สำหรับ Volvo XC60 2018 นั้น ได้รับการตกแต่งและสร้างวิวัฒนาการของตัวรถที่มีความปราดเปรียวจากสวีเดนโดยเฉพาะ ซึ่งการตกแต่งและดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายในก็ล้วนแล้วแต่มีความพิเศษทั้งรูปลักษณ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้การันตีได้ว่า เป็นรถ SUV พรีเมี่ยมขนาดกลางที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็ว่าได้ เพราะสมรรถนะนั้นไม่ใช่เพียงการเน้นไปที่ความแรงของเครื่องยนต์แต่เพียงอย่างเดียว หากแต่เน้นไปถึงความปลอดภัยที่ต้องมาเป็นอันดับแรก ถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ อีกทั้งเทคโนโลยีที่มีมาให้ยังช่วยในเรื่องของการขับขี่อีกทางหนึ่ง โดยได้รับการออกแบบและทดลองอย่างเข้มงวด จึงทำให้ Volvo XC60 2018 นี้ เป็น SUV ที่น่าจับตาอีกแบรนด์หนึ่งเลย
รถยนต์ Volvo XC60 2018
สำหรับ Volvo XC60 2018 นั้น หลักๆแล้วจะเน้นไปที่ความสวยงาม หรูหรา แต่ก็เรียบง่ายอยู่ในที เพราะรูปลักษณ์ไม่ได้มีความโฉบเฉี่ยวมากนักหากเทียบกับ Audi Q5 2018 แต่ก็ต้องยอมรับว่าเส้นสายของการออกแบบนั้นมีความเป็นเหลี่ยมและยังคงความสดใหม่ ทันสมัยอยู่เหมือนกัน เพราะรูปทรงก็ยังออกไปทางสปอร์ตตามความนิยมในยุโรป และยังได้เพิ่มมิติเพื่อทำให้ตัวถังมีความดุดัน พร้อมด้วยกรอบกระจกข้างที่มีไฟเลี้ยวในตัว ด้านหลังก็ยังคงเอกลักษณ์ของไฟท้ายที่เป็นแนวยาวตั้งขนาดกับเสา C แต่มีความพิเศษตรงที่ส่วนปลายล้ำเข้ามาบริเวณฝาท้าย ทำให้ดูคล้าย L-Shape
ดีไซน์ภายนอก Volvo XC60 2018
ดีไซน์ภายนอก Volvo XC60 2018
ดีไซน์ภายนอกในส่วนของท้ายรถ Volvo XC60 2018
ส่วน Audi Q5 2018 นั้น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นย่อยอย่าง Audi Q5 45 TFSI Quattro S Line 2018 หรือ Audi Q5 35 TDI Quattro 2018 ก็จะคล้ายกับ Audi Q5 2017 เพียงแต่จะมีเส้นสาย และองค์ประกอบเล็กน้อยเท่านั้นที่แตกต่างออกไป อย่างเช่น ในส่วนของไฟหน้า LED แบบ 3 มิติ ที่มีสไตล์ 3D และที่น่าสนใจคือการใช้พลังงานน้อยลงแต่สวนทางกับอายุการใช้งานที่มากขึ้น และมีการใช้ Singleframe ในส่วนของด้านหลังรถ ที่สำคัญคือ Audi Q5 2018 มาพร้อมกับล้ออัลลอยด์ที่โดดเด่นและดีไซน์ที่ดุดันมากขึ้น ที่สำคัญคือเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพสูง โดยได้รับการพัฒนาแบบ Quattro with ultra technology
ดีไซน์ภายนอก Audi Q5 2018
ดีไซน์ภายนอก Audi Q5 2018
ดีไซน์ภายนอก Audi Q5 2018
เปิดตัว Audi A7 Sportback 2019 พร้อมเทคโนโลยีครบครันในราคาถูกกว่าเดิม
สำหรับดีไซน์ภายในของ Volvo XC60 2018 นั้น คอนเซปต์การออกแบบก็คือการย้ายปุ่มปรับและควบคุมต่างๆให้ไปปรากฏอยู่บนจอทัชสกรีน ที่มีขนาดเพียง 9 นิ้ว นอกจากจะทำให้รถเต็มไปด้วยเทคโนโลยีแล้ว ยังทำให้ดูกว้างขวางขึ้นอีกด้วย ในส่วนของการออกแบบแดชบอร์ด และแผงคอนโซลคต่างๆ ก็ใช้วัสดุที่ทำจากพลาสติกกึ่งนิ่มคุณภาพสูงทั้งหมด ช่องแอร์แบบแนวตั้งขนาดใหญ่ และชิ้นตกแต่งแทรกกลางคอนโซลกับวัสดุอลูมิเนียมแบบพิเศษ พร้อมกับเทคเจอร์ที่ให้ผิวสัมผัสที่เรียบเนียน แข็งแรง และมีระดับ
