รถยนต์ Nissan Almera Sportech 2018
Nissan Almera Sportech ได้รับการตกแต่งภายนอกอย่างเหนือระดับพร้อมเส้นสายที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตโดนใจแฝงไว้ด้วยความล้ำสมัยในสไตล์รถอีโค คาร์ 4 ประตูให้ความคล่องตัวอย่างดีเยี่ยม ผสานกับการติดตั้งกระจังหน้าแบบโครเมี่ยมรมดำกอปรกับไฟหน้าแบบฮาโลเจนตกแต่งภายในด้วยสีโครเมี่ยมรมดำพร้อมติดตั้งไฟเลี้ยวด้านข้าง เสริมด้วยการติดตั้งกันชนหน้าแบบสปอร์ต รวมถึงช่องระบายอากาศขนาดใหญ่เหนือกันชนหน้า
ด้านหลังติดตั้งสัญลักษณ์ Sportech
อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ DRL (Daytime Running Lights) ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา และ มือจับประตูด้านนอกแบบโครเมี่ยม เพิ่มความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวด้วยกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถสามารถปรับและพับได้ด้วยไฟฟ้า สร้างความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วยสเกิร์ตด้านข้าง และ ด้านหลังดีไซน์พิเศษให้ความโฉบเฉี่ยวได้อย่างลงตัว
ด้านหลังติดตั้งสปอยเลอร์ทรงสปอร์ต
ส่วนด้านหลังได้รับการติดตั้งสัญลักษณ์ Sportech ในด้านท้ายรถ พร้อมปลอกปลายท่อไอเสียแบบโครเมี่ยม อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งสปอยเลอร์ทรงสปอร์ตช่วงล่างได้รับการติดตั้งล้ออัลลอยรมดำดีไซน์พิเศษขนาด 15 นิ้ว 185/65 R15 สำหรับมิติตัวรถ Nissan Almera Sportech มีความกว้าง 1,500 มิลลิเมตร ความสูง 2,600 มิลลิเมตร ความยาว 1,695 มิลลิเมตร น้ำหนักรถโดยรวม 1,046 กิโลกรัม โดยมีความจุห้องสัมภาระด้านท้ายอยู่ที่ 490 ลิตร
ล้ออัลลอยรมดำดีไซน์พิเศษขนาด 15 นิ้ว
เปรียบเทียบ Nissan Almera และ Honda City
Nissan Almera Sportech ได้รับการดีไซน์เพิ่มความกว้างของฐานล้อที่มีความยาวสูงสุดถึง 2,600 มิลลิเมตร ผลักดันให้มีขนาดห้องโดยสารที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้นผสานกับการตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยโทนสีดำ พร้อมวัสดุแต่งภายในสีเงิน รวมไปถึงวัสดุตกแต่งแผงประตูตกแต่งด้วยผ้าและวัสดุสีเงิน เสริมด้วยมือจับประตูสีดำ พร้อมชุดคิ้วบันไดสเตนเลส สร้างความประทับใจด้วยเบาะนั่งหุ้มผ้าแบบสปอร์ตเย็บเก็บตะเข็บด้วยด้ายสีแดง เบาะนั่งคนขับเลื่อนหน้า-หลังและปรับเอนได้ พร้อมพนักพิงศีรษะสำหรับที่นั่งด้านหน้า และ ด้านหลัง รวมถึงพนักวางแขนเบาะหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ
โปรโมชั่นพิเศษ The All-New NISSAN NOTE ที่พร้อมจะเปลี่ยนชีวิตบนโลกสมัยใหม่ให้เป็นเรื่องง่ายๆ
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีดำ
Nissan Almera Sportech ได้รับการติดตั้งพวงมาลัยหุ้มหนังปรับระดับสูง-ต่ำได้พร้อมตกแต่งด้วยแถบสีเงิน เสริมด้วยหัวเกียร์แบบยูรีเทน เพิ่มความสะดวกด้วยกระจกไฟฟ้ารอบคันพร้อมระบบป้องกันการหนีบด้านคนขับ และ ระบบเซ็นทรัลล็อค อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบกุญแจอัจฉริยะ Intelligent Key พร้อมระบบ Immobilizer , Panic Alarm รวมไปถึงปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์อัตโนมัติ Push Start
พวงมาลัยแร็ค แอนด์ พิเนียนหุ้มหนังปรับระดับสูง-ต่ำได้
นอกจากนี้แล้ว Nissan Almera Sportech ยังได้รับการมาตรวัดอัจฉริยะแบบสี MID และ นาฬิกาดิจิตอลบนหน้าปัด พร้อมเสียงสัญญาณเตือนลืมปิดไฟหน้า และ ระบบเตือนลืมกุญแจ เสริมด้วยที่บังแดดด้านหน้ารถพร้อมกระจกแต่งหน้าและที่เสียบการ์ดด้านคนขับ อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งไฟห้องโดยสาร และ ไฟอ่านแผนที่ด้านท้าย รวมไปถึงระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อมตกแต่งวัสดุสีดำเปียโนแบล็ค
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
Nissan Almera Sportech ให้ความบันเทิงผ่านระบบอินโฟเทนเมนท์บนจอภาพระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ให้เสียงกระหึ่มผ่านลำโพงกว่า 4 ตำแหน่ง พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX เชื่อมต่อข้อมูลไร้สายผ่านสัญญาณบลูทูธ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนรองรับ Apple Carplay พร้อมระบบควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย รวมถึงระบบนำทาง Navigation System ผ่านแอพลิเคชั่นสมาร์ทโฟน
