11:42, 29 มี.ค. 2562

พบกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีที่สุดในบ้านเรา พร้อมรีวิวอย่างละเอียดยิบ!!

บันทึกรายการ

หากนึกถึงรถยนต์ที่กำลังมีกระแสและน่าสนใจในบ้านเราจขณะนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอน เพราะอย่างที่หลายคนทราบดีว่าในปัจจุบันค่ายรถยนต์ต่างก็เริ่มหันไปเอาทีทางด้านรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ไม่น้อย แน่นอนว่าในไทยก็เริ่มมีรถยนต์ไฟฟ้าใช้บ้างแล้ว แต่จะมีรุ่นไหนดีรุ่นไหนปัง พร้อมดูรีวิวอย่างละเอียดในบทความนี้

ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมากเท่าใด อุตสาหกรรมยานยนต์ก็เติบโตเร็วมากขึ้นเท่านั้น แน่นอนว่าเทคโนโลยีที่กำลังเป็นที่จับตามองในขณะนี้ก็คือรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งในประเทศไทยก็เริ่มมีกระแสที่มากขึ้น หลายคนก็คงอยากจะลองขับ ลองสัมผัสประสบการณ์แบบใหม่ดูบ้างว่าจะแตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากแค่ไหน ซึ่งในขณะนี้ประเทศไทยก็เริ่มนำเข้ามาจำหน่ายบ้างแล้ว ดังต่อไปนี้

1. Hyundai IONIQ

รถยนต์ไฟฟ้า Hyundai IONIQ

รายละเอียดของตัวรถ

เริ่มต้นด้วยรถยนต์ไฟฟ้าขนาดคอมแพกต์จาก Hyundai ซึ่งเป็นตัวที่ค่อนข้างน่าสนใจมากเลยทีเดียว เพราะมีรูปแบบของตัวถังคือ Liftback มีลักษณะท้ายลาดเหมือนกับ Toyota Prius ซึ่งการออกแบบเน้นการใช้งานโดยการยึดหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้ต้านลมได้น้อยที่สุด มาพร้อมกับมิติตัวถัง ยาว 4,470 มม. กว้าง 1,820 มม. สูง 1,450 มม. มีฐานล้อยาว 2,700 มม. เมื่อรวมกับวัสดุที่มาพร้อมความพรีเมียมตั้งแต่ภายในจนถึงภายนอกแล้วหลายคนก็คงต้องร้องว้าวไปตามๆกัน เพราะยังเป็นการคงไว้ซึ่งมาตรฐานของ Hyundai อยู่

เบื้องต้นนั้น Hyundai IONIQ  จะใช้มอเตอร์ซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวรรวมกับแบตเตอรี่ Li-ion ที่มีขนาดความจุ 28 kWh ส่งพละกำลังมากถึง 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 295 นิวตันเมตร ความเร็วที่ 165 Km./hr. วิ่งในระยะ 280 ต่อการชาร์จเพียงหนึ่งครั้ง

ข้อมูลเบื้องต้นรถยนต์ไฟฟ้า Hyundai IONIQ

ข้อดีข้อเสีย

สำหรับข้อดีของ Hyundai IONIQ ก็คือการพัฒนาและปรับปรุงส่วนต่างๆของตัวรถอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา ทำให้หลายคนมั่นใจได้ว่า Hyundai IONIQ จะมาพร้อมกับความพรีเมียมและมาตรฐานที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ทาง Hyundai ยังรับประกันแบตเตอรี่มากถึง 8 ปี ตัวรถ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมกับบริการตลอด 24 ชม. เรียกว่าเน้นไปที่บริการหลังการขายเป็นหลัก จึงทำให้หลายคนมั่นใจว่าจะได้รับมาตรฐานและการดูแลที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน ยิ่งรวมกับการตอบสนองของระบบต่างๆของตัวรถก็ถือว่าทำมาได้ค่อนข้างดี อาทิ การปลดล็อกรถ กระจกมองข้างจะกางออกให้เองโดยอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างที่มือจับทั้ง 4 ประตู รวมถึงใต้กระจกมองข้างก็จะติดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เรียกได้ว่าเป็นความพรีเมียมที่ทาง Hyundai ค่อนข้างภูมิใจมากเลยทีเดียว