ดีไซน์ภายในของ Volvo XC60 2018
ในส่วนของหัวเกียร์นั้น มีการดีไซน์ที่แปลกตาออกไปมาก เป็นการดีไซน์ผสมผสานระหว่างคริสตัลทำมือ Orrefors และวัสดุที่ให้ความหรูหรา โดยการใช้งานเกียร์ยังคงเป็นแบบดันขึ้น-ลง ตามสเตป พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน R-Design เรียบๆ และมีระบบมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมระบบ Cruise Control และระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆ ไม่รวมถึงสวิทช์สตาร์ทรถยนต์ก็มาในรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากรถยนต์ตามตลาดทั่วไป การดีไซน์จะเป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะ ซึ่งเบาะรถยนต์เองก็ทำออกมาได้กระชับผู้นั่งเป็นอย่างมาก เพราะการโอบรับ และความแน่น ที่สอดคล้องกับสมรรถนะรถยนต์ได้อย่างลงตัว
ด้าน Audi Q5 2018 เอง ก็มีดีไซน์ที่ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน เพราะภายในนั้นมาพร้อมกับความหรูหราด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังแบบพิเศษ พร้อมการปรับด้วยระบบไฟฟ้าสำหรับเบาะคู่หน้า ตลอดจนระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบดีลักซ์ ที่สำคัญคือในส่วนของห้องโดยสารที่กว้างขวางนั้น เป็นเพราะตัวการออกแบบให้ตัวถังมีน้ำหนักเบา และโครงสร้างที่เป็นแบบวัสดุผสม และยังมีระบบ Comfort Key ด้วยไฟหน้าแบบ LED ไฟ Daytime เพื่อการขับขี่ในเวลากลางวันโดยเฉพาะ
ดีไซน์ภายใน Audi Q5 2018
ดีไซน์ภายใน Audi Q5 2018
รีวิว Audi R8 2018 ซูเปอร์คาร์สไตล์คูเป้ แรง หรู เท่ไม่เหมือนใคร
Volvo XC60 2018 นั้น ถือว่ามีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครันเป็นอย่างมาก อย่างเช่น จอแสดงผลมาตรวัดต่างๆ ที่ถูกปรับให้เป็นจอแบบดิจิตอลทั้งหมด วงด้านซ้ายจะแสดงถึงความเร็ว ด้านขวาจะแสดงถึงรอบเครื่องยนต์ รวมไปถึงการทำงานของระบบไฟฟ้า รวมไปถึงมาตรวัดระดับน้ำมัน ในส่วนจอตรงกลางก็สามารถปรับให้แสดงเส้นทางได้ ซึ่งช่วยให้การขับรถเป็นไปอย่างสะดวกสบายได้มากที่สุด โดยเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีในนวัตกรรมของยานยนต์ได้อย่างลงตัว
ตัวอย่างจอการแสดงผลของ Volvo xc60 2018
ส่วน Audi Q5 2018 นั้น ได้มีการเพิ่มระบบเพื่อช่วยในด้านของความปลอดภัย อย่างเช่น หากเกิดกรณีฉุกเฉินแล้ว รถจะทำการกระจายแรงขับไปยังล้อใดล้อหนึ่งโดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างแรงยึดเกาะและรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ และจะเปลี่ยนมาเป็นการขับเคลื่อนในรูปแบบ 4 ล้อในเวลาต่อมา ซึ่งระบบประมวลผลจะมีการนำข้อมูลที่ได้รับจากการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นองศาของพวงมาลัย จังหวะการกดคันเร่ง รวมไปถึงแรงบิดที่ส่งมายังล้อ มาประมวลผลทุกๆ 10 มิลลิวินาที เพื่อหาความเป็นไปได้หากล้อใดล้อหนึ่งเกิดเสียการควบคุม นอกจากนี้ ระบบ quattro with ultra Technology ยังเรียนรู้เพื่อปรับการทำงานให้สอดรับกับลักษณะและพฤติกรรมของผู้ขับขี่อีกด้วย