มาตรวัดอัจฉริยะแบบสี MID
Nissan Almera Sportech 2018 พร้อมเติมเต็มทุกอัตราการเร่งผ่านขุมพลังเครื่องยนต์ HR12DE แบบ 3 สูบแถวเรียง DOHC 12V CVTC ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที มีคุณสมบัติช่วยลดแรงเสียดทานน้ำหนักเบา อัตราเร่งดีให้แรงบิดสูงในรอบเครื่องยนต์ต่ำอีกทั้งยังประหยัดน้ำมัน โดยมีความจุถังเชื้อเพลิง 41 ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ Xtronic CVT
เครื่องยนต์ HR12DE แบบ 3 สูบแถวเรียง DOHC 12V CVTC ขนาด 1.2 ลิตร
Nissan Almera Sportech ถูกออกให้เครื่องยนต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมลดปริมาณการปล่อยไอเสีย (CO2) ไม่เกิน 120 กรัม/กิโลเมตร เทียบเท่าระดับมาตรฐาน Euro4 ส่วนระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ Xtronic CVT พร้อมระบบเกียร์ Sub-Planetary ช่วยให้ผู้ขับขี่ขับเคลื่อนรถได้อย่างนุ่มนวลโดยไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนเกียร์ เพิ่มอัตราการทดเกียร์ที่กว้างกว่าจึงให้แรงบิดสูงในช่วงต้นตอบสนองไวให้อัตราเร่งดีอีกทั้งยังมีความแม่นยำสูงอีกด้วย
ระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ Xtronic CVT
นอกจากนี้แล้ว Nissan Almera Sportech 2018 ยังได้รับการติดตั้งระบบ Idling Stop ที่ถือเป็นเทคโนโลยีช่วยในการประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยไอเสีย โดยระบบจะทำการตัดการทำงานของเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติเมื่อรถอยู่ในสภาพจอดสนิท ทั้งนี้คอมเพรสเซอร์แอร์จะหยุดการทำงานลงแต่ระบบไฟฟ้าส่วนอื่นของรถยังคงทำงานอยู่ตามปกติและจะสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่เมื่อต้องการขับเคลื่อนต่อไป หรือ เมื่อรถจอดนิ่งสนิทเกินระยะเวลา 3 นาที
ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ Push Start
กุญแจอัจฉริยะ Intelligent Key พร้อมระบบ Immobilizer
ทางด้านระบบความปลอดภัยใน Nissan Almera Sportech พร้อมให้การปกป้องอย่างเต็มที่ด้วยถุงลมนิรภัยแบบ SRS คู่หน้า พร้อมด้วยเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ ELR 3 จุด และ เข็มขัดนิรภัยที่นั่งด้านหลังแบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง และ 2 จุด 1 ตำแหน่ง พร้อมระบบเบรคป้องกันล้อล็อคแบบ ABS ที่ทำงานผสานกับระบบกระจายแรงเบรคแบบ EBD รวมไปถึงระบบเสริมแรงเบรคแบบ BA และ ไฟเบรคดวงที่ 3 แบบ LED
อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งดิสก์เบรกด้านหน้าแบบมีครีบระบายความร้อน และ ในด้านหลังติดตั้งดรัมเบรก เสริมด้วยระบบพวงมาลัยแร็ค แอนด์ พิเนียน พร้อมระบบพาวเวอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า EPS
ระบบนำทาง Navigation System
นอกจากนี้แล้วนิสสัน อัลเมร่า Sportech ยังพร้อมให้ความปลอดภัยอย่างเต็มที่ผ่านฟีเจอร์พื้นฐานครบครัน อาทิ ระบบโครงสร้างเพื่อความปลอดภัย Zone Body Concept อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งประตูหลังให้มีระบบป้องกันเด็กเปิดจากภายในรถ ให้ทัศนะวิสัยในการถอยหลังได้ดียิ่งขึ้นผ่านกล้องมองภาพขณะถอยหลัง พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง 3 จุด ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีมพร้อมด้วยเหล็กกันโคลง
กล้องมองภาพขณะถอยหลังพร้อมเซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง 3 จุด
รีวิว 10 ลำดับรถยนต์ Eco Car ที่น่าซื้อมากที่สุดในปี 2018
สำหรับผู้ที่สนใจ Nissan Almera Sportech 2018 ยอดรถอีโค คาร์สุดประหยัดที่พ่วงท้ายมาด้วยระบบ Idling Stop ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ลดการสิ้นเปลืองน้ำมันลงได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมรูปลักษณ์ภายนอกสปอร์ตโฉบเฉี่ยวโดนใจนักขับผู้ชื่นชอบความคล่องตัวผสานกับฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกภายในที่ติดตั้งมาอย่างครบครัน นอกจากนี้แล้วนิสสันยังเพิ่มขุมพลังเครื่องยนต์ HR12DE แบบ 3 สูบแถวเรียง DOHC 12V CVTC ขนาด 1.2 ลิตร ที่สามารถให้กำลังสูงสุดได้ถึง 79 แรงม้า ในราคาเริ่มต้นเพียง 537,000 บาท สำหรับรุ่น 1.2 E Sportech ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว
ดูเพิ่มเติม: