หลังจากที่เปิดตัวและสร้างเสียงฮือฮาในประเทศสหรัฐอเมริกาไปเมื่อช่วงปีกลาย ก็ทำให้ Chevrolet Blazer กลายเป็นที่รู้จักทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่เว้นแม่กระทั่งประเทศไทยเอง ที่หลายคนต่างก็ลุ้นว่าจะถูกนำมาจัดจำหน่ายในตลาดรถยนต์บ้านเราหรือไม่
รถยนต์ Chevrolet Blazer ที่อาจจะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย
สำหรับ Chevrolet Blazer นั้น ต่างก็มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่ากำลังจะมาแทนที่รถยนต์ที่ไม่สร้างยอดขายได้ไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่นักอย่าง Chevrolet Captiva เพราะก่อนหน้าที่จะนำรุ่นนี้มาจำหน่ายในบ้านเรา หลายคนต่างก็เห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าคงจะยากหากจะนำมาสู้กับรุ่นอื่นๆที่เป็นรถยนต์ประเภทเดียวกัน ซึ่งนั่นทำให้ Chevrolet เริ่มมองว่าการนำเอา Chevrolet Blazer มาตีตลาดในบ้านเราจึงถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะในอเมริกาก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
เบื้องต้นนั้น Chevrolet Blazer ถือเป็นรถยนต์ที่นำรถที่เคยโด่งดังในอดีตมาปัดฝุ่นใหม่และผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเอาไว้ด้วยกัน เพื่อให้ออกมาเป็น Crossover 5 ประตู ด้วยการผสาน Chevrolet Equinox และ Chevrolet Traverse เข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ ยังโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าโครเมียมพร้อมโลโก้ ไฟหน้า HID ที่เป็นทรงเรียวเล็ก พร้อมกับไฟ LED Daytime ติดตั้งพร้อมกันชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ตดีไซน์พิเศษ ไฟท้ายเพิ่มความดุดันด้วยลวดลายที่เท่ห์สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น โดยเป็นแบบ LED-illuminated ชุดแต่งโครเมียมที่เพิ่มความหรูหราอีกระดับ ดูดุดันด้วยชุดแต่งสีดำในรุ่นพิเศษอย่างรุ่น RS ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยด์ที่มีขนาดให้เลือกตามความชอบและเอกลักษณ์ของผู้ขับขี่ เพื่อบอกความเป็นตัวตน และเข้ากันกับขนาดของตัวรถที่มีขนาด 4,917 มม. ความกว้าง 1,915 มม. ความสูง 1,745 มม. และฐานล้อ 2,857 มม.
ดีไซน์ภายนอก Chevrolet Blazer
สำหรับดีไซน์ภายในนั้น มีกลิ่นอายของความเป็นรถ Muscle Car อย่าง Chevrolet Camaro เอาไว้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะแผงคอนโซลหน้าที่มีทรงกลมขนาดใหญ่ รวมถึงระบบความบันเทิงที่มีมาให้แบบจัดหนักจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น Chevrolet Infotainment 3 จอสัมผัสขนาดใหญ่แบบเส้นทแยงมุม 8 นิ้ว รองรับ 4G LTE Wi-Fi Apple CarPlay และ Android Auto กล้องมองหลัง พร้อมความสะดวกสบายจากที่นั่งหุ้มหนังคุณภาพ 5 ที่นั่ง หรือแม้กระทั่งออฟชันเสริมภายในรถที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้อย่างครบครันแบบไม่มีที่ติ
ปิดท้ายด้วยขุมพลังแบบพิเศษ ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน ECOTEC 2.5 ลิตร 4 สูบ ส่งกำลังให้ตัวรถได้มากถึง 193 แรงม้า มีแรงบิด 255 นิวตันเมตร และในรุ่นใหญ่สุดคือเครื่องยนต์เบนซิน 3.6 ลิตร V6 305 แรงม้า แรงบิด 365 นิวตันเมตรทั้งสองขนาดจับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด เลือกได้ทั้งขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ Twin Clutch AWD
ดีไซน์ภายในห้องโดยสารของ Chevrolet Blazer
จากประสิทธิภาพและความเต็มพิกัดของ Chevrolet Blazer นี้เอง ที่ทำให้หลายคนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยการนำมาจัดจำหน่ายในบ้านเรา แต่บางคนก็ยังมองว่า หรือ Chevrolet จะยังคงจำหน่าย Chevrolet Colorado และ Chevrolet Trailblazer ต่อไป แล้วพับโครงการที่จะนำ Chevrolet Blazer เข้ามาตีตลาดรถยนต์ของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว Chevrolet Blazer จะมีบทบาทโลดแล่นในตลาดรถยนต์หรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับความกระแสตอบรับและความสนใจต่อรุ่นนี้จะมีมากพอที่จะนำมาจำหน่ายหรือไม่
....
อ่านเพิ่มเติม :