วันที่ 6 มีนาคม 2563 มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) ประกาศเปิดตัว All-new Mazda CX-30 2020 ราคา 989,000-1,199,000 บาท มีเฉพาะขุมพลังเบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ให้เลือก 3 รุ่นย่อย พร้อมเปิดจองผ่านระบบออนไลน์
All-new Mazda CX-30 2020 ไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดแทรกกลางระหว่าง Mazda CX-3 กับ CX-5 ที่ได้ใช้แพลตฟอร์ม SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE เป็นรุ่นที่สองต่อจาก All-new Mazda 3 2020 ซึ่ง Mazda หวังใช้เปิดเกมรุกเสริมความแข็งแกร่งเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดครอสโอเวอร์ เอสยูวี ด้วยรถชุด CX Series และยังคงปรัชญาการออกแบบ KODO Design ภายใต้แนวคิด “Less is More” แต่เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน ใส่ใจในรายละเอียด พร้อมเทคโนโลยี SKYACTIV ที่ช่วยให้รถของ Mazda มีความโดดเด่นในหลาย ๆ ด้าน
SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE
All-new Mazda CX-30 2020 ในไทยจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ดังนี้
- Mazda CX-30 2020 รุ่น 2.0 C ราคา 989,000 บาท
- Mazda CX-30 2020 รุ่น 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
- Mazda CX-30 2020 รุ่น 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท
สำหรับขุมพลังของ All-new Mazda CX-30 2020 จะมีแบบเดียวคือเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที รองรับเชื้อเพลิง E85
หากเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน All-new Mazda CX-30 2020 จะมีพละกำลังโดดเด่นสุด แต่หากมองในแง่ของความประหยัด อัตราสิ้นเปลืองแบบเฉลี่ย 15.4 กม./ลิตร ตาม Eco Sticker ของ All-new Mazda CX-30 2020 นั้นเท่ากับ Toyota C-HR รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร
และเป็นรองตัวเลข 15.9 กม./ลิตร ของเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร กำลัง 141 แรงม้า แรงบิด 172 นิวตันเมตร ใน Honda HR-V รวมถึง Toyota C-HR ขุมพลัง Hybrid ที่เป็นผู้นำด้วยอัตราสิ้นเปลือง 24.4 กม./ลิตร
นอกจากนี้ All-new Mazda CX-30 2020 ยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง บันทึกได้ 2 ตำแหน่ง มารตวัดดิจิทัล, ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกบังลมหน้า (HUD), รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่าน Apple CarPlay แสดงผลบนจออินโฟเทนเมนต์ ขนาด 8.8 นิ้ว ซึ่งมีให้ในทุกรุ่นย่อย ยกเว้นเครื่องเสียง Bose กับลำโพง 12 ตัว, การตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ และอุปกรณ์บางรายการเท่านั้นที่จะแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย
ขณะที่ระบบความปลอดภัยใน All-new Mazda CX-30 2020 คือจุดที่สร้างความแตกต่างระหว่างรุ่นย่อยได้มากที่สุด และต้องเป็นรุ่นท็อป 2.0 SP เท่านั้น ผู้บับขี่และผู้โดยสารถึงจะได้รับการปกป้องด้วยเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE อันประกอบไปด้วย ระบบต่าง ๆ รวม 12 ระบบ คือ
- ระบบแสดงภาพ 360 องศา (360 ̊ View Monitor)
- ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
- ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็ว และพวงมาลัยแปรผันตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า และช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support)
- ระบบช่วยเบรก และหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse)
- ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Rear Crossing)
- ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System)
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
ซึ่ง All-new Mazda CX-30 2020 รุ่นย่อย 2.0 C และ 2.0 S จะได้ระบบความปลอดภัยตามมาตรฐาน เช่น ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง, ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อม EBD และ BA, ระบบควบคุมการทรงตัว (DSC), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน รวมถึงระบบ GVC Plus เป็นต้น
All-new Mazda CX-30 2020 จะมีสีตัวถังภายนอกให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย
- สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
- สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
- สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray)
- สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
- สีเงิน โซนิก ซิลเวอร์ (Sonic Silver)
- สีดำ เจ็ต แบล็ก (Jet Black)
- สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue)
ดูเพิ่มเติม