รีวิว Ford Fiesta 2018 น่าขับระดับท็อปพร้อมตอบทุกโจทย์ทุกความเร้าใจในการขับขี่
รถยนต์ Ford Fiesta เป็นหนึ่งใน City Car น่าใช้ที่มาแรงไม่น้อยเมื่อตอนเปิดตัวใหม่เมื่อปี 2010 กับดีไซน์ที่แตกต่างอันเป็นเอกลักษณ์ ภาพลักษณ์ที่มอบให้ทั้งจากภายนอกและภายในอันล้ำสมัย กลายมาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างปฎิเสธสำหรับผู้ใช้รถหลาย ๆ คน แต่ด้วยปัญหาในเรื่องการใช้งานจากระบบเกียร์ที่ไม่ค่อยเหมาะกับสภาพถนนเมืองไทย ก็กลับทำให้รถรุ่นนี้ต้องตกม้าตาย เสื่อมถอยความนิยมลงเรื่อย ๆ จนยอดขายร่วงตกไปอยู่อันดับท้าย ๆ ของคลาส แม้จะมีรุ่นใหม่ไมเนอร์เชนจ์ออกมากับหน้าตาดึงดูดเหมือนเช่นเคย แต่ก็ไม่อาจลบภาพจำของผู้สนใจที่เคยเห็นเจ้าของรถรุ่นนี้ออกมาเรียกร้องถึงปัญหาตัวรถกับทางค่าย ส่งผลตัวเลขยอดขายในแต่ละเดือนแต่ละปีของรถรุ่นนี้ “ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน” ไม่มีท่าทีจะดีขึ้น และมีความเป็นไปได้สูงที่ในอนาคต ตลาดรถเมืองไทยอาจไม่ได้สัมผัสกับ Ford Fiesta เจ็นต่อไป โมเดลเชนจ์ใหม่ล่าสุดเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 แล้วแต่ไร้วี่แววที่คนไทยจะได้สัมผัส
ณ ปัจจุบัน Fiesta โฉมไมเนอร์เชนจ์ถูกขายมาตั้งแต่เมื่อปี 2013 หลังจากเผยโฉมครั้งแรกเริ่มเมื่อปี 2010 ก็มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มลดรุ่นอยู่บ่อยครั้งทุกปี จนล่าสุดก็ได้มีการตัดรุ่นย่อยที่เป็น 4 ประตูซีดานออกไป เหลือไว้แค่ในโฉม Hatchback 5 ประตูเท่านั้น รวมไปถึงประเภทเครื่องยนต์ 1.0L Ecoboost และเครื่องยนต์ 1.6 ก็ถูกตัดออกไปเช่นกัน เหลือไว้ก็แต่เครื่องยนต์ 1.5L โดด ๆ แต่ก็ยังคงจับคู่กับเกียร์ในตำนาน Power Shift อยู่เป็นนิจ โดยปัจจุบัน (08/2018) Ford Fiesta มีจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่นย่อยดังต่อไปนี้
“Black Limited” คือรุ่นที่ราคาสูงสุด ณ ขณะนี้ของ Fiesta
โฉมไมเนอร์เชนจ์ที่ถูกปรับหน้าตาให้สวยดูดียิ่งขึ้นเมื่อปี 2013 ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ ด้านหน้าที่ดีไซน์ส่วนกระจังอาจพาให้คุณนึกถึงรถหรูระดับพรีเมี่ยมอย่าง Aston Martin ได้ไม่น้อย โคมไฟหน้าเป็นแบบ LED ที่มาพร้อมไฟวิ่งกลางวันพร้อมไฟตัดหมอก เส้นสายตัวรถไม่แตกต่างนักจากโฉมที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2010 แต่ลงตัวเมื่อมองที่ด้านข้าง โดดเด่นสวยงามด้วยขอบประตูโครเมี่ยมและล้อลายสวยขนาด 16 นิ้ว อีกทั้งยังมีไฟส่องสว่างข้างตัวรถมาให้ด้วย สปอร์ตยิ่งขึ้นกับสเกิร์ตรอบคัน ที่แม้จะเป็นแค่ตลาดรถ B-Segment แต่อารมณ์ที่ Fiesta คันนี้สื่อมาช่างดูพิเศษกว่าคู่แข่งอย่างมีสไตล์เสียจริง ๆ
มิติตัวรถ : Ford Fiesta
ยาว (mm) : 3969
กว้าง (mm) : 1978
สูง (mm) : 1464
ระยะฐานล้อ (mm) : 2489
หน้าตาภายนอกถือว่าลงตัวมากในทุกมุมสำหรับ Ford Fiesta
2018
ส่วนของภายใน Ford Fiesta สามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์และความสะดวกสบายครบทุกมิติโทนการตกแต่งด้วยสีดำลงตัวที่สุดกับเบาะนั่งที่ใช้วัสดุเป็นผ้ากึ่งหนังทรงสปอร์ตสีดำเช่นกัน คอนโซลกลางดีไซน์ล้ำไม่ดูตกยกแม้จะถูกใช้มาตั้งแต่ปี 2010 พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มด้วยหนังเช่นเดียวกับหัวเกียร์ กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Keyless Entry และปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติเพิ่มความสะดวกได้มากกว่า แค่ตัวกุญแจอยู่กับตัว ก็เปิดรถและพร้อมออกสตาร์ทได้ทันที นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อื่น ๆ ในส่วนของภายในที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
