Mitsubishi Triton Double Cab
ภายนอก Mitsubishi Triton Double Cab ให้ความโฉบเฉี่ยวผสานกับความทันสมัยได้อย่างลงตัวด้วยเส้นสายตัวถังดีไซน์ใหม่ล่าสุดเพิ่มความสปอร์ตในทุกตารางนิ้วเสริมด้วยการติดตั้งกระจังหน้าแบบโครเมี่ยมรมดำเข้มดุดันโดนใจนักขับเป็นอย่างยิ่ง ให้ความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นจากกันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถ ส่วนกันชนด้านล่างสีเงินพร้อมแผ่นกันกระแทกด้านล่าง ให้ทัศนวิสัยที่ดียิ่งขึ้นผ่านไฟหน้านวัตกรรมใหม่ล่าสุดแบบโปรเจคเตอร์ Bi-Xenon HID ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED Daytime Running Lights และ ไฟตัดหมอกบริเวณด้านหน้า และ คิ้วกันกระแทกประตูแบบโครเมี่ยม
กระจังหน้าแบบโครเมี่ยมรมดำ
จากการรีวิวเห็นว่า Mitsubishi Triton Double Cab ให้การปกป้องห้องโดยสารด้านในจากกระจกหน้ากรองแสงแบบนิรภัย เสริมด้วยที่ปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา มือเปิดประตูด้านนอกแบบโครเมี่ยม ส่วนกระจกมองข้างถูกเสริมให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วยกรอบโครเมี่ยมพร้อมไฟเลี้ยวในตัวปรับและพับได้ด้วยไฟฟ้า บริเวณฝากระโปรงหน้าติดกันแมลง ฝาปิดถังน้ำมันเป็นแบบ Fuel Lid Garnish พร้อมสติ๊กเกอร์คาร์บอนติดบริเวณเสาประตูกลาง
กันชนหลังดีไซน์ใหม่ล่าสุด
ในด้านหลัง Mitsubishi Triton Double Cab สร้างความดึงดูดใจได้ไม่แพ้กันด้วยไฟท้ายแบบสปอร์ตสุดโฉบเฉี่ยวพร้อมไฟเบรคดวงที่ 3 และ บันไดด้านข้างแบบ Side Steps มือเปิดกระบะท้ายแบบโครเมี่ยม ให้ความปลอดภัยในทุกการขับขี่ด้วยกันชนหลัง โป่งข้างล้อสีเดียวกับตัวรถ ยางกันโคลนหน้าและหลัง ส่วนช่วงล่างล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 245/65 R17
ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 245/65 R17
เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียระหว่าง Mitsubishi Triton กับ Nissan Navara
ภายในมิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ ได้รับการตกแต่งอย่างประณีตพร้อมเติมเต็มความสบายอย่างเต็มที่ให้ความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วยคอนโซลกลางตกแต่งแบบเปียโนแบล็คพร้อมแผงสวิตช์ควบคุมหน้าต่างแบบเปียโนแบล็ค กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน ให้ความสะดวกยิ่งขึ้นด้วยกระจกบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าด้านผู้โดยสาร และ ช่องเก็บแว่นตาเหนือศีรษะ เพิ่มความสว่างมากยิ่งขึ้นจากไฟห้องโดยสารและไฟอ่านแผนที่เสริมด้วยไฟเรืองแสงบริเวณช่องเสียบกุญแจ
ภายในห้องโดยสารเพิ่มขนาดให้กว้างมากขึ้น
Mitsubishi Triton Double Cab ได้รับการติดตั้งจอแสดงข้อมูลการขับขี่ใหม่ล่าสุดแบบ Multi Information Display พร้อมระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกปรับอุณหภูมิซ้ายขวา เสริมด้วยพวงมาลัย แร็ค แอนด์ พีเนียน แบบ 4 ก้าน ติดตั้งเพาเวอร์ผ่อนแรง ปรับระดับสูง-ต่ำ และ ปรับเข้า-ออก เสริมด้วยระบบการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ Paddle Shift รวมถึงยังได้รับการติดตั้งระบบล็อคความเร็วที่พวงมาลัยอีกด้วย
สวิตช์ควบคุมการสั่งงานด้วยเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
มิตซูบิชิ ไทรทัน โฉมนี้สร้างความสะดุดตามากยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง โดยเบาะนั่งในฝั่งคนขับสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ และ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ส่วนเบาะที่นั่งในตอนหลังได้รับการติดตั้งพนักพิงศีรษะทั้ง 3 ตำแหน่ง เสริมด้วยที่พักแขนบริเวณกลางเบาะหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ
เบาะโดยสารด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
Mitsubishi Triton Double Cab ให้ความบันเทิงในทุกทริปการท่องเที่ยวด้วยระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอระบบสัมผัสภายใต้เครื่องเสียงจาก 2 Din สร้างเสียงกระหึ่มผ่านลำโพงกว่า 4 จุด รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และ Apple Carplayระบบสังการผ่านเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์รวมถึงการเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายผ่านสัญญาณบลูทูธแบบ A2DP และ ช่องต่ออุปกรณ์ USB พร้อมระบบนำทาง Navigation System ให้ความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยสวิตช์ควบคุมวิทยุที่พวงมาลัย
ระบบความบันเทิงรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และ Apple Carplay
