พร้อมเปิดตัวทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการสำหรับ Nissan Terra 2018 ยอดรถอเนกประสงค์ PPV ขนาด 7 ที่นั่งรุ่นเรือธงที่นิสสันมุ่งหมายทำตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน และ ประเทศไทยคาดเตรียมเผยโฉมในวันที่ 17 สิงหาคม 2018 ที่จะถึงนี้ ถือเป็นการพัฒนาต่อยอดขึ้นจากแพลตฟอร์มเดียวกันกับ Nissan Navara NP 300 รถกระบะที่ได้รับความนิยมอีกรุ่นหนึ่งจากนิสสันพร้อมเส้นสายบนตัวรถที่ให้ความสปอร์ตสบายตาเป็นอย่างยิ่ง เริ่มต้นเพียง 8.4 แสนบาท เท่านั้น
Nissan Terra 2018
ส่วนคู่แข่งอีกรายที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานในตลาดรถเมืองไทย Toyota Fortuner 2018 รถยนต์อเนกประสงค์ PPV อีกรุ่นหนึ่งที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์มาตรฐานแบบใหม่มากมายโดยเฉพาะในรุ่น Toyota Fortuner TRD Sportivo ที่เพิ่มทางเลือกรุ่นย่อยทั้งในแบบธรรมดา และ Black Top เสริมด้วยระบบขับเคลื่อนที่เอาใจนักขับทั้งในเส้นทางเรียบรวมถึงเส้นทางทุรกันดารในรูปแบบรถขับเคลื่อน 2WD และ 4WD ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.2 ล้าน เท่านั้น
Toyota Fortuner 2018
สำหรับราคาจำหน่าย NISSAN TERRA 2018 ในประเทศไทยอาจไม่สูงมากนักเนื่องจากประกอบและผลิตขึ้นภายในประเทศเพราะฉะนั้นราคาเปิดตัวจึงค่อนข้างต่ำกว่า Toyota Fortuner 2018 อยู่พอสมควร และ สามารถที่จะสร้างกระแสความนิยมในตลาดรถ PPV เมืองไทยได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ส่วนโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ก็มีความมุ่งมั่นที่จะผลิตรถ PPV ขนาด 7 ที่นั่งในระดับพรีเมี่ยมพร้อมเส้นสายบนตัวรถที่สปอร์ตโดนใจตอบโจทย์กลุ่มนักขับผู้ชื่นชอบรถที่มีฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครัน
ราคาจำหน่าย NISSAN TERRA 2018 มีดังนี้ (อ้างอิงจากรุ่นผลิตจำหน่ายในประเทศจีน)
NISSAN TERRA 2018 รุ่น 2.5 L XE ราคา 169,800 หยวน หรือราว 843,000 บาท
NISSAN TERRA 2018 รุ่น 2.5 L XL ราคา 189,800 หยวน หรือราว 942,000 บาท
NISSAN TERRA 2018 รุ่น 2.5L XL Upper ราคา 199,800 หยวน หรือราว 992,000 บาท
NISSAN TERRA 2018 รุ่น 2.5L XV ราคา 219,800 หยวน หรือราว 1,090,000 บาท
NISSAN TERRA 2018 รุ่น 2.5L XL Upper 4WD ราคา 225,800 หยวน หรือราว 1,120,000 บาท
NISSAN TERRA 2018 รุ่น 2.5L XV 4WD ราคา 245,800 หยวน หรือราว 1,220,000 บาท
NISSAN TERRA 2018 ในประเทศไทย
Toyota Fortuner TRD Sportivo มีราคาดังนี้
Toyota Fortuner รุ่น 2.8V TRD Sportivo 2WD ราคา 1,689,000 บาท
Toyota Fortuner รุ่น 2.8V TRD Sportivo 4WD ราคา 1,759,000 บาท
รีวิว Toyota Fortuner 2018
เลือกรถยนต์อย่างไร ให้เหมาะกับตัวคุณ!!
