08:50, 26 ก.ย. 2562

MG HS 2019 เปิดตัวสุดฮือฮาด้วยราคาเริ่มต้น 9.19 แสนบาท ฟีเจอร์แน่น

บันทึกรายการ

หลังจากที่ทำการแนะนำให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ล่าสุดทาง SAIC Motor - CP และ เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ล่าสุดได้เปิดตัว NEW MG HS 2019 อย่างเป็นทางการ เพื่อมารับไม้ต่อจาก MG GS รถ C-SUV ของค่าย พร้อมเริ่มจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2562 เป็นต้นไป


เปิดตัว MG HS 2019

สำหรับ MG HS 2019  เป็นรถเอสยูวีรุ่นใหม่ ซึ่งมาพร้อมนิยาม “ELEGANCE” โดยทาง MG ต้องการนำเสนอสิ่งแปลกใหม่และฟีเจอร์ที่จัดเต็ม เพิ่มความสะดวกสบายในทุกการขับขี่ รวมถึงระบบความปลอดภัยที่ครบเครื่องมากกว่าเดิม อย่าง ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEMS เพื่อลดความผิดพลาดของมนุษย์ โดยแบ่งจำหน่ายเป็น 3 รุ่นย่อย ได้แก่ 

  • MG HS 2019  รุ่นย่อย C 
  • MG HS 2019  รุ่นย่อย D 
  • MG HS 2019  รุ่นย่อย X 

พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 4 สี ได้แก่  

  •  สีแดง Scarlet Red 
  •  สีขาว Arctic White  
  •  สีดำ  Black Knight  
  •  สีเงิน Silver Metallic 

MG HS 2019  คือ รถเอสยูวีตัวใหม่ในกลุ่ม C-Segment ของค่ายแทน MG GS  ที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยเมื่อ 3 ปีก่อน  ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าในไทยได้ดีในระดับนึงเพราะสามารถสร้างการจดจำให้กับแบรนด์ MG ในตลาดรถยนต์ไทย กับการเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เน้นทำการจำหน่ายรถยนต์ในกลุ่ม B-SUV และ C-SUV

รีวิว MG HS 2019 อย่างละเอียด


ดีไซน์ด้านหน้าของ MG HS 

ดีไซน์ภายนอกของ  MG HS 2019 เป็นการผสมผสานระหว่างความ "หรูหรา" กับ "ความสปอร์ต" ด้วยเส้นสายตัวถังแบบ British Shoulder Line ที่เน้นเรื่องความโค้งมนของตัวรถ กับกระจังหน้า Stella Magnetic Field โดยได้แรงบันดาลใจมาจากกลุ่มดาวบนท้องฟ้าที่ถูกดึงดูดเข้าหากัน พร้อมด้วยไฟท้าย Space Light Field รวมถึงลูกเล่นไฟเลี้ยวแสดงผลไล่ระดับ (Sequential) แบบรถกลุ่มพรีเมียม ในส่วนของล้ออัลลอยนั้น ขนาดแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย โดยรุ่น C ใช้ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว ส่วนรุ่น D และ X ใช้ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว 


ไฟเลี้ยวและไฟท้ายแบบใหม่

มากันที่ภายในของ MG HS 2019  ห้องโดยสารให้ความโค้งมนพร้อมการเล่นระดับอย่างมีสไตล์ วัสดุภายในห้องโดยสารที่ทาง MG เน้นผิวสัมผัสด้วยการบุนุ่มในหลาย ๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นคอนโซลหน้า, แผงประตู ส่วนเบาะนั่งคู่หน้าแบบ Bucket Seat (เฉพาะรุ่น X) ทรงสปอร์ตหุ้มด้วยหนัง (วัสดุสังเคราะห์) สีดำสลับแดง ปีกเบาะด้านบนเป็น Alcantara ในขณะที่เบาะหลังนั่งสบายปรับเอน และพับได้แบบ 60:40 รวมถึงที่วางแขนขนาดใหญ่พร้อมช่องวางแก้วและช่องเก็บของ 


คอนโซลภายในของ MG HS รุ่นย่อย C (รุ่นพื้นฐาน)

