ปิคอัพยอดนิยมอย่าง Mazda BT-50 กับปัญหาจากประสบการณ์ตรงของผู้ใช้จริง
ลงตัวในทุกการขับขี่สำหรับหลากหลายไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย
จากดีไซน์ใหม่ เข้มและดุดันรอบคัน สะท้อนรูปลักษณ์จากหน้าจรดท้ายใน Mazda BT-50 ตอบทุกรูปแบบการใช้ชีวิตลงตัวในทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยขุมพลังเต็มสูบของเครื่องยนต์ดีไอ-ธันเดอร์ โปร Di-THUNDER PRO 2.2 ลิตร และ 3.2 ลิตร ที่เร่งแรงได้ใจ เรียกกำลังได้ทั้งในรอบต่ำและรอบสูง พร้อมช่วงล่างอันเลื่องชื่อ ซูปเปอร์ ดีอี-เอส SUPER DE-S ที่เกาะถนนแน่นหนึบ ปลอดภัยทุกโค้ง พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำแบบจัดเต็ม ภายในหรูหราสไตล์เก๋ง ให้ความสะดวกสบายโดดเด่นเหนือกว่าปิกอัพทั่วไป
ราคาอย่างเป็นทางการ:
Open Cab แค็บเปิดได้ (FSC)
FSC 2.2 Thunder Hi-Racer 6MT 701,000 บาท
Double Cab 4 ประตู (DBL)
DBL 2.2 Thunder Hi-Racer 6MT 792,000 บาท
DBL 2.2 Thunder Hi-Racer 6AT 952,000 บาท
แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงปัญหาจากผู้ใช้ Mazda BT-50 จากประสบการณ์จริง ตลอดจนวิธีการแก้ไข สำหรับผุ้สนใจและกำลังมองหารถปิคอัพคันเก่ง เพื่อศึกษาข้อมูลและทำความรู้จักอย่างถ่องแท้ ว่า Mazda BT-50 ตอบโจทย์การใช้งานและยอมรับในปัญหาและวีการแก้ไข ไม่แน่ว่ารถคู่ใจของคุณอาจจะเป็น Mazda BT-50 ก็ได้
ใช้ล้อช่วยแรงแบบล้อสมดุลคู่ (dual mass flywheel) ความลงตัวในการขับขี่หรือปัญหากันแน่?
ในส่วนของข้อดีสำหรับใช้ล้อช่วยแรงแบบล้อสมดุลคู่ (dual mass flywheel) ทำให้เข้าเกียร์ง่าย ออกตัวนุ่มนวล เกียร์ไม่หอนเวลาวิ่ง ตัวรถสะเทือนน้อยห้องโดยสารเสียงเงียบ แต่ข้อเสีย ราคาแพง อายุการใช้งานสั้น แต่งเครื่องแรงก็พัง สตาร์ทบ่อยก็พังเร็ว บรรทุกหนักมากก็พังเร็ว แต่ดีถ้าพังในระยะประกัน โดยส่วนใหญ่จะพังในระยะแสนกว่ากิโลเมตร แต่ก็ยังดีที่ได้แสนกว่ากิโลหมดประกันพอดี จ่ายค่าซ่อมเอง พอแสดงอาการพังก็ทำให้ทั้งแผ่นคลัตช์ แผ่นกดคลัตช์ ลูกปืนกดคลัตช์พังไปด้วย ซ่อมต้องยกเกียร์ลง ค่าตัวฟลายวีล 15,000 บาท แผ่นคลัตช์ 3800 บาท แผ่นกดคลัตช์ 4000 บาท
ลูกปืนกดคลัตช์ 1200 บาท ค่าแรง1000 บาท ถ้าไม่เปลี่ยนพร้อมกันมีพังอีกรอบ รวมค่าซ่อม 25000 บาท
ถ้าพังที่ประมาณ แสนสองหมื่นกิโลก็จะบวกค่าสายพาไทมิ่งกับลูกปืนสายพานอีก 4200 บาท
ตามระยะเปลี่ยนของสายพานเปลี่ยนพร้อมกันไปเลย รวมค่าใช้จ่ายที่ แสนสองหมื่นกิโลเมตร = 29200 บาท นี่เป็นการประมาณการคร่าวๆสำหรับการใช้งานในระบบใช้ล้อช่วยแรงแบบล้อสมดุลคู่ (dual mass flywheel) ต้องถามตัวท่านเองว่าการใช้งานและการซ่อมในระยะเวลาตามที่กล่าว ตอบโจทย์หรือไม่!! แต่อย่างที่ทราบ รถวิ่งในระยะแสนกว่ากิโลเป็นเรื่องที่ต้องมีการเสื่อมสภาพเป็นธรรมดาสำหรับการซ่อมบำรุง แต่หากมีการดูแลและเข้าใจปัญหาในตัวรถอย่างถ่องแท้ เชื่อเถอว่า รถทุกคันก็มีระยะการใช้งานและการดูแลเหมือนกันหมด!!!
