ทดสอบ MG ZS EV 2019 รถยนต์ไฟฟ้าที่จุดติดการเปลี่ยนผ่าน

หากย้อนไป 2-3 ปีก่อน คุณมองรถยนต์ไฟฟ้าเป็นแบบไหนกันบ้างครับ สำหรับผู้เขียนเอง รถยนต์ไฟฟ้า เป็นเรื่องไกลตัวมากถึงแม้จะอยู่ในแวดวงยานยนต์ ในช่วงตั้งไข่ ผู้ที่จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเป็นแบรนด์รอง แบรนด์น้องใหม่เสียมากกว่า แถมตัวรถมีให้สัมผัสน้อยเหลือเกิน 

ต่อมาแบรนด์ลักชูรี่เริ่มมองเห็นว่า การนำรถยนต์ไฟฟ้ามาจัดจำหน่ายสามารถเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูแข็งแกร่ง ทันสมัย กับราคาที่เอื้อมถึงยากมาก มองไปที่ออปชั่นและฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้สวนทางกับราคาจำหน่าย เอามาเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูทันสมัยก็เท่านั้น..

สุดท้ายรถยนต์ไฟฟ้าเป็นได้แค่เพียง Rich Man Toy...

สะเก็ดเพลิงแห่งความหวังจุดติดขึ้นอีกครั้ง ด้วย Nissan Leaf รถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในโลกมาการันตรีความยอดเยี่ยม จำนวนรถที่คาดกันว่า จะแล่นบนถนนทะลุ 5 แสนคันในปี 2019 ที่เตรียมเข้าจำหน่ายในไทย ตัดภาพมาถึงวันเปิดตัว เสียงฮือฮาอื้ออึงด้วยราคา 1.99 ล้านบาท แพงกว่าต่างประเทศจำนวนเกือบเท่าตัว (ต่างประเทศตั้งราคาจำหน่าย ที่แปลงเป็นสกุลเงินบาท ได้ราว ๆ 1.1 ล้านบาท) ทำให้กระแสรถยนต์ไฟฟ้าของไทยแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด

จนกระทั่งมีข่าวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ MG ZS EV 2019 ทาง MG ประเทศไทย เริ่มปล่อยข้อมูล นำมาโชว์ตัวให้เห็นในงาน Motor Show 2019 กับสเปคที่ดูแล้วไม่ธรรมดา อีกไม่กี่อึดใจเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เป็นประเทศที่ 2 ที่จัดจำหน่ายกับราคา 1.19 ล้านบาท ถือเป็นราคาที่จับต้องได้ของจริง เพราะราคานี้ไม่ได้หนีไปจากรถยนต์กลุ่ม B-SUV รุ่นท็อปของแบรนด์เจ้าตลาด

ถึงวันนี้ MG ZS EV 2019 ก็มีความพร้อม เปิดให้สื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะจริง บนเส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา ด้วยระยะทางรวมประมาณ 135 กม. ซึ่งเราก็เข้าทดสอบและเก็บข้อมูลในหลายแง่มุม มาเรียบเรียงให้ได้รับชมกันครับ

MG ZS EV 2019 รูปลักษณ์ที่คล้ายกับ MG ZS

ความต่างที่เห็นได้ชัด ๆ นั่นคือสีของตัวถัง MG ZS EV 2019 นั้นมีให้สีเดียวคือ “สีฟ้า Copenhagen Blue” และจะสงวนสีนี้ไว้เฉพาะรุ่นนี้เท่านั้น กระจังหน้าถูกปรับเปลี่ยนลาย และซ่อนจุดชาร์จไว้บริเวณหลังกระจังหน้า พร้อมกับล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว ที่ได้แรงบันดาลใจจากกังหันลม

ส่วนภายในห้องโดยสาร ชุดฐานเกียร์ถูกปรับเปลี่ยนเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ ใช้วิธีบิดเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งการเข้าเกียร์ ดีไซน์ตกแต่งด้วยใช้โทนสีดำ และอีกสิ่งที่ต่างมองไม่เห็นแต่รู้สึกได้คือระบบกรองอากาศที่ร่วมแอร์ สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 จากที่สัมผัสจริงรู้สึกเลยว่าอยู่ในรถแล้วสดชื่นจริง ๆ รวมถึงอากาศในห้องโดยสารที่มองผ่านแสงสาดเข้ามา ไม่เจอฝุ่นลอยในห้องโดยสารเลยแม้แต่นิดเดียว !