Mitsubishi Triton Double Cab มาพร้อมขุมพลังที่มีให้เลือกถึง 2 รูปแบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลรหัส 4D56 DOHC 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-3,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เฉพาะในรุ่น Double Cab 2WD
เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 128 แรงม้า
ส่วนในรุ่น Double Cab Plus และ Double Cab 4WD ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลรหัส 4N15 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Mivec เทอร์โบแปรผัน พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500 รอบ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และ เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อม Sport Mode
ระบบไมเวคเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากมิตซูบิชิ
ทั้งนี้เครื่องยนต์ Mivec Clean Diesel ที่ได้รับการติดตั้งในทั้ง 3 รุ่นนั้นได้รับการการันตีถึงการเผาไหม้ที่หมดจดพร้อมรักษาสิ่งแวดล้อม และ ลดมลพิษ อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบวาล์วแปรผัน Mivec ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดที่ดีขึ้นในรอบต่ำอีกทั้งยังได้แรงม้าเพิ่มมากขึ้นในรอบสูง ส่วนระบบ VG Turbo ในรถรุ่นนี้ก็ได้รับการดีไซน์ให้สร้างแรงอัดอากาศด้านไอดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ กอปรกับระบบกระเดื่องวาล์วที่มีน้ำหนักเบาแบบลูกปืนเข็มช่วยลดการเสียดสีและการสึกหรอระหว่างเพลาราวลิ้นกับวาล์วทำให้เครื่องยนต์เร่งได้อย่างไม่ติดขัด
สวิตช์ปรับโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ
มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ ให้การปกป้องในทุกการขับขี่อย่างถึงขีดสุดด้วยคานเหล็กนิรภัยบริเวณประตูด้านหน้า และ หลัง พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และ บริเวณหัวเข่าด้านคนขับรวมถึงม่านถุงลมนิรภัย เสริมด้วยการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยเบาะนั่งคู่หน้าแบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง ปรับระดับได้ ส่วนเข็มขัดนิรภัยเบาะหลังเป็นแบบ ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง และ จุดยึดเบาะเด็กแบบ Isofix 2 ตำแหน่ง ในเบาะนั่งแถวที่ 2
คานเหล็กนิรภัยบริเวณประตูด้านหน้า
Mitsubishi Triton Double Cab ยังได้รับการติดตั้งฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นพื้นฐานอีกมากมาย อาทิ ระบบล็อคป้องกันการเปิดประตูจากภายใน ระบบเบรกแบบ ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD ให้การเบรคทุกครั้งหยุดนิ่งสนิทด้วยระบบเสริมแรงเบรคแบบ BA และ ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรคแบบ BOS เสริมด้วยระบบล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อรถใช้ความเร็ว อีกทั้งยังให้การยึดเกาะพื้นผิวถนนได้ดียิ่งขึ้นด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมทั้งระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และ การลื่นไถลแบบ ASTC
กล้องมองภาพขณะถอยหลังพร้อมเส้นกะระยะ
นอกจากนี้แล้ว Mitsubishi Triton โฉมนี้ได้เพิ่มระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันแบบ HSA เสริมด้วยการคุ้มครองผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้นผ่านระบบกุญแจนิรภัยป้องกันการโจรกรรมแบบ Immobilizer ให้ทัศนวิสัยที่ดีมากยิ่งขึ้นจากกล้องมองภาพขณะถอยหลังพร้อมเส้นกะระยะรวมถึงระบบไล่ฝ้ากระจกหลังตัดการทำงานแบบอัตโนมัติ พร้อมให้การปกป้องเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ด้วยระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติในขณะเบรกกะทันหัน
ระบบล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อรถใช้ความเร็ว
สำหรับผู้ที่สนใจ Mitsubishi Triton Double Cab รถกระบะที่มากับนวัตกรรมเครื่องยนต์ดีเซลแบบใหม่ ไมเวค วีจี เทอร์โบ อลูมินัม อัลลอย บล็อก ให้คุณสมบัติทนทานแข็งแกร่งอีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาสร้างอัตราเร่งได้เป็นอย่างดีแต่ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 15.2 กม./ลิตร ในราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 712,000 บาท ซึ่งไม่สูงมากนักพร้อมทางเลือกระบบขับเคลื่อนที่มีให้ทั้งแบบ 2WD และ 4WD พร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยในระดับพรีเมี่ยมที่มิตซูบิชิติดตั้งมาในรถยนต์รุ่นนี้ถือว่ามีความคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายเลยทีเดียว
ดูเพิ่มเติม: