หลังจากที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ กฎหมายความเร็วรถล่าสุด โดยระบุข้อความสำคัญเอาไว้ว่า รถยนต์ที่นอกเหนือจากข้อยกเว้น 6 ข้อ ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 120กม./ชม. ทั้งนี้ หากรถดังกล่าวอยู่ในช่องเดินรถช่องขวาสุด ต้องใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม. เว้นแต่กรณีที่ช่องเดินรถนั้นมีข้อจำกัดด้านการจราจร ทัศนวิสัยมีสิ่งกีดขวาง หรือมีเหตุขัดข้องอื่น อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้ยังไม่สามารถครอบคลุมถนนทุกเส้น แต่ต้องเป็นทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงชนบทที่มีช่องทางเดินรถทิศทางเดียวกันตั้งแต่ 2 ช่องขึ้นไป (4 ช่องจราจรไป-กลับ) มีเกาะกลางถนนแบบกำแพงกั้น (Barrier Median) และไม่มีจุดกลับรถเสมอระดับถนน บทความนี้มาดูกันว่า กําหนดความเร็วรถ 2566 ควรขับรถที่ความเร็วเท่าไร และเรื่อง กฎหมายความเร็ว 2566 เป็นอย่างไรกันบ้าง บทความนี้มีคำตอบ
กําหนดความเร็วรถ 2566
หากผู้ขับขี่ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดจะมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ ณ ที่เกิดเหตุ รวมทั้งอาจโดน ใบสั่งความเร็ว 2566 ส่งมายังที่บ้านของผู้ขับขี่ได้อีกด้วย
ขับรถเร็วเกินกว่ากำหนดมีโทษปรับอย่างไร
สำหรับกฎหมายที่สามารถให้ผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป และต้องขับในเฉพาะเส้นทางที่มีทางเดินรถแบบจัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่ 2 ช่อง มีเกาะกลางถนนเฉพาะแบบกำแพงกั้น (Barrier Median) และไม่มีจุดกลับรถเสมอระดับถนน สามารถสรุปได้ง่าย ๆ คือยังไม่สามารถขับรถด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้บนถนนทุกสาย
สำหรับเส้นทางที่สามารถขับรถด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ก็จะมีทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 ช่วงบางปะอิน-พยุหคีรี (ช่วงอยุธยา-อ่างทอง) ระหว่าง กม.4+100 ถึง กม. 50+000 นอกจากนี้ทางกระทรวงคมนาคมยังได้มอบหมายให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทพิจารณาเส้นทางเพิ่มเติม พร้อมเร่งปรับปรุงเครื่องหมายจราจรตามเส้นทางให้มีสีที่ชัดเจนมากขึ้น และเปลี่ยนป้ายข้อความเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถรู้ได้ว่าถนนช่วงไหนควรใช้ความเร็วเท่าไร รวมทั้งยังเร่งการติดตั้งแถบเตือน Rumble Strips เพื่อแจ้งถึงจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดการเข้าเขตควบคุมความเร็วเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ระมัดระวังเรื่องความเร็วได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม หากผู้ขับขี่ไม่อยากโดนใบสั่งตามย้อนหลังไปถึงที่บ้าน หรือถูกเจ้าหน้าที่เรียกเพื่อเสียค่าปรับก็ควรที่จะศึกษาเส้นทางและกฎหมายให้เป็นอย่างดีว่าถนนเส้นทางไหนควรใช้ความเร็วที่เท่าไร รวมทั้งยังต้องเคารพกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด และมีน้ำใจที่ดีต่อกัน เพื่อความปลอดภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน
อ่านเพิ่มเติม >>