ระบบล้อช่วยแรงแบบล้อสมดุลคู่ (dual mass flywheel) ความลงตัวในการขับขี่หรือปัผยหาในอนาคต
คันใหญ่เทอะทะสำหรับการขับขี่ใช้ในเมืองจริงหรือไม่?
สำหรับบางเสียงจากประสบการณ์ผู้ใช้จริงกล่าวว่า คันใหญ่เทอะทะเวลาใช้ในเมือง สำหรับการออกตัวช่วงต้นอืดไปนิด แต่ออกต่างจังหวัดนี่นิ่ง นุ่ม แน่นขับขี่สบายมากๆ ในส่วนของการใช้งานรถแต่ละประเภทคงต้องถามความเหมาะสมในแงก่การใช้งานของแต่ละคน เพราะไลฟ์สไตล์การขับขี่และการใช้งานของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน รถบางคันเหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองกรุงฯ แต่บางคันกลับมีสมรรถนะที่เมาะสำหรับการใช้งานในต่างจังหวัด ถามใจตัวท่านเองและหาคำตอบจากความลงตัวเหล่านี้ด้วยตัวท่านเอง
มิติของขนาด ตัวถัง และการขับขี่ที่คุณควรเลือกให้เหมาะสม
ปัญหาเรื่องอินเตอร์กับท่ออินเตอร์แตกใน Mazda BT-50
อีกปัญหาหนึ่งจากประสบการณ์ผู้ใช้จริงคือ มีปัญหาเรื่องพวกอินเตอร์กับท่ออินเตอร์แตก หากอยู่ในระยะประกันเปลี่ยนใหม่ก็เป็นอีก ส่งผลให้ตัวรถเร่งไม่ขึ้นขณะแซง อาจจะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อการขับขี่ระยะไกลหรือระยะแซงได้ หากพบปัญหา ไม่ว่าจะเป็นท่ออินเตอร์แตก ท่อ Intercool รั่ว ควรรีบเข้าศูนย์เพื่อทำการเปลี่ยน จะปลอดภัยสำหรับการขับขี่
ระบบอินเตอร์ ปัญหาที่ผู้ใช้จริงกล่าวถึงเยอะที่สุด
อย่างไรก็ตาม Mazda BT-50 ถือเป็นรถที่ได้รับการยอมรับว่าขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วงล่างดีเยี่ยม เกาะถนน และเป็นรถปิคอัพอีกรุ่นที่หลายๆคนหลงรักและปัญหาจุกจิกกวนใจน้อย ต้องลองสัมผัสและทดลองขับ ไม่แน่ปัญหาที่เราได้กล่าวมาข้างต้น อาจจะเป็นแค่สิ่งเล็กๆน้อยๆสำหรับท่านที่ชื่นชอบ Mazda BT-50 ก็ได้ !!
อ่านเพิ่มเติม :