หนุ่มลาวซิ่งเก๋งสอยตำรวจอาสาไทยดับกลางถนน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 15 ก.ค.62 ที่ผ่านมาเมื่อทางสถานีตำรวจภูธรนาข่าอ.เมือง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุรถเก๋งชนรถจักรยานยนต์ ที่จุดกลับรถ หน้าเทศบาลตำบลนาข่า ถนนมิตรภาพ (อุดร-หนองคาย) ขาออกอุดรธานี ต.นาข่า ซึ่งหากจากสถานีตำรวจเพียงแค่ร้อยเมตร เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องนำโดย พ.ต.ท.รัชพล โมรารัตน์ สารวัตรสอบสวน ประจำสถานีนำคณะตำรวจพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมเดินทางไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบศพ นายมนตรี วงษ์ดี อายุ 52 ปี ตำรวจอาสา สภ.นาข่า อยู่บ้านเลขที่ 26/1 หมู่ 4 ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี สวมเครื่องแบบตำรวจอาสาสีดำ นอนหงายอยู่กลางถนน สภาพศพศีรษะแตก มันสมองปนเลือดไหลนองพื้น
สภาพศพของตำรวจอาสาหลังจากถูกชนกลางถนน
ในบริเวณที่ใกล้กันพบรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีดำ หมายเลขทะเบียนของ สปป.ลาว ลว 4488 กำแพงนคร ในสภาพมีรอยเฉี่ยวชนบริเวณด้านหน้าขวา ไฟหน้าขวาแตก นอกจากนี้ยังพบจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซีบีอาร์ สีน้ำตาล ทะเบียนตราโล่ 19259 ล้มตะแคงอยู่ในพงหญ้าริมถนน สภาพพังยับเยินส่วนบริเวณที่เกิดเหตุพบหนุ่มสัญชาติลาว ทราบชื่อว่า ท้าววิรุน โคตรสีเมือง อายุ 27 ปี ราษฎรบ้านโคกสว่าง เมืองเวียงคำ แขวงกำแพงนคร สปป.ลาว ซึ่งเป็นคนขับรถเก๋งยาริสคันนี้ ได้ให้การว่า ตนเองเป็นนักธุรกิจชาวลาว ได้ขับรถข้ามมาทางด่านสะพานมิตรภาพไทยลาว อ.เมือง จ.หนองคาย เข้ามาติดต่อธุรกิจใน จ.อุดรธานี พอเสร็จธุระรีบขับรถมุ่งหน้ากลับบ้านเพื่อให้ทันด่านปิดใน เวลา 22.00 น. เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นถนน 3 ช่องทาง ตนขับรถมาด้วยความเร็วในช่องทางขวา พบผู้ตายขี่รถ จยย.จากช่องทางซ้าย และเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเข้ามาช่องกลาง คิดว่าผู้ตายจะเข้าช่องทางขวาเพื่อไปจุดกลับรถ ตนจึงเปลี่ยนมาอยู่ช่องกลาง แต่ผู้ตายกลับขี่รถอยู่ในช่องกลาง ตนเบรกไม่ทันจึงพุ่งชนอย่างจัง ผู้ตายตกจากรถ ส่วนรถจักรยานยนต์กระเด็นไป 100 เมตร
สภาพของรถยนต์ Toyota Yaris ของหนุ่มธุรกิจลาวหลังจากชนตำรวจอาสาดับ
สำหรับผู้ตายทางสารวัตรสอบสวน สภ.นาข่า เปิดเผยว่าผู้ตายเป็นตำรวจอาสา หรือตำรวจบ้านโรงพักนาข่า ซึ่งในวันเกิดเหตุผู้ตายจะมาทำหน้าที่สายตรวจตามหมู่บ้านซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติโดยเพื่อนที่เป็นตำรวจอาสาได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกตรวจล่วงหน้าไปแล้ว ผู้ตายจึงขี่จักรยานยนต์ตามหลัง ออกจากโรงพักไปประมาณ 100 เมตร เพื่อจะไปจุดกลับรถ ก็มาถูกรถเก๋งชนจนเสียชีวิต
หนุ่มนักธุรกิจลาวคนขับรถยาริสให้การกับตำรวจ
ส่วนหนุ่มนักธุรกิจผู้ขับรถชนผู้ตายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์เพิ่มเติมแต่ไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายในเบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา "ขับรถประมาทเป็นเหตุให้บุคคลอื่นเสียชีวิต และทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย" และดำเนินคดีตามกฎหมายไทยกับหนุ่มชาวลาวผู้นี้ต่อไป
ภาพ /ข่าว : 77local ,ไทยรัฐ
ดูเพิ่มเติม