รียกได้ว่ารถ Isuzu MU-X 1.9 Ddi และ Toyota Fortuner 2.4V เป็นรถอีกแบรนด์หนึ่งที่แทบจะกลายเป็นฝาแฝดกันอยู่แล้ว ทั้งดีไซน์ สมรรถนะ และราคา ซึ่งต่างกันไม่กี่หมื่นบาทในตลาดรถยนต์บ้านเรา แถมหลายต่อหลายคนก็คงต้องเขวกันบ้างระหว่างสองรุ่นนี้ ว่าแท้จริงแล้วอะไรดีกว่ากัน และอะไรที่ตอบโจทย์มากที่สุดก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะถือได้ว่ารถทั้งสองรุ่นนี้ เป็นรุ่นเครื่องดีเซลขับเคลื่อนเหมือนกัน นอกจากนี้ด้วยราคาที่ใกล้เคียงกัน
Isuzu MU-X 1.9 Ddi รุ่นใหม่นี้ จะเป็นแบบไมเนอร์เชนจ์ของมิวเอ็กซ์ จะโดดเด่นกว่ารุ่นก่อนด้วยกระจังหน้าดีไซน์แบบใหม่ด้วยโครเมียมชิ้นใหญ่ลาย 3 มิติ ทั้งยังมีกันชนหน้าแบบใหม่ ที่ดีไซน์ให้ช่องดักลมใหม่แบบรถหรู ส่วนไฟหน้าเองก็มีการจัดเรียงองศาที่แปลกไปจากเดิม เพื่อให้ LED รับกับเส้นสายลายกระจัง ด้านไฟ LED guiding light ที่ทันสมัยและดูหรูหราเป็นพิเศษ ไฟท้ายเองก็เปลี่ยนลวดลายใหม่แบบ LED Sharp horizon ที่โฉบเฉี่ยวมากขึ้น ล้อรถก็มาพร้อมกับลายที่เรียกว่า Cross star ขนาด 18 นิ้ว ทั้งเพิ่มสีใหม่คือ Havana Brown แต่หากเทียบสเปกกับค่ายอื่นแล้ว จะพบว่าระยะฐานล้อยาวกว่าอย่างเห็นได้ชัด ตลอดจนใต้ท้องรถสูงกว่าพอสมควร ส่งผลให้การขับขี่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Isuzu MU-X 1.9 Ddi 2018
Toyota Fortuner 2.4V ภายนอกนั้น ดีไซน์แบบสปอร์ต และยังแตกต่างจากมากขึ้น เพราะไฟหน้าที่มีความเรียวยาว กระจังหน้าที่เอียงลู่ไปกับลม พร้อมคาดด้วยโครเมียมเส้นใหญ่ เข้ากับกันชนทรงบึกบึน ด้วยการเพิ่มเส้นโครเมียมข้างรถยาวตลอดแนว ให้รถดูหรูหราและไฮโซตามแบบยุโรปมากขึ้น นอกจากนี้ ด้วยไฟท้ายแบบ LED light guiding ที่สวยงาม ส่วนด้านของกระจกข้างนั้น มี Welcome light ช่วยส่องสว่างเมื่อเปิดประตู และด้วยตัวถังไซซ์มินิและกระทัดรัด ส่งผลให้เกิดความสะดวกในการเข้า-ออกรถ มากกว่า
2018 Toyota Fortuner 2.4V
ใหม่ ชุดแต่ง Accessories All-New Toyota Fortuner
Isuzu MU-X 1.9 Ddi นั้น จะมาพร้อมกับเครื่อง RZ4E-TC ดีเซลเทอร์โบ 1.9 ลิตร มีความแรงถึง 150 แรงม้า พร้อมกับแรงบิดต่ำ แต่ช่วงกลับยาวกว่า ซึ่งส่งผลให้รถมีน้ำหนักน้อยและสามารถใช้งานในเมืองได้ถนัดกว่ารถใหญ่ โดยเฉพาะรัศมีวงเลี้ยวที่แคบและสะดวกต่อการกะระยะทางในการตีวงเลี้ยวแต่ละครั้ง
ระบบเครื่องยนต์ภายในของ
Isuzu MU-X 1.9 Ddi
ส่วน Toyota Fortuner 2.4V อัดแน่นมาพร้อมกับเครื่อง 2GD-FTV ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร กำลังเทียบเท่ากับ Isuzu MU-X 1.9 Ddi คือมีถึง 150 แรงม้า และแรงบิดที่ต่ำ และรอบที่ต่ำกว่า เร่งแซงได้โดยไม่จำเป็นต้องปรับลดเกียร์ในขณะที่ขับขี่ ทั้งยังมีน้ำหนักมากกว่าจึงส่งผลให้รัศมีวงเลี้ยวกว้างกว่าอย่างเห็นได้ชัด พร้อมทั้งประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนของยางรถยนต์
ระบบเครื่องยนต์ภายในของ
2018
Toyota Fortuner 2.4V
ตารางเปรียบเทียบระหว่าง
Isuzu MU-X 1.9 Ddi vs. Toyota Fortuner 2.4V
สำหรับระบบความปลอดภัยที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้รถใช้ถนนนั้น ทั้งสองรุ่นมีระบบ ABS ที่เหมือนกัน โดยเป็นแบบกระจายแรงเบรกและเสริมแรงเบรก ระบบช่วยทรงตัว ระบบป้องกันล้อฟรี ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน คู่กับการควบคุมรถ รวมไปถึงกล้องมองหลัง ซึ่งสามารถช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งยังสะดวกสบายเป็นอย่างมาก
ดีไซน์ภายในของ
Toyota Fortuner 2.4V
ดีไซน์ภายในของ
Isuzu MU-X 1.9 Ddi
แต่ในด้านของความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ ในแบรนด์ Isuzu MU-X 1.9 Ddi จะมีถุงลมนิรภัยเพียง 2 จุด บริเวณคู่หน้า และดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมช่องระบายอากาศ แต่ข้อได้เปรียบของ Toyota Fortuner 2.4V คือ มีถุงลมนิรภัยมากถึง 7 จุด และยังมีระบบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้ายด้วย และแน่นอนว่า อุปกรณ์ที่ช่วยเซฟตี้ได้มากกว่าก็คือ Toyota Fortuner 2.4V นั่นเอง
เปรียบเทียบภาพรวมระหว่าง
Isuzu MU-X 1.9 Ddi vs Toyota Fortuner 2.4V
สรุป
สำหรับ Isuzu MU-X 1.9 Ddi และ Toyota Fortuner 2.4V ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าการใช้งานนั้นต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเสียมากกว่า อย่างเช่น หากเน้นขับรถในเมือง ขับง่าย ก็คงจะต้องเลือก Isuzu MU-X 1.9 Ddi แต่ถ้าหากอยากเน้นไปที่ระบบเซฟตี้ภายในก็คงต้องเลือก Toyota Fortuner 2.4V เสียมากกว่า อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกรุ่นอะไร ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งสองแบรนด์นี้สูสีกันจนแทบเลือกไม่ได้เลยทีเดียว
อ่านเพิ่มเติม: วัดกันแบบแรงๆระหว่างของ ISUZU MU-X 2018-2019 กับคู่แข่ง Mitsubishi Pajero Sport 2018 ส่องรถ SUV 5 ค่ายที่คุ้มราคา น่าซื้อมากที่สุดในปี 2018