รีวิว Nissan March 2018 อีโคคาร์รุ่นบุกเบิก แต่น่าซื้อกับราคาที่เป็นมิตร
Sub-Compact Hatchback ที่ถูกทำตลาดเป็นโมเดลแรกและถูกลากยาวมาจนถึงปัจจุบันขณะปี 2018 ตั้งแต่ที่มีการเผยโฉมให้คนไทยได้สัมผัสครั้งแรกเมื่อปี 2010 ก็รวมกว่า 8 ปีที่โฉมนี้ทำหน้าที่เป็นหนึ่งในตัวเลือกรถประเภทอีโคคาร์ร่วมกับรุ่นอื่น ๆ ของค่าย ทั้งในเวอร์ชั่นซีดานดีเด่นในเรื่องขนาดตัวย่าง Nissan Almera หรือว่าจะเป็นรุ่นล่าสุดที่ตอนแรกหลายฝ่ายคิดว่าจะมาเป็นตัวตายตัวแทนของ March อย่าง Nissan Note แต่ทาง Nissan ได้วาง Note ไว้เพื่อเป็นอีกทางเลือกกับคำนิยามติดป้ายมาว่า “พรีเมี่ยมอีโค่คาร์” อ๊อพชั่นอุปกรณ์ให้มาแน่นกว่าและราคาก็แพงกว่าเช่นกันด้วย ซึ่งทาง Nissan ก็ยังคง March ไว้ไม่ยกเลิกการจำหน่ายเพื่อเป็นทางเลือกง่ายสุดสำหรับคนที่มองหารถน่าใช้ที่ราคาไม่สูงนัก แต่มีการตัดทอนรุ่นย่อยน้อยลงจากก่อนหน้า
เรียงลำดับไทม์ไลน์การไมเนอร์เชนจ์ของ Nissan March ในไทยมีดังต่อไปนี้
เปิดตัวครั้งแรก 2010
กับรุ่นย่อย 6 รุ่น S MT, E MT, E CV, EL CVT, V CVT,VL CVT ราคาระหว่างตั้งแต่ 375,000-537,000 บาท
ปรับขึ้นราคาปี 2011
รุ่นย่อยคงเดิมเพิ่มเติมคือปรับราคาสูงขึ้นทุกรุ่นย่อย 5,000 บาท ราคาตั้งแต่ 380,000-542,000 บาท
ไมเนอร์เชนจ์ปี 2013
6 รุ่นย่อยเช่นเดิมอัพเดทหน้ารุ่นย่อย S MT, E MT, E CV, EL CVT, V CVT, VL CVT
ปรับขึ้นราคามาอยู่ที่ตั้งแต่ 380,000-555,000 บาท
เปิดตัวรุ่นพิเศษ Limited Edition ปี 2014
รุ่น 1.2 E MT Limited Edition - 456,000 บาท
รุ่น 1.2 E CVT Limited Edition - 490,000 บาท
รุ่น 1.2 EL CVT Limited Edition - 518,000 บาท
March Limited Edition ปี 2014 ที่ดูหรูหราที่สุดจาก March
ไมเนอร์เชนจ์ปี 2015
ปรับลดรุ่นย่อยมาเหลือแค่ 3 รุ่น EL, V, และ VL ราคาเริ่มต้นกระโดดขึ้นอยู่ที่ 518,500 บาท
จะเห็นว่าแม้โฉมจะถูกดึงใช้มานานตั้งแต่ปี 2010 แต่ March ก็ยังมีการอัพเดทรายละเอียดของอุปกรณ์ของตัวรถอย่างต่อเนื่องให้ทันยุคทันสมัยอยู่เสมอ พร้อมกับราคาเริ่มต้นที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดปีนี้ก็มีการเปิดตัวรุ่นปรับปรุงอีกครั้ง เพิ่มความสดใสกับทางเลือกของสีตัวถังใหม่และราคาเริ่มต้นที่ถูกลงจับต้องได้ง่ายขึ้นออกมาให้เลือก
โดยราคาขายของ Nissan March 2018 ในแต่ละรุ่นย่อย มีให้เลือกดังต่อไปนี้
รุ่น 1.2 S MT 420,000 บาท
รุ่น 1.2 E MT 479,000 บาท
รุ่น 1.2 E CVT 493,000 บาท
รุ่น 1.2 EL CVT 526,500 บาท
ความเปลี่ยนแปลงทั้งในเรื่องตัวเลขราคาที่ปรับขึ้น ไปจนถึงรายละเอียดต่าง ๆ ของอ๊อพชั่นการใช้งาน Nissan March ตอนนี้ปี 2018 จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูรีวิวโดยละเอียดทั้งภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ และระบบความปลอดภัยกันได้เลย
เพื่อหวังตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ลงตัวตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน Nissan March คือหนึ่งคันที่เป็นคำตอบได้กับทุกคน ความใหม่ลงตัวในอุปกรณ์ภายนอกที่ถูกปรับเพิ่มขึ้นมาช่วยพยุงทำให้รถรุ่นนี้ไม่รู้สึกว่าเก่ามากนัก กระจังหน้าทรง V-Shape ถูกนำมาใช้คาดที่นอกจากเพื่อบ่งบอกถึงความเป็นรถจาก Nissan แล้วยังช่วยให้รถดูใหม่ไม่ตกยุคอีกด้วย แม้ตัวโมเดลจะถูกใช้เพื่อวางจำหน่ายมาอย่างยาวนานก็ตาม การเข้ามาของไฟหน้าใหม่แบบ “ทูโทน” บวกโครเมียมภายในโคมและเพิ่มไฟวิ่งกลางวัน Daytime Running แบบไดมอนด์บริเวณด้านล่างที่จุดบริเวณไฟตัดหมอกเป็นทรงโค้งรับกับช่องลมกันชนช่วยทำให้รถดูดียิ่งขึ้น ไฟหลังให้มาเป็นแบบ LED สวยทันยุค กันชนหน้า-หลังออกแบบใหม่สื่ออารมณ์ถึงความ Minimal ลดเส้นตัดเส้นโค้งที่ด้านหน้าเรียบแต่ดูดี ไม่มากแต่ดูน่าสนใจ ด้านหลังกันชนถูกเพิ่มลูกเล่นนิดหน่อยเพิ่มความปราดเปรียว โดยล้อที่ให้มาจะเป็นล้อเหล็กทุกรุ่นย่อยขนาด 14 นิ้วรัดด้วยยางขนาด 165/70/14
ภายนอกปรุงแต่งนิดหน่อยที่รายละเอียด แต่ไม่ต่างจาก March ที่เปิดตัวตั้งแต่เมื่อปี 2010 มากนัก
มิติตัวรถ :
รีวิว Nissan Terra 2018 PPV ใหม่น่าขับที่จะเข้ามาทำให้ตลาด ลุกเป็นไฟ!
การปรับปรุงที่ภายในของ Nissan March 2018 ดีไซน์ไม่ต่างจากเมื่อแรกเริ่มเปิดตัว มาพร้อมกับโทนสีที่ใช้ตกแต่งเป็นสีดำ ตัดด้วยสีเงินเล็กน้อยที่แผงแดชบอร์ดหน้า พวงมาลัยยูรีเทนปรับสูง-ต่ำได้ ระบบเครื่องเสียงให้มารองรับทั้ง CD, MP3 น่าเสียดายที่ยังไม่ใช่แบบหน้าจอสัมผัส แต่ยังครบทุกการเชื่อมต่อทันยุคจาก Smart Phone ไม่ว่าจะเป็น USB, AUX เติมเต็มทุกการบันเทิงตลอดเส้นทางการเดินทาง เบาะที่ให้มาเป็นเบาะผ้าสีดำพร้อมลวดลายกราฟฟิกตรงกลาง เบาะแถวหลังเป็นแบบแยกปรับพับได้เพื่อเอื้อในเรื่องการเก็บสัมภาระที่แม้ภายนอกของ March จะดูเล็ก ๆ แต่เรื่องความจุของภายใน ก็ไม่แพ้รุ่นอื่นที่ทรงรถดูใหญ่กว่าเหมือนกัน
ภายในได้ต่อเนื่องอารมณ์จากภายนอกได้ดี เน้นส่วนโค้งว้าวที่ลงตัวกับความเป็น March
อุปกรณ์ภายในที่น่าสนใจใน Nissan March 2018
รีวิว 10 ลำดับรถยนต์ Eco Car ที่น่าซื้อมากที่สุดในปี 2018
