รีวิว Nissan Terra 2018 PPV ใหม่น่าขับที่จะเข้ามาทำให้ตลาด ลุกเป็นไฟ!
แม้ X-Trail จะเป็นตัวเลือกเด่นของอารมณ์ความเป็น SUV เดิมอยู่แล้วก็ตามของ Nissan แต่เพื่อความสมบูรณ์ ลดช่องโหว่ในตลาด อีกทั้งความเป็นไปได้ของตลาดรถกลุ่ม PPV หรือกระบะดัดแปลงที่ราคาเกินล้านนี้ ยังไปได้สวยในหลายๆ ค่าย เรื่องอะไรที่ Nissan จะไม่ฉกฉวก ร่วมคว้าโอกาสชิงส่วนแบ่งการตลาดนั้นมาด้วย และ Nissan Terra นี้ถือเป็นอาวุธหนักชิ้นใหม่ที่จะเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดกับรถหลายๆ รุ่น ไม่ว่าจะเป็น Toyota Fortuner, Mitsubishi Pajero, Ford Everest หรือแม้กระทั้ง Isuzu Mu-X
ไล่ไปตั้งแต่ภาพหลุดที่ก่อนหน้าออกมาตั้งแต่ช่วงปีที่แล้ว พร้อมกับเปิดตัวขายที่จีนไปก่อนใครในช่วงเดือนเมษายน จนถึงล่าสุดเข้ามาโซนเอเชียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ฟิลิปปินส์ถูกเลือกให้เปิดตัวเป็นประเทศแรกเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม และสถานีต่อไปคือ “ประเทศไทย” ช่วงกลางเดือนสิงหาคม ซึ่งจะถูกผลิตเพื่อจำหน่าย รวมไปถึงยังเป็นฐานการผลิตส่งออกไปยังฟิลิปปินส์อีกด้วย
Tarra ถูกผลิตในขึ้นที่โรงงานในไทย และส่งไปขายที่ฟิลิปปินส์ ก่อนเปิดตัวในไทยเสียอีก
จากจุดเริ่มต้นแรกเริ่มที่ทำออกมาเพื่อเอาใจตลาดจีน สู่ความเป็นไปได้ในหลายประเทศที่ความนิยมรถประเภท PPV นี้มีสูง ทั้งปฟิลิปปินส์และไทย จึงได้รับมาซึ่งโอกาสทำตลาดในประเทศนั้นๆ และอะไรบ้างที่น่าสนใจของ PPV ที่ดัดแปลงมาจากกระบะ Navara ใน Nissan Terra 2018 เราไปดูรายละเอียดพร้อมๆ กันได้เลย
*ข้อมูลเวอร์ชั่นจำหน่ายที่ไทย อาจมีการเปลี่ยนแปลงบางส่วน ไม่ตรงจากที่รายงานได้
การเป็นรถ PPV ไม่ใช่แค่การเอาหลังคามาคอบส่วนของกระบะท้าย โต้งๆ และทำให้ความสวยที่มีอยู่เดิมจากในเวอร์ชั่นกระบะหมดไป ซึ่งความงามในเวอร์ชั่น PPV ของ Navara ที่แสดงออกมาจาก Terra นั้น ภายนอกถูกสานต่อความงามได้อย่างลงตัว ที่นิยามการออกแบบรอบคันดูดีเป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว ขนาดยังถูก Meredes-Benz ไปต่อยอดทำเป็นกระบะของค่ายตัวเองในรุ่น X-Class จนมาถึง Nissan Terrra คันนี้ แค่มองไม่นานก็รู้ได้ทันทีว่ามามีพื้นฐานจาก Navara ความแตกต่างมีเล็กน้อย แต่ไม่ได้เปลี่ยนอารมณ์ที่สื่อออกมานัก กับส่วนของกระจังแบบโครมเมี่ยมทรง V-Motion พร้อมไฟหน้า Projector Lens แบบ LED มีไฟวิ่งกลางวันมาพร้อม และกันชนทรงใหม่ ที่ถูกเพิ่มลูกเล่นขึ้นเล็กน้อย กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถพร้อมไฟเลี้ยว มือจับเปิดประตูเป็นโครเมี่ยม เมื่อมองที่เส้นสายด้านข้าง ตัวรถทำออกมาได้ลงตัวกับส่วนที่เพิ่มขึ้นมาด้านหลัง พร้อมบันไดก้าวขึ้นที่เงิน ส่วนไฟท้ายจะเป็นแนวนอนแบบ LED Light Guiding ต่างกับเวอร์ชั่นกระบะ ซึ่ง Terra ทำออกมาได้ดีเข้ากับตัวรถมากๆ ล้อที่ใช้เป็นขนาด 18 นิ้วสองสีผสม ดำและปัดเงาสีเงิน
ภายนอกต่อยอดมาจาก Navara ได้อย่างลงตัว
มิติตัวรถ :
ส่วนของภายใน ดีไซน์การออกแบบไม่แตกต่างจากเวอร์ชั่นกระบะ เพียงแต่การตกแต่งที่วัสดุถูกทำให้ดูดีขึ้น น่ามองน่าสัมผัส กับโทนการตกแต่งหลักที่ใช้เป็นสีดำกับสีน้ำตาล และมีสีดำ Gloss Black และเงินเมทัลลิกผสมตัดบ้างในบางจุด ด้านหลังมีแอร์ทั้งส่วนบริเวณคอนโซลกลางสำหรับเบาะแถวสอง และบนเพดานเย็นฉ่ำอย่างทั่วถึงที่เบาะแถว 3 ตัวเบาะมาแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่สามารถปรับรูปแบบตามการใช้งานได้หลากหลาย
ดูดีพรีเมี่ยมขึ้นเพื่อให้สมกับความพร้อมที่จะลุยในตลาดรถ PPV ของไทย
รวมทั้งยังให้หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี TFT ที่แสดงข้อมูลของตัวรถส่วนต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน เช่น แสดงข้อมูลอัตราสิ้นเปลือง, แสดงแรงดันลมยาง, แสดงข้อมูลระบบขับเคลื่อน, แสดงข้อมูลการขับขี่ Off-Road และระบบช่วยเหลือการขับขี่ หรือในแง่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างก็มีมาให้ครบ ทั้งแอร์อัตโนมัติแบบ Dual-Zone, ระบบ Infotainment หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วรองรับได้ทุกการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Bluetooth และพวงมาลัยมาแบบมีปุ่มกดมัลติฟังก์ชั่น
รีวิวข้อดีข้อเสีย All New Toyota CH-R 2018 คุ้มค่าไหมที่จะซื้อ !