นอกจากวัสดุภายในแล้ว MG ยังเน้นบรรยากาศของห้องโดยสาร ด้วยไฟ Interactive Ambient Light ที่สามารถเลือกปรับโทนแสงภายในห้องโดยสารได้มากถึง 64 เฉด และยังเปลี่ยนตามโหมดการขับขี่ของรถได้อัตโนมัติ เช่น โหมด Eco จะเป็นสีเขียว โหมด Sport เป็นสีแดง และยังมี Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่ถึง  1.1 ตารางเมตร เพื่อรับแสงจากธรรมชาติ ทำให้ห้องโดยสารดูโปร่งโล่งสบายมากขึ้น


การตกแต่งภายใน 

สำหรับฟีเจอร์ความสะดวกสบายภายในอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ใน MG HS 2019  เช่น 

  • ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART 
  • หน้าจอแสดงผลที่มาตรวัดแบบ Interactive Multi – Function Display ขนาด 7 นิ้ว 
  • หน้าจอ Smart Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว  
  • พวงมาลัย มัลติฟังก์ชั่น  
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone  
  • ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง  
  • กุญแจระบบ Smart Key  
  • ปุ่ม Push Start  
  • ฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า (Electric Liftgate)  


หน้าจอ Smart Touchscreen 10 นิ้ว

 ในส่วนของสมรรถนะการขับขี่ MG HS 2019 ในรุ่น X มาพร้อมปุ่มปรับโหมดการขับขี่ที่สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ถึง 4 โหมด คือ  

  • Normal        เพื่อการขับขี่แบบทั่วไป  
  • Eco             เพื่อการประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น 
  • Sport           เพื่อเพิ่มความสนุกในการขับขี่  
  • Custom       เพื่อการขับขี่ที่สามารถเลือกรูปแบบได้ตามต้องการ 

นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Super Sport  บนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันที่ทาง MG นำเสนอว่า ฟีเจอร์นี้จะช่วยเร่งพลังการขับขี่ให้แรงขึ้นและเพิ่มอารมณ์การขับขี่ที่เร้าใจกว่าปกติ


เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร 162 แรงม้า

ในส่วนของระบบความปลอดภัยของ MG HS 2019  นอกจากอุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานที่มีในรถยนต์ MG รุ่นอื่น ๆ ถือว่า  MG HS 2019  จัดฟีเจอร์ใหม่เพิ่มมาให้อย่างครบครันตามมาตรฐานยุโรป อย่าง Advanced Synchronized Protection System มากถึง 25 ระบบ โดยจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ได้แก่ 

ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ 14 ระบบ เช่น 

  • ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
  • ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้รถพลิกคว่ำ ARP (Anti Rolling Program)
  • ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)  


 BSD (Blind Spot Detection)

 ระบบที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา 4 ระบบ  ประกอบด้วย 

  •  ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning) 
  •  ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) 
  •  ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) 
  •  ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) 

ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) 7 ระบบ ได้แก่ 

  •  ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control) 
  •  ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) 
  •  ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) 
  •  ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) 
  •  ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) 
  •  ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) 
  •  ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) 

สำหรับราคาจำหน่ายของ MG HS 2019   แบ่งราคาจำหน่ายออกเป็น 3  รุ่นย่อยได้แก่  

  • MG HS 2019  รุ่นย่อย C   ราคา  919,000   บาท 
  • MG HS 2019  รุ่นย่อย D   ราคา 1,019,000 บาท 
  • MG HS 2019  รุ่นย่อย X   ราคา 1,119,000 บาท 

โดยทาง MG ยังเพิ่มแรงจูงใจโดยการมอบส่วนลดเงินสดอีก 34,000 บาท ให้กับ 1,000 คนแรกที่ซื้อรถรุ่นนี้ และพร้อมวางจำหน่าย MG HS 2019 ตามโชว์รูมรถยนต์ MG ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2562 เป็นต้นไป ส่วนรถจะเริ่มทยอยส่งมอบตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม












ดูเพิ่มเติม

Palist

ในหมวดเดียวกัน