รีวิวรถยนต์ไฟฟ้า Hyundai IONIQ

แต่ข้อเสียที่ขัดใจก็คือ ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกที่ส่งผลต่อค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ ที่ดูจะต่ำกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด และดูจะเป็นข้อเสียเดียวที่ทำให้หลายคนคิดหนักหากจะซื้อ Hyundai IONIQ มาใช้งานใอนาคต

โดยราคาจำหน่ายของ Hyundai IONIQ  เริ่มต้นที่ 1.749 ล้านบาท

2. Nissan Leaf

รถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf

รายละเอียดของตัวรถ

ตามมาด้วยอีกหนึ่งค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Nissan ซึ่งก็ได้ส่ง Nissan Leaf เข้ามาประเดิม เรียกได้ว่าเป็นรถไฟฟ้าเบอร์ใหญ่สุดของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ พ่วงด้วยยอดขายที่สูงแบบถล่มทลาย แทบจะมากเป็นลำดับแรกของโลกเลยก็ว่าได้

โดยการดีไซน์นั้นก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็น Nissan อยู่ ซึ่งจะไม่ได้เน้นไปที่ความคมของเส้นสาย แต่ละเน้นไปที่ความสมูทของเส้นสายมากกว่า แต่ที่โดดเด่นมากที่สุดก็คือไฟท้ายที่มีส่วนโค้งเว้าแบบทรงสปอร์ต ล้อแม็กซ์ที่มีสีเงินตัดกับสีของตัวรถ ถ้าหากให้เทียบก็คงจะคล้ายกับชุดของนักบินอวกาศที่ไม่ได้โดดเด่นมาก แต่จะทรงเอกลักษณ์และการสื่อว่านี่คือรถยนต์ไฟฟ้าของ Nissan เสียมากกว่า ไม่เว้นแม้กระทั่งดีไซน์ภายในที่ใช้โทนสีดำเป็นหลัก ดูกว้างขวาง และดูกลมกลืนกับความเรียบง่ายของการออกแบบภายนอก

ในขณะที่ขุมพลังของ Nissan Leaf จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet AC Motor รหัส EM57 โดยจะยกมาจากโฉมก่อนแล้วปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม ส่งพละกำลังมากถึง 147 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 320 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Li-ion ขนาดความจุที่ 49 kWh ใช้ระยะเวลาการชาร์จไฟเพียง 16 ชม. เท่านั้น ซึ่งจากการชาร์จหนึ่งครั้งสามารถวิ่งได้ระยะทาง 311 กม. โดยประมาณ

ข้อมูลเบื้องต้นรถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf

ข้อดีข้อเสีย

สำหรับข้อดีที่เห็นได้ชัดของ Nissan Leaf ก็คือ แบตเตอรี่ที่ทางยุโรปรับประกันไว้ให้มากถึง 8 ปี หากแบตเตอรี่หมดก็จะมีการซื้อคืนเพื่อนำไปใช้ต่อ รวมถึงสามารถให้โควต้าการเคลมแบตเตอรี่มากถึง 3 ครั้ง  ครอบคลุมถึงการเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มั่นใจในการใช้งานต่อ วัสดุที่ใช้ค่อนข้างดี เบาะนุ่ม ตลอดจนเทคโนโลยีภายในของตัวรถที่มีมาให้อย่างจัดหนักจัดเต็ม ถือว่าเป็นข้อดีที่ทาง Nissan Leaf มี

รีวิวรถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf

ข้อเสียที่ถือว่าค่อนข้างเป็นเรื่องที่ซีเรียสมากที่สุดก็คือดีไซน์ที่หลายคนไม่ค่อยถูกใจนัก ไม่มีความดุดัน และให้ความรู้สึกเหมือนรถที่รักษ์โลกมากจนเกินไป ทำให้ขาดเสน่ห์เมื่อวิ่งบนท้องถนน แต่อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้หลายคนขัดใจก็คือพนักพนักพิงศีรษะ เพราะมีองศาที่โย้มากพอสมควร ยิ่งเมื่อรวมกับเบาะนั่งที่ถูกยกสูงอันเนื่องมาจากการติดตั้งแบตเตอรี่จึงทำให้เบาะนั่งกับหลังคามีระยะห่างที่น้อยจนอาจจะดูคับแคบนั่นเอง

สำหรับราคาจำหน่ายของ Nissan Leaf เริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท

