หากคุณมีรถมอเตอร์ไซค์สักหนึ่งคันเป็นของตัวเอง การเลือกทำประกันภัยให้ยาพาหนะคงจะไม่น่าใช่เรื่องแปลกอะไร ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์อุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา โดยในปัจจุบันหลายคนคงรู้กันดีว่าประกันภัย bigbike มีราคาเบี้ยประกันสูงที่เกือบเท่ารถยนต์ เนื่องด้วยรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์มีพิกัดซีซีขนาดใหญ่ รวมทั้งอะไหล่และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ยังคงต้องนำเข้าจากต่างประเทศ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ส่งผลให้ประกัน bigbike มีเบี้ยประกันที่ค่อนข้างสูงมากกว่ารถมอเตอร์ไซค์ปกติทั่วไป แล้วการเลือกประกันบิ๊กไบค์ ต้องเริ่มต้นทำอย่างอย่างไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ
รวม 5 ข้อที่คุณควรรู้ ก่อนซื้อประกันบิ๊กไบค์
อันดับแรกเราต้องมาเริ่มต้นทำความรู้จักเกี่ยวกับประเภทของประกันภัย เพราะประกันภัยสำหรับยานพาหนะนั้นมีความแตกต่างกัน รวมทั้งในเรื่องของความครอบคลุมและการคุ้มครองต่างๆ ที่ไม่เหมือนกัน
ประกันภัยชั้น 1 สำหรับผู้ที่ซื้อรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์หรือรถมอเตอร์ไซค์ที่มีพิกัดจำนวนซีซีสูงนั้นจะมีราคาค่อนข้างสูง การเลือกทำ ประกัน บิ๊ ก ไบ ค์ ชั้น 1 จะช่วยมอบความคุ้มครองทั้งผู้เอาประกันและผู้กรณี โดยจะรับผิดชอบทรัพย์สิน ค่ารักษาพยาบาล และร่างกาย คุ้มครองในกรณีรถมอเตอร์ไซค์สูญหายหรือไฟไหม้ รวมทั้งคุ้มครองจากอุบัติเหตุลื่นล้ม หรืออุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี ซึ่งประกันชั้น 1 มีราคาค่อนข้างสูงมากกว่าประกันประเภทอื่น
ประกันภัยชั้น 2+ นับว่าเป็นประกันภัยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในผู้ที่ขับขี่บิ๊กไบค์ เนื่องจากประกันภัยชั้น 2+ มีความคุ้มครองไม่แตกต่างจากประกันภัยชั้น 1 และมีเบี้ยประกันที่ถูกกว่า โดยคุ้มครองทั้งผู้เอาประกันและผู้กรณี โดยจะรับผิดชอบทรัพย์สิน ค่ารักษาพยาบาล และร่างกาย คุ้มครองในกรณีรถมอเตอร์ไซค์สูญหายหรือไฟไหม้ แต่จะไม่คุ้มครองจากอุบัติเหตุลื่นล้ม หรืออุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี รวมทั้งยังจ่ายค่าสินไหมทดแทนสำหรับมอเตอร์ไซค์คันที่เอาประกัน
ประกันภัยชั้น 3+ คุ้มครองทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี โดยจะรับผิดชอบทรัพย์สิน ค่ารักษาพยาบาล และร่างกาย ไม่คุ้มครองกรณีมอเตอร์ไซค์สูญหายหรือไฟไหม้
ประกันภัยชั้น 3 มอบความคุ้มครองความเสียหายและทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น ประกันรถมอเตอร์ไซค์สูญหาย โดยจะไม่คุ้มครองรถมอเตอร์ไซค์ของผู้เอาประกัน และยังเป็นอีกหนึ่งในประกันที่เหล่าไบเกอร์ทำกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีเบี้ยประกันถูกที่สุดแล้ว
ประเภทของประกันภัยมอเตอร์ไซค์
อย่างที่ทราบกันดีว่าเมื่อรถมอเตอร์ไซค์ของเรามีกำลังเครื่องยนต์สูง เบี้ยประกันภัยของรถมอเตอร์ไซค์ก็จะมีราคาที่สูงตามไปด้วย ดังนั้น ควรเลือก ประกัน รถ บิ๊ ก ไบ ค์ ที่มีความคุ้มครองครอบคลุมทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีรถมอเตอร์ไซค์ Royal Enfield Interceptor 650 ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 648 ซีซี ราคาเริ่มต้น 223,800 บาท ควรเลือกประกันภัยชั้น 1 ที่คุ้มครองครอบคลุมทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี เพื่อความสบายใจต่อเจ้าของรถเอง
รถมอเตอร์ไซค์แต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกประกันภัยก็ต้องคำนึงการใช้งานให้สอดคล้องกับความต้องการของตัวเอง เพื่อสร้างความคุ้มค่าต่อเบี้ยประกันภัยที่เสียไป เช่น รถที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ต้องเผชิญกับสภาพการจราจรที่แออัดบนท้องถนน การเลือกประกันภัยชั้น 1 จะสร้างความคุ้มครองให้กับผู้เอาประกันและคู่กรณี เพื่อคุ้มครองอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี หรือรถที่ใช้ออกทริปต่างจังหวัด ควรเลือกประกันภัยชั้น 2+ เนื่องจากเป็นประกันที่คุ้มครองผู้เอาประกันและคู่กรณี รวมถึงคุ้มครองทรัพย์สิน ค่ารักษาพยาบาล และร่างกาย เพื่อตอบโจทย์ลักษณะของการใช้งานได้มากกว่าประเภทอื่น
เลือกประกันภัยให้เหมาะสมกับการใช้งาน
เมื่อเราได้เลือกแล้วว่าประกันภัยประเภทไหนที่เหมาะสมกับการใช้รถมอเตอร์ไซค์ของเรามากที่สุด หลังจากนั้นควรสำรวจประกันจากหลายบริษัท เพื่อนำมาเปรียบเทียบดูข้อเสนอและสิทธิประโยชน์ที่ดีที่สุด โดยสิ่งแรกอาจพิจารณาจากค่าเสียหายที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายให้บริษัทก่อนทำเรื่องเคลม ต่อมาให้ดูเรื่องทุนประกัน ค่าสินไหมทดแทนที่ผู้เอาประกันจะได้รับจากบริษัทประกัน และท้ายที่สุดคือความคุ้มครองกับเงื่อนไขการดูแลค่าใช้จ่ายที่บริษัทประกันจะรับผิดชอบให้ผู้ที่ซื้อประกัน
หลังจากที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อคุณต้องเป็นผู้ประสบอุบัติเหตุจากการขับขี่มอเตอร์ไซค์ แต่คุณนั้นเป็นฝ่ายถูก ข้อแนะนำคือการยืนยันกับบริษัทประกันภัยของคู่กรณีและคู่กรณีว่าให้นำรถมอเตอร์ไซค์ของเราไปซ่อมกับศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของผู้แทนจำหน่ายสถานเดียวเท่านั้น เพื่อที่จะได้รับการซ่อมแซมดูแลตามมาตรฐานของบริษัทผู้ผลิต รวมถึงการนำเข้าของอะไหล่และชิ้นส่วนต่างๆ ที่เป็นของแท้ได้รับประกันอย่างเป็นทางการ
ดูเพิ่มเติม