ใน Nissan Terra จะมากับเครื่องยนต์ดีเซล รหัส YD25DDTi แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.5L Commonrail พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGS ทำงานร่วมกับอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังม้าสูงสุดอยู่ที่ 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 450 Nm จับคู่ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 7 Speed พร้อม Manual Mode มาให้เลือกใช้งานได้
เครื่องยนต์รหัส YD25DDTi กับเกียร์อัตโนมัติทดให้กว่า 7 Speed พร้อม Manual Mode
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นแบบ Part-Time มาพร้อมระบบล็อคเฟืองท้าย Rear Diff-lock รวมถึงอีกจุดแตกต่างกับเวอร์ชั่นกระบะ Navara คือช่วงล่างด้านหลังที่ใช้เป็นแบบ คอยล์สปริง Five-Link Suspension เพื่อช่วยเพิ่มความนุ่มนวลได้อีกระดับ ระบบเบรกที่ให้มาจะเป็นดิสก์เบรกที่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นแบบดรัมเบรก
ช่วงล่างด้านหลังที่ใช้เป็นแบบ คอยล์สปริง Five-Link Suspension
เทคนิคการรับมือกับ ความร้อนของเครื่องยนต์รถยนต์
ในส่วนของเรื่องความปลอดภัย Nissan Terra กับที่ให้มานั้นถือว่าไม่ธรรมดาเลย นอกจากโดดเด่นตามสมัยนิยมในเรื่องจำนวนถุงลมที่ให้มาถึง 7 ตำแหน่งแล้ว ยังมีเรื่องของระบบ Active Safety และอุปกรณ์ความปลอดภัยใหม่น่าสนใจที่รถ PPV ในไทยยังไม่เคยมีมาก่อน ทั้งระบบตรวจจับวัตถุและบุคคลรอบคัน Moving Object Detection (MOD) หรือจะเป็น กระจกมองหลังแบบใช้กล้องแสดงภาพ Intelligent Rear View Mirror (i-RVM) เป็นอาทิ ซึ่ง Nissan Terra ถูกนำมาใช้เป็นรุ่นแรกของไทย รวมไปถึงระบบความปลอดภัยอื่นๆ ที่อยู่ในระบบรถเกินล้านทั้งหลายควรมี Nissan Terra ก็จัดเต็มมาให้ครบด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น..
ระบบความปลอดภัยใน Terra น่าสนใจหลายอย่าง ซึ่งไม่เคยมีรถ PPV ในไทยมาก่อน
และนี่คือรีวิวทั้งหมดของความเป็น Nissan Terra ว่าที่ PPV น้องใหม่ในตลาดรถเมืองไทย โดยราคาขายอย่างเป็นทางการของเวอร์ชั่นไทย ยังไม่มีการเผยออกมา มีแต่ราคาขายที่ฟิลิปปินส์จะอยู่ระหว่าง 91x,xxx ถึง 1,28x,xxx บาท (ราคายังไม่รวมภาษีของไทย) ซึ่ง Nissan Terra 2018 คันนี้ น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่นของคนที่กำลังมองหารถหลากอารมณ์ที่รวมไว้ในคันเดียว ทั้งวิ่งในเมืองก็ดูดี จะให้ลุยก็ไม่ขัด จัดให้ได้ทุกสถานการณ์การใช้งาน
รอราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ น่าจะสร้างความน่าสนใจให้คนที่กำลังมองหา PPV สักคันได้ไม่น้อย
แล้วคุณละ ชอบอะไรในความเป็น Nissan Terra 2018 คันนี้บ้าง และเพราะอะไร บอกกับเรา Khaorot ให้ได้รู้กันสักหน่อยได้คอมเม้นท์ด้านล่างนี้ได้เลย
ดูเพิ่มเติม:
BMW X1 2018 Diesel ดีไหม?
“มองโลกให้สนุกทุกเส้นทาง” กับ รีวิว ALL NEW MG3 2018 ด้วยรูปทรงและความทันสมัยเอาใจวัยรุ่น!!