3. Kia Soul EV

รถยนต์ไฟฟ้า Kia Soul EV

รายละเอียดของตัวรถ

ปิดท้ายด้วย Kia Soul EV อีกหนึ่งรถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายน้องใหม่แดนกิมจิ ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกๆในการเปิดตัวในประเทศไทย แถมราคาก็จัดจ้านกว่าคู่แข่ง เบื้องต้นนั้น Kia Soul EV มาพร้อมกับสไตล์ของ Crossover ทรง 2 กล่อง 5 ที่นั่ง แน่นอนว่าคนไทยยังไม่คุ้นชินเท่าใดนัก แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเรา

ทางด้านการออกแบบและดีไซน์ของตัวรถ มาพร้อมกับความหรูหราและไฮคลาสตั้งแต่หัวจรดเท้า นอกจรดในกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น เส้นสายที่โค้งมันเข้ารูปกับตัวรถ ไฟหน้าแบบ Projector Lens ไฟหรี่ไฟหน้าและท้ายแบบ LED ไฟเบรกดวงที่สาม ไฟตัดหมอกคู่หน้าทรงกลมเรียว ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว กระจกมองข้างพร้อมไฟ LED ในตัว หรือแม้กระทั่งการออกแบบภายในที่ดูหรูหราและพรีเมียมแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบอุ่น พวงมาลัยหุ้มด้วยหนังแบบพิเศษ ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย กระจกหน้าต่างแบบไฟฟ้า ระบบการเชื่อมต่อที่ครบครัน และเทคโนโลยีต่างๆที่ทั้งใหม่และจัดหนักจัดเต็ม

ในส่วนของขุมพลังของ Kia Soul EV นั้น มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet AC Motor ส่งพละกำลังมากถึง 110 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุดที่ 285 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Li-ion ความจุที่ 30 kWh ระจะเวลาการชาร์จเพียง 5.4 ชม. สำหรับกำลังไฟ 6.6 kW สามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 250 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

ข้อมูลเบื้องต้นรถยนต์ไฟฟ้า Kia Soul EV

ข้อดีข้อเสีย
สำหรับข้อดีของ Kia Soul EV นั้น หากไล่มาตั้งแต่รูปลักษณ์ก็คงเป็นข้อดีที่อาจจะทิ้งห่างคู่แข่งเลยก็ว่าได้ เพราะถือเป็นรถอเนกประสงค์ที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด มีความโดดเด่นที่ไม่ซ้ำใคร เมื่อลองขับขี่แล้วจะไม่ค่อยมีความแตกต่างกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ทั่วไปมากนัก ทำให้หลายคนที่ขับรถยนต์ทั่วไปไม่รู้สึกขัดใจแต่อย่างใด รวมไปถึงการบังคับรถที่ทำมาได้ค่อนข้างดี เข้าโค้งแม่นยำ การรับแรงสะเทือนทำได้น่าประทับใจต่อผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก

รีวิวรถยนต์ไฟฟ้า Kia Soul EV

ข้อเสียของ Kia Soul EV ในขณะนี้ ก็คงจะหนีไม่ะพ้นอัตราเร่งที่เหมือนจะดีแต่ก็ยังไม่เร้าใจเท่าที่ควร อาจจะเหมาะกับการใช้งานโดยทั่วไปมากกว่าการขับระยะทางไกลอย่างเช่น ไปต่างจังหวัด เพราะยิ่งเมื่อเจอทางโค้งหักศอก ทางลาดชัน อาจจะเร่งเรื่องได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ถ้าหากใช้งานทั่วไปก็ถือว่าทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว

สำหรับราคาจำหน่ายของ Kia Soul EV เริ่มต้นที่ 2.29 ล้านบาท

สรุป

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีจำหน่ายในประเทศไทยในขณะนี้ก็เริ่มมีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ทั้ง 3 รุ่น ที่ทาง Khaorot.com ได้รวบรวมมานั้น ถือเป็นรุ่นที่ฮอตฮิตและอยู่ลำดับต้นๆที่มีผู้ใช้งานต่างรีวิวแล้วว่าทำได้ค่อนข้างดี ถึงแม้จะมีราคาที่สูงไปบ้างแต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่น่าสนใจในการหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตนั่นเอง

.....

อ่านเพิ่มเติม : 

BearsSmiley

ในหมวดเดียวกัน