เบาะทรงสปอร์ตทำให้ภายในรุ่นนี้สวยขึ้นเป็นกอง
Fiesta ในโมเดลปัจจุบันถูกนำเสนอด้วยรูปแบบเครื่องยนต์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ 1.6L, 1.0L EcoBoost แต่ดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จเป็นที่นิยมมากพอ จนทางค่ายต้องตัดออกไปเหลือเพียงเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5L Duratec แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ที่มาพร้อมระบบวาล์วแปรผัน Ti-VCT รีดแรงม้าออกมาได้สูงสุด 112 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 140 Nm จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Power Shift Dual Clutch 6 Speed พร้อม Eco Mode รองรับน้ำมันสูงสุดประเภท E85 เบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรก ส่วนด้านหลังเป็นดรัมเบรก
รายละเอียดด้านสมรรถนะของ Ford Fiesta 2018
Fiesta มี Top Speed ไม่ธรรมดาเลยสำหรับรถเครื่องยนต์ 1.5L
เท่แบบไม่ยั้งกับ Ford Fiesta ในการตกแต่งแบบ Racing Style
Fiesta มากับโครงสร้างนิรภัยเหล็กกล้า “โบรอน” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด และถือเป็นหัวใจหลักในเรื่องความปลอดภัยจากรถของ Ford เมื่อถูกใส่เข้าไปด้วยอุปกรณ์ที่ช่วยเอื้อในเรื่องความปลอดภัยด้านต่าง ๆ ก็จะเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณได้มากยิ่งขึ้นเมื่ออยู่หลังพวงมาลัยของรถคันนี้ ถุงลมนิรภัยมีมาให้คู่หน้าคือความปลอดภัยเชิงป้องกันหลังอุบัติเหตุที่ Fiesta มีมาให้ และในเชิงป้องกันก่อนอุบัติเหตุก็มีมาให้พร้อมทุกระบบที่รถยุคควรมีไม่ว่าจะเป็น..
อุปกรณ์ความปลอดภัยพื้นฐานถือว่าดี
ทำตลาดมายาวนานเหลือเกินสำหรับรุ่นนี้ Ford Fiesta แต่เรื่องดีไซน์ภายนอกยังคงดูดีทันสมัยไม่ตกยุค ความลงตัวหลาย ๆ จุดจึงทำให้รถรุ่นก้าวข้ามผ่านเวลา ทำตลาดได้มาจนถึงปัจจุบัน แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายในเรื่องรายละเอียดจนแทบอัพเดทกันไม่ทันก็ตาม
ส่วนของภายในเรื่องดีไซน์ก็ถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างของรถรุ่นนี้ด้วย แต่ก็ต้องยอมรับในเรื่องความทันสมัยในอุปกรณ์บางอย่างอาจเทียบไม่ได้เหมือนรถที่เปิดตัวเมื่อไม่นาน เช่น เรื่องหน้าจอแบบสัมผัสของ Infotainment ด้วยรูปแบบดีไซน์คอลโซลจึงไม่เอื้อให้ใส่อุปกรณ์เพื่ออัพเดทลูกเล่นการใช้งานให้เทคโนโลยีของรถทันยุคสักเท่าไร
ภายนอกยังคงดูดีทันสมัยไม่ตกยุค แม้จะถูกลากขายมานาน
ส่วนในรายละเอียดของเครื่องยนต์ ไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ในเรื่องของอัตราเร่ง ความแรงหรือ Top Speed ในรุ่นนี้ จะมีก็แต่เรื่องของปัญหาการใช้งานของระบบส่งกำลังกับเกียร์ Power Shift ที่ขึ้นแท่นเป็น “เกียร์ในตำนาน” ของเก๋งจาก Ford ไปเสียแล้ว ใช่ !..ที่ตัวรถปีใหม่รุ่นใหม่นั้นถูกแก้ปัญหาในบางชิ้นส่วนอุปกรณ์จนตัวรถปีใหม่หน่อยที่ออกจากโรงงาน “อาจจะ” ไม่เจอปัญหาของตัวเกียร์ แต่เมื่อมีคำว่า “อาจจะ” เข้ามา ก็หมายความว่าคุณ! ก็อาจจะต้อง “เสี่ยง” ที่ต้องเจอปัญหาการใช้งานเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับผู้ใช้รถรุ่นนี้ก่อนหน้าเช่นกัน
คำถามคือ... คุณกล้าพอไหมที่จะเสี่ยงกับมัน ประเด็นมันอยู่แค่ตรงนั้นแหละ ถ้ากล้าก็ซื้อขับได้เลย ส่วนอื่น ๆ OK! ดีหมด
ดูเพิ่มเติม:
Ford Focus 1.5 L EcoBoost Turbo sport เริ่มต้น 1 ล้าน
วิจารณ์ ทดสอบสมรรถนะ Ford Everest 2018 ใหม่ ดีจริงหรือมั่วมาดูกัน