เครื่องยนต์ของ March ณ รุ่นปัจจุบันเป็นเครื่องยนต์ที่ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดตัวของ March เป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.2L รหัส HR12DE เบนซิน 3 สูบแถวเรียง DOHC 12 วาล์ว พร้อมหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์มัลติพอยท์ ECCS แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 79 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 106 Nm ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC แบบ CVT พร้อมระบบเกียร์ Sub-Planetary และยังมีแบบเกียร์ธรรมดา 5 Speed ให้เลือกด้วยสำหรับรุ่นย่อยรองลงมา
เครื่องยนต์ 3 สูบสุดประหยัดที่เพียงพอกับการใช้งานทั่วไปได้
รายละเอียดด้านสมรรถนะของ Nissan March 2018
แม้จะเป็นรถรุ่นราคาเริ่มต้นไม่สูงมาก แต่เงื่อนไขในความปลอดภัยของรถรุ่นนี้ก็มีดีพอที่จะเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์ได้ ทั้งเรื่องโครงสร้างนิรภัย Zone Body ถุงลมที่ให้มาคู่หน้าและระบบช่วยในการขับขี่ปลอดภัยก็ให้มาครบทั้งระบบเบรกกันล้อล็อค ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบเสริมแรงเบรก BA เรียกได้ว่า March นั้นให้ความปลอดภัยพื้นฐานให้มาครบที่รถยุคนี้ควรมีไม่ขี้เหร่เลยกับราคาที่ทำออกมาในแต่ละรุ่นย่อย
ถุงลมคู่หน้าและเซ็นเซอร์ถอยหลัง ช่วยให้การขับขี่มั่นใจยิ่งขึ้น
Nissan March 2018 เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับใครที่มองหารถราคาเริ่มต้นไม่สูงนัก เป็นเจ้าของได้ง่ายด้วยราคา 420,000 บาทแต่ก็อาจตัดไปซึ่งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยหลาย ๆ อย่าง เน้นเพียงแค่ให้ได้รถที่บอดี้น่ารักน่าชัง กะทัดรัด ขับใช้งานไปไหนมาไหนสะดวกที่ไม่ได้เน้นในเรื่องความเร็วนัก March คันนี้ก็พอไหว แม้จะมองที่รุ่นท็อปสุดราคา 52X,XXX บาท ก็ยังประหยัดกว่าอีโคคาร์รุ่นหัวหลายรุ่นที่ตอนนี้ทะลุไปเกิน 6 แสนหมดแล้ว
March ช่วยประหยัดให้คุณได้ถ้าต้องการรถที่ราคาไม่สูงแต่คุณภาพดีเริ่มที่ราคา 420,000 บาท
ใช่ที่ March เป็นอีโคคาร์รุ่นแรกจะเปิดตัวไมเนอร์เชนจ์นับครั้งไม่ถ้วน ฟังก์ชั่นที่เพิ่มมาอาจจะไม่เพียบพร้อมเท่ารถรุ่นใหม่ ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาไม่นาน แต่ถ้ามองแค่ในแง่พื้นฐานในการใช้งานจริง ๆ March ก็ตอบโจทย์ได้ครบ เน้นประหยัดทั้งราคาซื้อไม่ต้องเป็นหนี้เยอะและกินน้ำมันไม่มาก เน้นถูกแต่ได้ตัวรถมาซึ่งความเป็นเก๋งที่เน้นใช้งานขับขี่คล่องตัว Nissan March คือคำตอบที่ดีสำหรับใครที่มีเงื่อนไขการซื้อรถเป็นไปตามที่กล่าวมาเบื้องต้น
แล้วคุณละชอบ Nissan March ตรงไหนและเพราะอะไร บอกกับเรา Khaorot ให้รู้หน่อยที่คอมเม้นท์ด้านล่างนี้ได้เลย
ดูเพิ่มเติม:
รีวิวรถยนต์ Honda Jazz และข้อดี ข้อเสีย ที่ผู้ใช้บอกกล่าว !!
เรื่องที่ต้องรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์คันใหม่