MG ZS EV 2019 ขุมกำลังไฟฟ้า ที่อัตราเร่งเทียบชั้นรถยนต์เครื่องเบนซิน 2.5 ลิตร

MG ZS EV 2019 มาพร้อมขุมกำลังไฟฟ้า

ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าประสานเกียร์อิเล็กทรอนิกส์ ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรแบบไม่ต้องรอรอบ (ที่ตัวเลขแรงบิดนี้เทียบเท่าเครื่องเบนซิน 2.5 ลิตร) สามารถเร่งจาก 0-50 กม./ชม. ได้ระยะเวลาแค่ 3.1 วินาที และ 0-100 กม./ชม. ใน 8.6 วินาที ในการทดสอบผู้เขียน ได้ลองกดคันเร่งเต็ม ๆ ผลปรากฎว่า รถล้อฟรี ไฟเตือนแทรคชั่นคอนโทรลขึ้น หน้าสะบัดเล็กน้อย กับแรง G ที่กดดันในแบบรถยนต์สปอร์ตคาร์ แรงจริงครับ คอนเฟิร์ม 

ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System)ใน MG ZS EV 2019 ลองแล้วต้องบอกต่อ

ฐานเกียร์ MG ZS EV 2019 และระบบ KERS

หน้าที่ของระบบนี้คือ ชาร์จไฟฟ้ากลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) ขณะขับขี่ สามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 ระดับ ซึ่งเจเนอเรเตอร์จะชาร์จไฟฟ้าเข้าจากระยะฟรีที่เราปล่อยคันเร่ง

ในระดับ 1 การไหลฟรีของรถไม่ต่างอะไรจากเครื่องยนต์ปรกติ และเมื่อเพิ่มเป็นระดับ 2 เห็นชัดว่าอาการหน่วงระยะฟรีมีมากขึ้น เข้าระดับ 3 ใช้ความรู้สึกเหมือนเหยียบเบรกเบา ๆ ตลอดเวลาอารมณ์เดียวกับรถโกคาร์ท

ในการวิ่งใช้งานจริง ด้วยความไม่คุ้นชิน ผู้เขียนว่าระดับ 3 ที่หน่วงมาก ทำให้ผู้โดยสารในรถเวียนหัวเมารถ เหมือนกับขับเร่ง ๆ เบรก ๆ แต่จุดนี้ผู้เขียนคิดว่าเอามาประยุกต์ใช้จริงเมื่อขับลงเส้นทางจากดอบหรือเขา น่าจะทำได้ดีมาก ๆ เพราะช่วยทำหน้าที่แทนเอนจิ้นเบรกได้ดีเลย

MG ZS EV 2019 วิ่งทดสอบจริงบนเส้นทาง กรุงเทพฯ-พัทยา

MG ZS EV 2019 วิ่งทดสอบจริง ไม่ถึงเลขที่เคลม แต่ก็พอใช้ได้ 

แบตเตอรี่คือหัวใจของรถยนต์ไฟฟ้าก็ว่าได้ เพราะถ้ามีความจุที่มาก ก็หมายถึงระยิ่งที่ไกลขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง MG ZS EV 2019 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ ลิเธี่ยม ไอออน (Lithium-ion) ความจุ 44.5 kWh ที่เคลมวิ่งได้ไกลกว่า 337 กม. ตามมาตรฐาน NEDC

จากกรุงเทพฯ ไปพัทยา MG ZS EV 2019 เหลือแบตฯ 26% 

ในการทดสอบวิ่งจริงก็มีตัวแปรมากมากมาย เช่นความอุณหภูมิ ความร้อน ความเร็วที่ใช้ของรถ  ซึ่งย่อมให้ผลที่ต่างจากการทดสอบ เส้นทางกรุงเทพฯ ไปพัทยาระยะทาง 133 กม. แบตเตอรี่เต็ม 100% รถมีผู้โดยสารนั่ง 4 คนที่รวมกันน้ำหนัก ๆ ราว 280 กก. เหลือแบต 26% กับระยะทางที่วิ่งได้อีก 71 กม. ตามข้อมูลในระบบของรถยนต์ ขากลับแบตเตอรี่ 97% ตัวแปรทั้งหมดเท่าเดิม เหลือแบต 17% กับระยะทางที่วิ่งได้อีก 50 กม. ตามข้อมูลในระบบของรถยนต์

จากพัทยา ไปกรุงเทพฯ MG ZS EV 2019 เหลือแบตฯ 17% 

ดูจากข้อมูลทั้ง 2 รอบที่ดูตัวเลขแล้วใกล้เคียงกัน เราจึงขอสรุปว่า MG ZS EV 2019 สามารถวิ่งได้จริง ๆ ประมาณ 200 กม. แม้จะหายกการเคลมไปเยอะพอสมควร แต่ดูแล้วพอใช้งานได้จริง เพราะการทดสอบนี้ถือว่าวิ่งทดสอบ ที่ใช้ความเร็วรถเกินเกณฑ์ไปพอสมควร

MG ZS EV 2019 ระบบล็อกความเร็วไว้ 140 กม./ชม. แต่ศักยภาพจริงไปได้มากกว่า

ตามสเปคที่ทาง MG แจ้งไว้คือ 140 กม./ชม. ก็ตัวเลขนั้นคือเลขแนะนำ เพราะล็อกจริงคือ 165 กม./ชม. และเมื่อสอบถามถึงสมรรถนะมอเตอร์ไฟฟ้าตัวนี้มีศักยภาพที่ไปได้สูงกว่านี้อีก แต่ทาง MG เกรงเรื่องความเสถียร และความร้อนจากการไหลของไฟฟ้าที่มากเกินไป และทั้งหมดนี้เซ็ตปรับเปลี่ยนได้ผ่านกล่อง ECU ....

