เตรียมเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการสำหรับ Mitsubishi Xpander รุ่นใหม่ล่าสุด 2018 ให้ความสปอร์ตในทุกทริปการท่องเที่ยว ผสานกับการนำเสนอเส้นสายภายนอกที่ให้ความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นในร่าง Crossover MPV ไซส์มินิ ซึ่งในปัจจุบันมิตซูบิชิ แอ็กซ์แพนเดอร์รุ่นผลิตเพื่อทำตลาดในย่านอาเซียนมิตซูบิชิได้เพิ่มทางเลือกรุ่นย่อยเอาไว้มากมายถึง 4 รุ่น โดยแบ่งออกเป็นรุ่นเกียร์อัตโนมัติจำนวน 3 รุ่น และ รุ่นเกียร์ธรรมดาจำนวน 1 รุ่น ดังนี้ GLS Sport , GLS , GLX Plus และ GLX (MT) ส่วนรุ่นจำหน่ายในไทยคาดว่าจะไม่มีรุ่นเกียร์ธรรมดา
ทางด้านราคาจำหน่าย Mitsubishi Xpander 2018 รุ่นผลิตจำหน่ายในประเทศไทยนั้นคาดการณ์กันว่ามีราคาจำหน่ายโดยประมาณอยู่ที่ 543,000-663,000 บาท พร้อมเฉดสีตัวถังที่มีให้เลือกสรรอย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น สีแดง Red Metallic , สีขาวมุก Quartz White Pearl , สีดำ Diamond Black Mica , สีเทา Titanium Grey และ สีเงิน Sterling Silver Metallic พร้อมการเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารให้มากยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่ง 3 แถว จำนวน 7 ที่นั่ง
Mitsubishi Xpander 2018 รุ่นเตรียมทำตลาดในไทยได้รับการออกแบบภายนอกให้ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวแต่แฝงไว้ด้วยความทันสมัยมากยิ่งขึ้นในร่าง MPV ไซส์มินิให้ความโดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบโครเมี่ยม Triple-Slat ไฟหน้าแบบ LED ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED Daytime Running Light พร้อมไฟตัดหมอกรวมถึงไฟหรี่ กระจกมองข้างสีโครเมี่ยมพร้อมไฟเลี้ยวในตัวปรับและพับได้ด้วยไฟฟ้า เสริมด้วยการออกแบบเส้นสายรอบคันที่ให้ความรู้สึกทรงพลังอีกทั้งยังเชื้อเชิญให้ขับขี่พร้อมสะกดสายตาทุกคู่ให้หยุดนิ่งเมื่อพบเห็น
Mitsubishi Xpander 2018
ส่วนในด้านหลัง Mitsubishi Xpander 2018 รุ่นเตรียมทำตลาดในไทยมีการปรับแต่งให้สะดุดตาไม่แพ้ด้านหน้าด้วยไฟท้าย และ ไฟหรี่แบบ LED L-Shape เสริมด้วยสัญญาณเตือนรถด้านหลังเมื่อทำการเบรกจากไฟเบรกดวงที่ 3 ให้ทัศนวิสัยที่ดียิ่งขึ้นเมื่อฝนตกด้วยที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง พิเศษมากยิ่งขึ้นด้วยการติดตั้งสปอยเลอร์ทรงสปอร์ตแบบใหม่ล่าสุด และ มือเปิดประตูภายนอกแบบโครเมี่ยม
สปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ต
กระจังหน้าแบบโครเมี่ยม Triple-Slat
สำหรับช่วงล่างของ Mitsubishi Xpander โฉมนี้ในด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท (Macpherson Strut) ส่วนในด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม (Torsion Beam) ให้การปกป้องมากยิ่งขึ้นด้วยระบบเบรกด้านหน้าแบบดรัมเบรค และ ระบบเบรคด้านหลังแบบดิสก์เบรค อีกทั้งยังสปอร์ตพร้อมสะกดทุกสายตามากยิ่งขึ้นด้วยล้อแม็กซ์อัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 205/55 R16
ช่วงล่างออกแบบพิเศษยึดเกาะพื้นถนนได้ดียิ่งขึ้น
จากการรีวิวเห็นว่า ภายใน Mitsubishi Xpander 2018 ได้รับการตกแต่งอย่างประณีตเรียบหรูดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วยสีภายในห้องโดยสารที่มีให้ผู้ขับขี่ได้เลือกตามความต้องการจากสีดำ และ สีเบจ ให้ความสะดุดตามากยิ่งขึ้นด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง โดยเบาะนั่งฝั่งคนขับปรับระดับได้ด้วยไฟฟ้า เบาะนั่งแถวที่ 2 แยกพับ 60:40 อีกทั้งเบาะนั่งแถวที่ 2 และ แถวที่ 3 ยังสามารถพับราบได้แบบ Fully Flat และ เบาะนั่งแถวที่ 2 พับซ้อนได้เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในแถวที่ 3 ส่วนเบาะนั่งในแถวที่ 3 แยกปรับพับ 50:50 นอกจากนี้แล้วมิตซูบิชิยังได้มีการดีไซน์ให้พนักพิงหลังตรงกลางเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับพับให้เป็นพนักพิงศีรษะได้
ภายในพบกับฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครัน
สะดวกสบายด้วยเบาะนั่งปรับพับได้
Mitsubishi Xpander 2018 ยังได้รับการติดตั้งระบบบังคับเลี้ยวแบบใหม่พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง ขึ้น-ลง เข้า-ออก เสริมด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบสี 3 มิติ สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วยระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารในตอนหลัง นอกจากนี้แล้วมิตซูบิชิยังเพิ่มที่วางแก้วน้ำภายในห้องโดยสารให้มากถึง 16 จุด พร้อมกับช่องเก็บของบริเวณคอนโซลกลางพร้อมฝาเลื่อนปิด ถาดสำหรับเก็บ-วางรองเท้าบริเวณใต้เบาะนั่งด้านหน้า และ ช่องเก็บของใต้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง
พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง ขึ้น-ลง เข้า-ออก
Mitsubishi Xpander ให้ความบันเทิงในทุกทริปการขับขี่ด้วยระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอระบบสัมผัส (Touch Screen) รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายผ่านสัญญาณบลูทูธ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB สร้างเสียงกระหึ่มด้วยลำโพงถึง 6 ตำแหน่ง และ ช่องชาร์จไฟขนาด 12V สำหรับผู้โดยสารในตอนหลัง
หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบสี 3 มิติ
Mitsubishi Xpander 2018 รุ่นผลิตจำหน่ายในประเทศไทยได้รับการติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินรหัส 4G91 MIVEC DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ซึ่งรุ่นที่จะทำการเปิดตัวในช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้คาดการณ์กันว่าจะนำระบบเกียร์ CVT เข้ามาติดตั้งไว้ด้วยเพื่อเพิ่มความสะดวกให้นักขับชาวไทยมากยิ่งขึ้น
โดย Xpander รุ่นใหม่ล่าสุดขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า ความจุถังน้ำมัน 45 ลิตร พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control และ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์อัตโนมัติ Push Start Button
เครื่องยนต์ MIVEC DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร
ส่วนทางด้านตัวถังของ Mitsubishi Xpander รุ่นใหม่ล่าสุด 2018 นั้นได้รับการออกแบบให้มีขนาดที่ใหญ่มากยิ่งขึ้นโดยมีขนาดความยาว x กว้าง x สูง : 4,475 x 1,750 x 1,700 มิลลิลิตร ระยะฐานล้อ Wheel Base อยู่ที่ 2,775 มิลลิเมตร และ มีระยะต่ำสุดจากพื้น Ground Clearance ประมาณ 200-205 มิลลิเมตร
ดีไซน์มิติตัวถังเพิ่มขนาดให้รถมีความกว้างมากขึ้น
Mitsubishi Xpander 2018 ให้การปกป้องในทุกเส้นทางด้วยระบบความปลอดภัยสุดล้ำหน้าจากมิตซูบิชิ เช่น ระบบกุญแจอัจฉริยะแบบ KOS (Keyless Operation System) ที่ช่วยให้ความปลอดภัยจากการโจรกรรมได้เป็นอย่างดีรวมถึงระบบป้องกันล้อล็อคแบบ ABS ระบบกระจายแรงเบรกแบบ EBD ให้การเบรคอย่างนิ่งสนิทมากยิ่งขึ้นด้วยระบบเสริมแรงเบรกแบบ BA พร้อมเพิ่มความปลอดภัยในขณะเข้าโค้งให้สามารถยึดเกาะพื้นถนนได้ดียิ่งขึ้นด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวแบบ ASC
เบาะนั่งด้านหลังสามารถปรับพับเพิ่มพื้นที่ใช้สอยมากยิ่งขึ้น
มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ โฉมใหม่นี้ยังได้รับการเสริมให้สามารถขับขี่ในเส้นทางลาดชันได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้นจากระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันแบบ HSA อีกทั้งยังให้ทัศนวิสัยต่อรถที่ขับตามหลังเมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดด้วยระบบไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหันแบบ ESS
ถาดสำหรับเก็บ-วางรองเท้าบริเวณใต้เบาะนั่งด้านหน้า
นอกจากนี้แล้วมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ 2018 ยังเพิ่มการปกป้องจนถึงขีดสุดด้วยระบบถุงลมนิรภัยคู่หน้าจำนวน 2 ตำแหน่งพร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ในทั้ง 7 ที่นั่ง ให้ทัศนวิสัยเมื่อทำการถอยหลังได้ดียิ่งขึ้นด้วยกล้องมองภาพขณะถอยหลังพร้อมเซ็นเซอร์กะระยะในการถอยหลัง
ช่องเก็บของใต้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง
สำหรับผู้ที่สนใจ Mitsubishi Xpander 2018 รถยนต์อเนกประสงค์ Mini MPV ตัวเก่งจากค่ายมิตซูบิชิที่มีการติดตั้งฟังก์ชั่นเสริมภายในรถไว้อย่างมากมายคอยอำนวยความสะดวกในทุกทริปการท่องเที่ยวตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบครอบครัวได้เป็นอย่างดี เสริมด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ Mivec ขนาด 1.5 ลิตร ที่เปี่ยมล้นด้วยการสร้างอัตราการเร่งที่ดีเยี่ยมพร้อมประหยัดน้ำมันแบบสุดๆเริ่มต้นเคาะราคาเพียงแค่ 543,000-663,000 บาท เท่านั้นซึ่งไม่สูงมากนักถือเป็นการเอาใจพ่อบ้านผู้มีหัวใจรักการท่องเที่ยว อีกทั้งเมื่อนำ Mitsubishi Xpander โฉมนี้มาเปรียบเทียบกับรถยนต์จากค่ายอื่นในเซกเมนต์เดียวกันแล้วสามารถเรียกได้ว่าคุณภาพคุ้มค่าในราคาที่ต้องจ่ายเลยทีเดียว
ดูเพิ่มเติม: