หลังจาก บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว ALL NEW MG3 แฮทช์แบ็คที่หลากหลายสีสันเหมาะกับวัยรุ่น ภายใต้คอนเซ็ป มิติใหม่ของความสนุกด้วยเอกลักษณ์ของ ALL NEW MG3 ที่มาพร้อมนิยามใหม่ “WE ARE FUN… มองโลกให้สนุกทุกเส้นทาง” กับโฉมใหม่ที่เน้นการออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สีสันโดนใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะให้คุณได้โลดแล่นในแบบสนุกทุกเส้นทางตามสไตล์คนรุ่นใหม่ ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม B-SUV/Crossover ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันนี้เรามาเจาะลึกรถยนต์ ALL NEW MG3 ที่การออกแบบและฟังชั่นต่างๆล้วนแล้วแต่เอาใจวัยรุ่นอย่างแน่นอน
รีวิวรถยนต์ ALL NEW MG3
โดย All NEW MG3 นั้นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ DOHC VTi-TECH ขนาด 1.5 ลิตร ให้พละกำลัง 112 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่เพื่อตอบสนองทุกการขับขี่อย่างเต็มประสิทธิภาพถูกออกแบบภายใต้แนวคิด บริท ไดนามิค (BRIT DYNAMIC) ทำให้สมรรถนะ การควบคุม การออกแบบ และความปลอดภัย ในการขับขี่สนุกยิ่งขึ้นตามคอนเซ็ปที่วางไว้
รีวิว New MG3 2018
New MG3 2018 มาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ที่โดดเด่นขึ้น รูปทรงตาข่ายคล้าย มีดีไซน์เฉียบคมกว่าเดิม ไฟคู่หน้าทรงใหม่ที่เรียบเท่แต่ลงตัว ช่องไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม พร้อมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ (Projector Headlamp) ทั้งยังเพิ่มความสดใสด้วยสีสันแนว บริท ดูโอ้ คัลเลอร์ สไตลิ่ง (Brit Duo Colour Styling)
กระจังหน้าใหม่ที่โดดเด่น
และทันสมัยโดนใจวัยรุ่นซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นจริงๆ คงต้องยกให้หลังคาซันรูฟใน MG3 ซึ่งหาไม่ได้จากรถเล็กรุ่นอื่นๆ ในตลาดขณะนี้ โดยออกแบบมาเพื่อให้ตรงกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เพิ่มความชิลและลูกเล่นในการขับขี่มากขึ้น มีให้เลือกในรุ่น X เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น โดยตัวซันรูฟมีความยาวไปจนถึงประมาณเสา C-Pillar มาพร้อมม่านกรองแสงสีครีมช่วยกันความร้อนได้ในระดับ ซึ่งม่านที่ว่านี้สามารถเปิดออกได้จนสุด เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเปิดมุมมองการเดินทางใหม่ หรือดูทันสมัยหากจะเซลฟี่กับทิวทัศน์ระหว่างการเดินทาง
ตัวซันรูฟมีความยาวไปจนถึงประมาณเสา C-Pillar
สเกิร์ตทรงใหม่ที่ถูกออกแบบให้ดูสวยและทันสมัยขึ้นจากเดิม เสริมด้วยด้านข้างที่ปราดเปรียวที่มีเส้นสายชัดเจนพาดจากด้านหน้าไปจนถึงซุ้มล้อหลัง และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ แบบ Bi-Colour ขนาด 16 นิ้ว ที่โดดเด่นสะดุดตาจริงๆ โป่งซุ้มล้อถูกตกแต่งด้วยสีดำ พร้อมตกแต่งขอบหน้าต่างประตูด้วยสีเงินทำให้ดูเรียบเท่ขึ้นมา ติดตั้งราวหลังคาสีเงินตัดกับตัวรถ ซึ่งลูกค้าสามารถประยุกต์ใช้เพื่อติดตั้งอุปกรณ์เสริมสำหรับวางจักรยาน หรือกล่องเอนกประสงค์สำหรับทริปการเดินทางแบบไร้ขีดจำกัดได้ ตรงนี้โดนใจวัยรุ่นที่รักการท่องเที่ยวหรือการเดินทางที่ให้ความลงตัวกับไลฟ์สไตล์ที่ตรงใจมากขึ้น
