเคชั่น DLT QR LICENCE บนอุปกรณ์)
  2. ผ่านแอปพลิเคชั่น DLT QR LICENCE ด้วยภาพถ่ายใบขับขี่ตัวจริง (ต้องติดตั้งแอปพลิเคชั่น DLT QR LICENCE บนอุปกรณ์)
  3. ภาพถ่ายใบขับขี่ตัวจริงบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต เป็นต้น

แต่ทั้งนี้การแสดงใบขับขี่ในแบบที่ 2 และ 3 รวมถึงแบบที่เป็นสำเนาใบขับขี่ (ถ่ายเอกสาร) จะต้องเป็นภาพทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง ข้อมูลบนบัตรและ QR Code จะต้องครบถ้วนถูกต้องชัดเจนพอที่จะให้เจ้าพนักงานจราจรสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ด้วย


ตัวอย่างภาพใบขับขี่เสมือนจริงบนแอปฯ DLT QR LICENCE

อย่างไรก็ตามการเลือกใช้ใบขับขี่ออนไลน์หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แทนการพกพาใบขับขี่ตัวจริงผ่านสมาร์ตโฟนหรือแท็บแล็ตจะเป็นอะไรที่สะดวก ทันสมัย แต่ควรต้องแน่ใจว่าอุปกรณ์สามารถใช้งานได้อยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเจ้าพนักงานจราจรขอตรวจสอบว่าจะไม่แบตฯ หมดไปเสียก่อน ทางทีดีหากไม่อยากพกใบขับขี่ตัวจริง อาจมีสำเนาใบขับขี่พกติดรถไว้เพื่อความอุ่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น 

ดูเพิ่มเติม

ATS

ในหมวดเดียวกัน