(23 ธันวาคม 2563) โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานว่า ในเดือนพฤศจิกายน 2563 มียอดขายรถยนต์รวมทั้งสิ้น 79,177 คัน เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง 25,437 คัน ลดลง 7.2% รถเพื่อการพาณิชย์ 53,740 คัน เพิ่มขึ้น 8.2% และรถกระบะขนาด 1 ตัน จำนวน 42,763 คัน เพิ่มขึ้น 6.8%
ยอดขายรถ พ.ย. 63 เพิ่มขึ้น 2.7%
1. ตลาดรถยนต์รวม มียอดขาย 79,177 คัน เพิ่มขึ้น 2.7%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง มียอดขาย 25,437 คัน ลดลง 7.2%
โตโยต้า ครองอันดับหนึ่ง
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ มียอดขาย 53,740 คัน เพิ่มขึ้น 8.2%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) มียอดขาย 42,763 คัน เพิ่มขึ้น 6.8%
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up มียอดขาย 37,445 คัน เพิ่มขึ้น 3.3%
สำหรับยอดขายรถยนต์สะสม 11 เดือน (มกราคม - พฤศจิกายน) มียอดขาย 688,057 คัน ลดลง 24.7% เมื่อเทียบกับช่วงนี้ของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็น ตลาดรถยนต์นั่ง 236,659 คัน ลดลง 34.5% ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ 451,398 คัน ลดลง 18.3% ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน 357,947 คัน ลดลง 19.9% และตลาดรถกระบะ Pure Pick up 320,883 คัน ลดลง 18.2%
1. ตลาดรถยนต์รวม มียอดขาย 688,057 คัน ลดลง 24.7%
2. ตลาดรถยนต์นั่ง มียอดขาย 236,659 คัน ลดลง 34.5%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ มียอดขาย 451,398 คัน ลดลง 18.3%
ภาพจากงาน Motor Expo 2020
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) มียอดขาย 357,947 คัน ลดลง 19.9%
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up มียอดขาย 320,883 คัน ลดลง 18.2%
อีซูซุ อันดับสอง
ฮอนด้า อันดับสาม
ภาพรวมของตลาดรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายนมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ต่าง ๆ ในประเทศกำลังเป็นไปในทิศทางที่ดี ทั้งรัฐเองก็นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลเชิงบวกให้กับตลาดรถยนต์ ทว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังกลับมาจะส่งผลให้ตลาดรถยนต์เป็นไปในทิศทางใด ต้องติดตามกันต่อไป
อ่านเพิ่มเติม >>