โดดเด่นสะดุดตาจริงๆ โป่งซุ้มล้อถูกตกแต่งด้วยสีดำ
ด้านท้ายติดตั้งไฟท้ายแบบ LED ที่รูปทรงทันสมัยและสวยขึ้นกว่าแบบเดิม และที่เปิดประตูท้ายถูกซ่อนไว้ในโลโก้เอ็มจี โดยจะต้องใช้นิ้วกดด้านบนของตัวโลโก้แล้วจึงยกประตูขึ้น และกันชนถูกตกแต่งด้วยสีดำและเงินพร้อมไฟตัดหมอกเป็นอุปกรณ์มาตรฐานมาให้ทุกรุนย่อยเลยที่เดียว
ด้านท้ายติดตั้งไฟท้ายแบบ LED
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบที่มีสไตล์ดูหรูหราสปอร์ตพรีเมียมขึ้น กว้างขวางนั่งสบายทั้งที่นั่งแถวหน้า และแถวหลัง ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด เพิ่มลูกเล่นในการออกแบบด้วยเส้นสายกับสีสันของเบาะโดยสารลายโมเดิร์นกราฟิก เบาะที่นั่งหลังสามารถปรับพับแยกส่วนในการเก็บสัมภาระแบบ 60:40ในรุ่น X ถูกตกแต่งด้วยสีทูโทนระหว่างสีเทาดำและน้ำตาลแสดงถึงความเรียบปนเท่แบบคนรุ่นใหม่ เบาะนั่งถูกหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ให้ความรู้สึกนุ่มสบายเมื่อสัมผัส มีการบุหนังบริเวณแผงประตูให้ความรู้สึกนุ่มและสัมผัสที่อ่อนโยนเมื่อเท้าแขน เบาะนั่งคู่หน้าปรับมือสามารถปรับได้ 6 ทิศทาง ฝั่งผู้โดยสารปรับได้ 4 ทิศทาง จอระบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว กับฟังก์ชันที่ใช้งานได้หลากหลายทั้งฟังเพลง ดูหนัง ค้นหาโรงแรมและร้านอาหาร พร้อมกล้องมองหลังขณะถอย และสัญญาณเตือนระยะถอยหลังที่ช่วยเติมเต็มความสนุกตามตรงตารมคอนเซ็ปสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความทันสมัยและสะดวกขึ้นกว่าเดิม
ภายในห้องโดยสาร
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบที่มีสไตล์ดูหรูหราสปอร์ตพรีเมียมขึ้น
แต่ในส่วนวัสดุที่เป็นพลาสติกบริเวณแผงคอนโซลและแผงประตูยังดูบอบบางไปซักหน่อย แต่หากเทียบกับระดับราคาและอุปกรณ์มาตรฐานที่มีมาให้นั้น ก็พอมองข้ามข้อนี้ไปได้นะวัยรุ่น
ฝั่งคนขับติดตั้งพวงมาลัยแบบ 3 ก้านดีไซน์และขนาดที่ลงตัว ออกแบบให้มีส่วนเว้าช่วยให้จับได้กระชับมือมากยิ่งขึ้น ปุ่มควบคุมฝั่งซ้ายใช้สำหรับควบคุมเครื่องเสียงและโทรศัพท์ ฝั่งขวาใช้ควบคุมหน้าจอแสดงผลและปุ่มสั่งงานด้วยเสียง โดยสามารถเอื้อมไปกดใช้งานได้ง่าย ดูสะอาด สบายตา
พวงมาลัยแบบ 3 ก้านดีไซน์และขนาดที่ลงตัว
มาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่อ่านค่าตัวเลขได้สบายตาและง่าย คั่นกลางด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ในส่วนของมาตรวัดแสดงปริมาณน้ำมันในถังจะอยู่บนหน้าจอที่ว่านี้ด้วยเช่นกัน ใน ขณะที่ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ติดตั้งไว้ทางซ้ายมือหลังพวงมาลัย
มาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่อ่านค่าตัวเลขได้สบายตาและง่าย
เปรียบเทียบกันให้ชัด MG ZS กับ Mazda CX-3 รถรุ่นไหนดีกว่า?