ภายนอก Nissan Terra 2018 รุ่นเตรียมทำตลาดในประเทศไทยได้รับการดีไซน์ภายนอกเพิ่มความโฉบเฉี่ยวและสปอร์ตมากยิ่งขึ้นผ่านเส้นสายบนตัวรถที่สร้างให้รถรุ่นนี้ดูหล่อเข้ม สมาร์ทถูกใจนักขับด้วยกระจังหน้าแบบโครเมี่ยมรูปตัววี ไฟหน้า LED Projector แบบ Boomerang พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวันแบบ Daytime Running Lights และ ไฟตัดหมอกด้านหน้า เสริมด้วยการติดตั้งสกู๊ปดักอากาศขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าติดกับกันชน บันไดด้านข้างสีดำตกแต่งด้วยกรอบโครเมี่ยม กระจกมองข้างแบบโครเมี่ยมปรับพับได้ด้วยไฟฟ้า
กระจังหน้าแบบโครเมี่ยมรูปตัววี
ส่วนด้านหลังได้รับการติดตั้งไฟท้ายแบบ LED เสริมความหล่อด้วยสปอยเลอร์ทรงสปอร์ต นอกจากนี้แล้ว Nissan Terra 2018 ยังชูจุดเด่นด้วยมิติตัวถังที่เพิ่มขนาดให้ใหญ่มากกว่ารถยนต์จากค่ายอื่นใน Segment เดียวกันด้วยความยาวตัวถังมากถึง 4,885 มม. กว้าง 1,865 มม สูง 1,835 มม. ซึ่งเมื่อนำมาเทียบกับ Toyota Fortuner 2018 แล้วกลับมีความยาวที่มากกว่า ช่วงล่างติดตั้งล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 255/60 R18
ไฟหน้า LED Projector แบบ Boomerang
ส่วนเจ้าของตำแหน่งรถ PPV ที่ขายดีที่สุดในปี 2018 ภายนอก Toyota Fortuner 2018 ให้ความโดดเด่นอย่างลงตัวจากเส้นสายรอบคันที่มีการปรับให้ดูปราดเปรียวสปอร์ตมากขึ้น กอปรกับกระจังหน้าสี Dark Chrome พร้อมคิ้วขอบป้ายทะเบียนสี Dark Chrome เช่นเดียวกันเติมเต็มทุกความแข็งแกร่งผสานกับความสวยงามด้วยบันไดข้างสีเงินแบบใหม่ล่าสุด อีกทั้งยังได้รับการดีไซน์ไฟหน้าให้ติดมากับเลนส์โปรเจคเตอร์แบบ Bi-Beam LED ควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติพร้อมระบบ Follow-me-home และ ระบบปรับไฟหน้าสูงต่ำอัตโนมัติ
กระจังหน้าสี Dark Chrome พร้อมคิ้วขอบป้ายทะเบียนสี Dark Chrome
Toyota Fortuner 2018 ยังอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์เสริมมากมาย อาทิ กระจกมองข้างระบบ Welcome Light นวัตกรรมใหม่ปรับและพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ให้ความโดดเด่นด้วยมือเปิดประตูสีโครเมี่ยม ส่วนด้านหลังติดตั้งไฟท้าย LED แบบ Light Guiding ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบ และ สคัพเพลทแบบไฟเรืองแสงติดสัญลักษณ์ TRD ส่วนช่วงล่างได้รับการติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 265/50 R20
ด้านหลังติดตั้งไฟท้าย LED แบบ Light Guiding
ฤกษ์ออกรถประจำเดือนสิงหาคม 2561
ภายใน Nissan Terra 2018 ได้รับการออกแบบอย่างประณีตแต่แฝงไว้ด้วยความสปอร์ตพร้อมฟังก์ชั่นภายในสุดครบครันผ่านการตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ เบาะนั่งภายในแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง เพิ่มความสะดุดตาให้กับเบาะนั่งโดยสารด้วยโทนสีน้ำตาลเย็บตะเข็บด้วยด้ายสีขาวดูมีสเน่ห์เป็นอย่างมาก ส่วนเบาะนั่งด้านหลังสามารถแยกปรับพับได้ อีกทั้งยังติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี MID เพิ่มความสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้าน พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง
เบาะนั่งตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาล
ให้ความบันเทิงผ่านระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ เพิ่มความเย็นสดชื่นมากยิ่งขึ้นด้วยระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา ให้ทัศนวิสัยในการถอยหลังได้ดียิ่งขึ้นด้วยกระจกมองหลังแบบ Smart Rear View Mirror เป็นฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดที่ถูกนำมาติดตั้งใน Nissan Terra 2018 สามารถแสดงภาพจากกล้องที่ติดตั้งไว้ด้านหลังอีกทั้งยังปรับสลับไปใช้เป็นกระจกธรรมดาได้อีกเช่นกัน
เบาะนั่งด้านหลังสามารถแยกปรับพับได้
ส่วนคู่แข่งจากต่างค่าย Toyota Fortuner 2018 เพิ่มความสะดุดตาด้วยการดีไซน์ภายในโทนสีดำ แผงคอนโซลหน้าตกแต่งด้วยหนังสังเคราะห์สีดำสลับแดง และ แถบสี Dark Silver ขณะที่เบาะนั่งตกแต่งด้วยสีทูโทนดำสลับแดงเพิ่มความสะดุดตาด้วยการเดินด้ายสีแดง โดยเบาะนั่งแถวที่ 1 ปรับระดับสูง-ต่ำด้วยไฟฟ้าทั้งในด้านผู้ขับ และ ผู้โดยสาร เบาะนั่งแถวที่ 2 แบ่งส่วน 60:40 พร้อมที่พักแขนแบบพับเก็บได้และที่วางแก้วน้ำติดตั้งระบบพับและยกขึ้นจังหวะเดียว เบาะนั่งแถวที่ 3 แบ่งส่วน 50:50 ปรับเอนและพับเก็บได้
เบาะนั่งตกแต่งด้วยสีทูโทนดำสลับแดง
Toyota Fortuner 2018 ยังเพิ่มความหรูหราด้วยฟังก์ชั่นภายในสุดครบครันผ่านหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MID) แบบจอสี TFT พร้อมมาตรวัดเรืองแสง Optitron สีแดงลาย Carbon Kevlar ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายผ่านสัญญาณบลูทูธ ให้เสียงกระหึ่มด้วยชุดเครื่องเสียง Premium Audio พาวเวอร์แอมป์ ติดตั้งลำโพงกว่า 9 จุด ทำงานผ่านหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมช่องต่ออุปกรณ์ USB เชื่อมต่อระบบนำทาง T-Connect ให้ความรู้สึกถึงความนุ่มนวลในทุกการขับขี่จากพวงมาลัยแร็ค แอนด์ พิเนียนสามารถปรับระดับสูง-ต่ำ และ เข้า-ออกได้แบบ Tilt & Telescopic
หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
แชร์ประสบการณ์จากการทดลองสมรรถนะรถ Toyota Fortuner 2018
สำหรับเครื่องยนต์ใน Nissan Terra 2018 รุ่นผลิตจำหน่ายในประเทศไทยยังไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลแต่คาดการณ์กันว่าอาจได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.5 ลิตร ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวให้ผู้ขับขี่เลือก แต่อย่างไรก็ตามด้วยเครื่องยนต์บล็อกนี้สามารถสร้างอัตราเร่งสูงสุดได้มากถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ถือเป็นอัตราความเร็วที่ดีเลยทีเดียวแต่อาจเป็นรอง Toyota Fortuner อยู่บ้าง ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมทางเลือกระบบขับเคลื่อนทั้งในแบบ 2WD และ 4WD อีกทั้งยังได้รับการติดตั้ง 4WD-DIFF LOCK และ ช่วงล่างแบบ Five-Link Coil Spring อีกด้วย
Nissan Terra 2018 ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี MID
ส่วน Toyota Fortuner 2018 ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ได้รับการติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 1 GD-FTV High 4 สูบแถวเรียง 16 วาว์ล DOHC VN Turbo และ Intercooler ขนาด 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 450 นิว-ตันเมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที เสริมด้วยระบบ Stop & Start พร้อม Evaporator ที่ช่วยเก็บความเย็นของระบบปรับอากาศให้ความเย็นสดชื่นแม้ดับเครื่องยนต์ ส่งผ่านทุกอัตราการเร่งด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift
เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง 16 วาว์ล DOHC ขนาด 2.8 ลิตร
นอกจากนี้แล้ว Toyota Fortuner 2018 ยังขึ้นชื่อในด้านประหยัดน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยมเมื่อนำไปเทียบกับรถค่ายอื่นใน Segment เดียวกัน นับได้ว่าฟอร์จูนเนอร์โฉมนี้ประหยัดได้อย่างเกินคุ้ม เสริมด้วยระบบขับเคลื่อนแบบ Sigma 4 เฉพาะในรุ่นขับเคลื่อน 4WD ที่ออกแบบให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดเกียร์ให้เข้ากับสภาพเส้นทางได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ดูจะก้าวล้ำ Nissan Terra 2018 ที่กำลังตามมาอย่างติดๆอยู่บ้าง
สำหรับระบบความปลอดภัยใน Nissan Terra 2018 ได้รับการติดตั้งมาอย่างครบครันทั้งจากถุงลมนิรภัยที่มีการติดตั้งมาให้ถึง 7 จุดซึ่งสามารถปกป้องผู้ขับขี่รวมถึงผู้โดยสารได้ในทุกที่นั่งผสานการทำงานร่วมกับระบบเตือนจุดอับสายตาแบบ Blind Spot Warning ที่ช่วยเตือนให้ผู้ขับขี่รับทราบถึงรถยนต์คันอื่นเมื่ออยู่ในจุดอับสายตาซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว
ส่วน Toyota Fortuner 2018 ก็ได้รับการติดตั้งฟีเจอร์พื้นฐานด้านความปลอดภัยแบบจัดเต็มเช่นกัน อาทิ โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA ที่ผลิตขึ้นจากเหล็กกล้าช่วยปกป้องห้องโดยสารได้ในทุกมิติ และ ระบบถุงลมนิรภัยแบบ SRS ที่ช่วยปกป้องผู้โดยสารสร้างความปลอดภัยได้อย่างดีเยี่ยมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า Nissan Terra 2018
ระบบความปลอดภัยใน Nissan Terra 2018
กระจกมองหลังแบบ Smart Rear View Mirror
ระบบความปลอดภัยใน Toyota Fortuner 2018
ระบบกุญแจนิรภัย Smart Key
Toyota Fortuner 2018 รถยนต์อเนกประสงค์ PPV ที่ชูจุดเด่นด้วยการปรับเส้นสายภายนอกตัวรถสร้างอารมณ์สปอร์ตโดนใจนักขับที่ชื่นชอบการขับขี่ในสไตล์ผจญภัยพร้อมฟีเจอร์พื้นฐานที่อัดแน่นในราคาเริ่มต้นเพียง 1,239,000 บาท นับเป็นราคาที่ไม่สูงมากนักหากเทียบกับฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกที่ติดตั้งมากับรถรุ่นนี้
ส่วน Nissan Terra 2018 ยอดรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง หากนำมาเปรียบเทียบกับรถในเซกเมนท์เดียวกันแล้วแม้จะมีรูปทรงภายนอกที่ไม่โดดเด่นไปกว่าโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 2018 แต่ก็อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำในราคาเริ่มต้นเพียง 843,000 บาท นับเป็นราคาที่สามารถจับต้องได้อย่างไม่ยากเย็นนักอีกทั้งยังดึงดูดความสนใจจากผู้ซื้อได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ดูเพิ่มเติม:
ส่องรถ SUV 5 ค่ายที่คุ้มราคา น่าซื้อมากที่สุดในปี 2018
เปรียบเทียบระว่าง Ford Everest กับ Toyota Fortuner จับรถ SUV ราคาระดับล้านกลางๆ มาประชัน