รถยนต์ไฟฟ้ากับน้ำ คำถามที่หลายคนยังหวั่น

ใน MG ZS EV 2019 ผ่านการรับรองและทดสอบตามมาตรฐานสากล โดยสามารถวิ่งผ่านน้ำที่มีความสูงได้ถึงกว่า 40 เซนติเมตรหรือราว ๆ ครึ่งล้อแม็กซ์ แต่ใช่ว่าจะไม่น่ากังวลเพราะ MG ได้พูดพ่วงท้ายมาหน่อยว่า ไม่ควรแช่น้ำในระดับนี้เกิน 30 นาที !! นั้นแหละครับสิ่งที่ทุกคนกังวลเป็นจริง เพราะหากลุยมาตลอดในช่วงฝนตกหนักก็ควรเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็กทันที เพราะหากมีน้ำเข้าวงจรไฟฟ้าละก็ไม่คุ้มที่จะเสีย... 

จุดชาร์จไฟฟ้าความร่วมมืองของ MG  และ EA Anywhere

ฟาสชาร์จคือสิ่งสำคัญ หากคิดจะเปลี่ยนสู่รถยนต์ไฟฟ้า แต่ทุกวันนี้ยังไม่เปิดใช้งาน !!

MG ZS EV 2019 มีจำหน่ายและขายเป็นที่เรียบร้อย และในการทดสอบนี้ก็โชว์ให้เห็นถึงศักยภาพว่า Quick Charge ที่ 80% ในเวลาเพียง 30 นาที นี่พิสูจน์แล้วว่าทำได้จริง แต่ปัญหาดันอยู่ที่ สถานีชาร์จ EA anywhere ที่วันทดสอบก็คือเปิดให้ใช้เป็นพิเศษ 

สิ่งที่ MG แนะนำก็คือ ชุดอุปกรณ์ชาร์จไฟในบ้าน หรือ MG Home Charger ที่จะแถมให้ลูกค้าเมื่อสั่งซื้อรถยนต์รุ่นนี้ พร้อมไปติดตั้งให้ที่บ้าน ที่จะใช้เวลาชาร์จราว ๆ 6.5 ชั่วโมง และยังบอกเพิ่มเติมคือชุดชาร์จที่ติดมากับรถ ไม่ฉุกเฉินจริงไม่แนะนำ เนื่องจากระบบไฟฟ้าพื้นฐานแบบปรกติ มักขาดมาตรฐานที่ดีพอ เช่นสายไฟเก่า การทำสายดิน อาจทำให้มีปัญหาความเสี่ยงต่อระบบรถยนต์ตามมา

ออปชั่นความปลอดภัย MG ZS EV 2019 ของที่ใช้ได้จริง

ระบบ Advanced Synchronized Protection System ทั้งโครงสร้างตัวถังนิรภัย (FSF) ระบบความปลอดภัย Synchronized Protection System ทั้งหมด 9 ระบบ และระบบเสริมความปลอดภัยในขณะ ขับขี่ Advanced Driver-Assistance Systems  ได้แก่ 

• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)  
• ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
• ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
• ระบบเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

ซึ่งขอโฟกัสไปที่ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ  ACC ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist และ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) ที่ทำงานร่วมกัน เหมือนเป็นรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ level 1 ปลอดภัย และช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ได้เยอะมาก

บทสรุปของ MG ZS EV 2019

สำหรับผู้เขียนแล้ว รถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าได้จริง ด้วยราคาจำหน่ายที่จับต้องได้ รวมไปถึงสมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งานในเมือง 

หากพูดถึงข้อเสียนั่นก็คือค่าใช้จ่ายด้านประกันภัย ที่เราแอบสอบถามเพิ่มเติมมาว่า MG ZS EV 2019 มีค่าใช้จ่ายประกันภัยชั้น 1 ต่อปีอยู่ราว ๆ 25,000 บาท ราคานี้เทียบสูสีกับรถยนต์ยุโรปเลย แถมเรื่องอะไหล่บางชิ้นอาจจะต้องรอนานหน่อย เพราะต้องออเดอร์มาจากที่ผลิตจากจีน

สุดท้ายก็อยู่ที่คุณแล้วว่าวันนี้พร้อมจะเปลี่ยนผ่านและมีความกล้าที่จะใช้รถยนต์ไฟฟ้าแล้วหรือยัง.. 

Ningkung