บริเวณคอนโซลกลางถูกติดตั้งหน้าจอสีแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth ได้เลย พร้อมช่องสำหรับ USB จำนวน 2 ช่องที่ติดตั้งไว้ใกล้กับช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์ นอกจากนี้ยังสามารถรองรับ Apple CarPlay สำหรับวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี
ขยับมาอีกหน่อยจะเป็นปุ่มช็อตคัทเพื่อใช้ในการควบคุมเครื่องเสียง โดยปุ่มหมุนสีเงินใช้สำหรับควบคุมระดับเสียง แต่หากกดปุ่มลงไป จะไม่ใช่การปิดเสียงเหมือนกับรถรุ่นอื่น แต่จะมีหน้าที่เป็นปุ่มโฮมสำหรับกลับไปยังหน้าแรกเหมือนกับสมาร์ทโฟนนั่นเอง โดยที่ปุ่มปิดเสียงจะถูกแยกไว้ต่างหากอีกปุ่มนึงต่างหาก
ขยับไปจะเป็นแผงควบคุมระบบปรับอากาศ ซึ่งระบบปรับอากาศใน MG ไม่ใช่แบบอัตโนมัติ เพราะได้ตัดระบบฮีทเตอร์ออกเพื่อให้สามารถทำความเย็นได้อย่างเต็มที่เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราที่มี 3 ฤดูคือ ร้อน ร้อนมาก และร้อนมากที่สุด จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลด้วยว่าทำไมระบบปรับอากาศของรถรุ่นนี้ถึงไม่แสดงอุณหภูมิเป็นตัวเลข แต่จะใช้เป็นแถบสีฟ้าในการบ่งบอกระดับความเย็นแทนตัวเลข อันนี้เข้าใจได้เนาะ!!!
แผงควบคุมระบบปรับอากาศ
ในหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วชุดนี้ ยังมาพร้อมอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เป็นไฮไลท์ของ MG นั่นคือ ระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART ที่สามารถสั่งงานด้วยเสียงเป็นภาษาไทยได้ ซึ่งการสั่งงานด้วยเสียงสามารถทำได้โดยการเริ่มต้นจากคำว่า “ฮัลโหล เอ็มจี” เมื่อระบบมีการตอบสนอง ก็เริ่มระบบสั่งงานตามที่ต้องการเลย ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดซันรูฟ, เปิด-ปิดหน้าต่างฝั่งผู้ขับ, ปรับความแรงลมและอุณหภูมิแอร์, สั่งโทรออก-รับสาย, สั่งงานระบบเครื่องเสียง และสั่งงานระบบนำทาง
ที่สำคัญคือความยืดหยุ่นของภาษาที่ไม่เฉพาะเจาะจงเหมือนกับระบบสั่งงานด้วยเสียงทั่วไป แต่สามารถใช้คำพูดหรือประโยคเปรยๆที่แสดงความต้องการได้ เช่น อากาศร้อนจัง , อยากฟังเพลงนะเนี่ย หรือ เปิดซันลูฟหน่อยสิจ๊ะ เท่ากับเป็นการเริ่มความทันสมัยเอาใจวันรุ่นแบบเพิ่มความสร้างสรรค์ให้ดูสนุกตามที่ MG วางไว้จริงๆ
หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว
แต่ตัวระบบปฏิบัติการด้วยเสียงเองยังตอบสนองต่อคำสั่งเสียงได้ไม่ดีนัก และมีอาการ Lag ช้า ใช้เวลานานพอสมควรก่อนที่ระบบจะเข้าใจคำสั่งและปฏิบัติตาม หรือแม้แต่คำสั่งเริ่มต้นอย่าง “ฮัลโหล เอ็มจี” ก็เกิดการติดขัด ซึ่งจุดนี้ทางเอ็มจีระบุว่าจำเป็นต้องให้ระบบมีการเรียนรู้น้ำเสียงของผู้ใช้งานไปสักระยะจึงจะใช้งานได้คล่องมากขึ้น ซึ่งระบบเหล่านี้มีรองรับไว้เพื่อสร้างความสะดวกสบายหรือเวลายุ่ง จนไม่สามารถทำหลายๆ อย่างพร้อมกันได้ หรือ อาจจะเหมาะกับช่วงเวลาที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกาย ระบบก็จะช่วยรองรับตรงจุดนี้ แต่ถ้าเรื่องความรวดเร็ว ทำเองกว่า ยอมไวกว่าระบบสั่งการแน่นอน ก็แค่เอื้อมมือไปเปิด หมุน ปิด ใช่มั้ย!!