ระบบอำนวยความสะดวกภายในของ Audi Q5 2018
Volvo XC60 2018 มาพร้อมขุมพลัง Twin Engine AWD เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมพ่วงด้วยเทอร์โบ-ซูเปอร์ชาร์จ-มอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้มีกำลังแรงม้าจากเครื่องยนต์เพียวๆ ได้ที่ 320 แรงม้า ที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตร ที่ 2,200-5,400 รอบต่อนาที พร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังแรงม้า 87 แรงม้า พร้อมแรงบิด 240 นิวตันเมตร ผลรวมทั้งระบบคือรถยนต์คันนี้จะมีแรงม้าที่ 407 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาลที่ 640 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ Geartronic 8 สปีด และระบบขับเคลื่อน All-Wheel Drive นั่นเอง
สมรรถนะที่มาพร้อมกับ Volvo XC60 2018
สำหรับ Audi Q5 2018 ถือเป็นรถอเนกประสงค์ขนาดกลาง โดยมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน Q5 45 TFSI quattro S line และเครื่องยนต์ดีเซลในรุ่น Q5 35 TDI quattro และเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะประสิทธิภาพสูงที่ได้รับการพัฒนาล่าสุดแบบ quattro with ultra technology โดยเทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาพร้อมกับการวางเครื่องยนต์แบบวางตามยาว ที่ติดตั้งใน Audi Q5 generation ที่ 2 เป็นรุ่นแรกในรถ SUV ซึ่งเมื่อเริ่มขับเคลื่อน รถยนต์จะใช้การกระจายแรงบิดไปยังล้อทั้ง 4 ล้อ ทั้งนี้ เมื่อระบบตรวจพบว่ารถอยู่ในสถานการณ์ขับขี่ทั่วไป
สมรรถนะที่มาพร้อมกับ Audi Q5 2018
นอกจากนี้ในส่วนของเครื่องยนต์ดีเซล มาพร้อมกับความแรงถึง 190 แรงม้า ล้อขนาด 8J x 19 พร้อมยางขนาด 23 235/55 R19 ส่วน Q5 45 TFSI quattro S line เครื่องยนต์เบนซินได้รับการออกแบบให้ทำงานร่วมกับระบบวาล์วแปรผัน (Audi Valvelift System) 252 แรงม้า
เรียกได้ว่า Volvo XC60 2018 และ Audi Q5 2018 นั้น ถือเป็นรถยนต์ SUV ที่ไม่ได้น้อยหน้ากันเลยแม้แต่นิดเดียว ด้วยการผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ตลอดจนการคำนึงถึงระบบความปลอดภัยทุกการขับขี่นี้เอง ที่ทำให้รถทั้งสองคันต่างก็เป็น SUV ระดับแนวหน้าเลยก็ว่าได้ ซึ่งไม่ว่าใครจะชอบรุ่นใดมากกว่ากัน ก็ต้องดูที่การใช้งานมากกว่า เพราะลักษณะการใช้งานของทุกคนนั้นย่อมต่างกัน รวมไปถึงการดูแลรักษารถยนต์ของตนเองด้วย
ดูเพิ่มเติม:
ใหม่ Audi Q8 ปี 2019 จัดทัพพร้อมเปิดศึกใหญ่กับสปอร์ต SUV อย่าง BMW X6
ฤกษ์ดีออกรถใหม่ประจำเดือน กันยายน 2561