แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 - นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เผยว่า กรมการขนส่งทางบกขอความร่วมมือให้เจ้าของรถส่วนบุคคลทุกคัน หมั่นดูแลเครื่องยนต์ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และทำความสะอาดไส้กรองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดควันดำจากผงเขม่าขนาดเล็ก อันเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ
โดยกรมการขนส่งทางบก แนะวิธีการตรวจเช็กสภาพรถเบื้องต้น มาดังนี้
- รถยนต์ที่ใช้งานประจำ ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก ๆ 5,000 กิโลเมตร หรือทุก 3 เดือน
- รถที่ใช้งานทั่วไป ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อขับถึงระยะ 8,000-10,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน
- ทำความสะอาดไส้กรองอากาศทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร พร้อมตรวจดูไส้กรองอากาศ ไม่ให้ฝุ่นหรือเศษต่าง ๆ เข้าสู่น้ำมันเครื่องรถยนต์
- หมั่นฉีดน้ำชำระล้างสิ่งสกปรกในท่อไอเสีย
- ตรวจเช็กหัวฉีดและปั๊มหัวฉีดน้ำมันให้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งานโดยนำเข้าศูนย์บริการ
- ตรวจเช็กปั๊มจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ชำรุดสึกหรอ
- ตรวจเช็กหัวฉีดน้ำมันและเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอ
- ตรวจเช็กอัตราและจังหวะการฉีดน้ำมันให้ถูกต้องตามบริษัทผู้ผลิตกำหนด เพื่อไม่ให้รถเกิดควันดำเมื่อนำไปใช้งานบนท้องถนน
- หลีกเลี่ยงการขับรถแบบกระชาก หรือเหยียบแรงเกินไป และการบรรทุกของหนักที่ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้รถควันดำ
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ยังเพิ่มเติมว่า การสึกหรอของเครื่องยนต์มีสาเหตุหลายประการ อาทิ
- น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพต่ำ
- กรองอากาศอุดตันส่งผลให้อากาศเข้าไม่เพียงพอ
- การปรับแต่งปั๊มหัวฉีดไม่เหมาะสม
- หัวฉีดปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงชำรุดทำให้การฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงไม่เป็นฝอยละเอียด
- การออกแบบห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์
- การบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด
ทั้งนี้ ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบปริมาณควันดำด้วยตนเองได้ ด้วยการจอดรถอยู่กับที่และเดินเครื่องยนต์ไว้ไม่น้อยกว่า 5 นาที จากนั้นจึงเร่งเครื่องยนต์โดยเร็วจนสุดคันเร่งประมาณ 2-3 วินาที และสังเกตปริมาณควันดำที่ปล่อยออกจากท่อไอเสีย หากพบว่ามีควันดำมีสีเข้มมาก ควรนำเข้าศูนย์บริการเพื่อเข้ารับการตรวจสอบสภาพรถ
อ่านเพิ่มเติม >>
SUNSAWON