ขณะที่ระบบ i-SMART on Touchscreen จะเป็นการสั่งงานผ่านหน้าจอสัมผัส โดยสามารถใช้งานระบบนำทางพร้อมข้อมูลจราจรแบบ Real-time, ระบบแนะนำร้านอาหารและที่พักบนแผนที่นำทาง, ระบบเลขาส่วนตัว i-Call และระบบโทรออก-รับสายในกรณีฉุกเฉินได้
ระบบ i-SMART on Touchscreen
ระบบ i-SMART on Touchscreen
ระบบความปลอดภัยใน ALL NEW MG3 เช่นเดียวกับรถยนต์ เอ็มจี รุ่นอื่นๆ ด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย USD (Ultimate Stiffness Design) พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า และมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบความปลอดภัยแบบ SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM รวม 8 ฟังก์ชัน ที่ทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วย ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-Lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution) ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) เข้าโค้งอย่างมั่นใจด้วยระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) และระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน MSR (Motor Control Slide Retainer)
ALL NEW MG3
ทั้งนี้ ALL NEW MG3 มีสีให้เลือก ทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเหลืองทิวดอร์ เยลโล่ (Tudor Yellow) สีแดง รูบี เรด (Ruby Red) สีฟ้ามารีนา บลู (Marina Blue) สีขาวอาร์กติกไวท์ (Arctic White) และสีดำแบล็คไนท์ (Black Knight) พร้อมกันนี้ ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ ALL NEW MG3 จะได้รับแพ็คเกจใช้งานระบบอัจฉริยะ i-SMART ฟรี เป็นระยะเวลา 5 ปี และได้รับความอุ่นใจกับการบริการแพสชั่น เซอร์วิส (Passion Service) ด้วยการรับประกันคุณภาพนาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (Roadside Assistance) และการให้คำแนะนำผ่านศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 1267 (MG Call Centre 1267) รวมไปถึงบริการเช็คระยะนอกสถานที่ (Mobile Services) ผู้สนใจสามารถสัมผัส ALL NEW MG3 ได้ที่ผู้แทนจำหน่าย เอ็มจี ทั่วประเทศ
ทั้งหมด 5 สี
ราคา ALL NEW MG3 2018 แบ่งเป็น 4 รุ่น คือ:
– รุ่น C ราคา 519,000 บาท
– รุ่น D ราคา 549,000 บาท
– รุ่น X ราคา 589,000 บาท
– รุ่น V ราคา 629,000 บาท
สำหรับวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหารถที่สวยงามทั้งด้านการออกแบบที่ทันสมัยตรงตามความต้องการ และอ็อพชั่นการอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และที่โดดเด่นที่สุดอีกอย่างคือช่วงล่างที่ไว้ใจได้ตามฉบับของ MG นับว่าเป็น SUV ที่เพียบพร้อมสำหรับคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง
ALL NEW MG3 2018 รถยนต์ SUV สำหรับวัยรุ่นคนรุ่นใหม่
ดูเพิ่มเติม: