งดใช้รถบรรทุก - เกิดขึ้นให้เห็นทุก ๆ ปี เกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่นิยมเดินทางกลับภูมิลำเนา และออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ทำให้รถบนถนนเพิ่มขึ้น เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากกว่าปกติ
เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนโดยเฉพาะที่เกิดขึ้นกับรถบรรทุกขนาดใหญ่ และลดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน กรมการขนส่งจึงออกมาขอความร่วมมือให้รถบรรทุกหลีกเลี่ยงการส่งสินค้าและงดการใช้รถที่ไม่มีการบรรทุกสินค้า (รถเปล่า) พร้อมกำชับห้ามจอดรถบริเวณไหล่ทาง ในช่วงเทศกาลลอยกระทงระหว่างวันที่ 9-12 พฤศจิกายน 2562
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องทำการขนส่งสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าว ควรส่งสินค้าในเวลาที่มีผู้สัญจรน้อย และหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการสัญจรเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญต้องตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงและอุปกรณ์ส่วนควบของรถให้พร้อมใช้งานอย่างปลอดภัย เช่น สภาพยาง, ระบบเบรก เป็นต้น ส่วนผู้ประกอบการขนส่งที่มีการติดตั้งระบบ GPS ในรถของตนเอง ให้ใช้ความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ กรณีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ต้องตรวจสอบอุปกรณ์ทวิสต์-ล็อก (Twist-Lock) สำหรับยึดตู้บรรทุกสินค้าให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ และต้องล็อกตู้คอนเทนเนอร์ให้มั่นคงแข็งแรงตลอดระยะเวลาที่ทำการขนส่ง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุตู้คอนเทนเนอร์หล่นจากตัวรถ
หากเพิกเฉยไม่ล็อกตู้คอนเทนเนอร์ จะถูกดำเนินการลงโทษตามกฎหมายสูงสุดทันที สำหรับผู้ประกอบการขนส่ง จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 71 ประกอบมาตรา 148 ว่าด้วยเรื่องอุปกรณ์และส่วนควบไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ระวางโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนผู้ขับรถมีความผิดตามมาตรา 102 (4) ประกอบมาตรา 127 ไม่ใช้เครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถตามที่กฎหมายกำหนด ปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ขับรถต้องปฏิบัติตามกฎจราจร และข้อกำหนดตามกฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ. 2558 อย่างเคร่งครัด โดยควรปฏิบัติ ดังนี้
1. ห้ามจอดรถในทางเดินรถหรือไหล่ทาง กรณีที่รถเกิดขัดข้องหรือมีความจำเป็นต้องจอดรถในบริเวณดังกล่าว ต้องแสดงสัญญาณไฟกะพริบ พร้อมดำเนินการแก้ไขและเคลื่อนย้ายรถให้พ้นจากทางเดินรถโดยเร็วที่สุด
2. พักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อให้สภาพร่างกายมีความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย
3. ขับรถได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมงตามที่กฎหมายกำหนด และต้องพักไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมง จึงจะขับต่อได้อีกไม่เกิน 4 ชั่วโมง
4. ต้องไม่มีสารเลพติดในร่างกาย และแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็น 0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ จะถือว่ามีความผิดทั้งพนักงานขับรถและผู้ประกอบการขนส่ง โดยจะต้องร่วมกันรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น และอาจถูกพักใช้หรือเพิกถอนรถและใบอนุญาตประกอบการขนส่งอีกด้วย