1. แนะนำ Ford Everest 2022
22 มีนาคม 2565 Ford Thailand เปิดตัว Ford Everest 2022 (ฟอร์ด เอเวอร์เรส) รถอเนกประสงค์ SUV ขนาด 7 ที่นั่ง เจเนเรชันใหม่ และนำมาจัดแสดงในงานมอเตอร์โชว์ 2022 โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย รุ่น Sport และรุ่น Titamium+ พร้อมตัวถัง 7 สีให้เลือกได้ตามใจชอบ ได้แก่
- สีเงิน Aluminium Metallic
- สีเทา Meteor Grey
- สีดำ Absolute Black
- สีเทา Equinox Bronze
- สีขาว Snow Flake White Pearl (*เพิ่มเงิน 12,000 บาท)
- สีส้ม Sedona Orange (*เพิ่มเงิน 12,000 บาท)
- สีน้ำเงิน Blue Lightning (*เฉพาะรุ่น Sport)
Ford Everest 2022
ฟอร์ด เอเวอร์เรส
2. ภายนอก Ford Everest 2022
ภายนอกโดดเด่นด้วยเส้นสายคมชัด ดุดัน กระจังหน้าลายตาข่ายสีดำเข้มสอดรับกับไฟหน้าทรง C-Clamp ได้อย่างลงตัว มาพร้อมไฟหน้า Matrix LED ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติระบบป้องกันไฟแยงตา ไฟท้าย LED Signature ไฟวิ่งกลางวัน และไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าแฮนด์ฟรี หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ และล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว พร้อมตกแต่งโครเมียมที่มือจับประตู กระจกมองข้าง และบันไดข้าง เสริมความหรูหราให้ตัวรถ
อุปกรณ์ภายนอก
รุ่น Sport ให้อุปกรณ์พื้นฐานมาดังนี้
- ชุดแต่งภายนอกสีดำสปอร์ต (เฉพาะรุ่น Sport)
- ตัวอักษร Everest สีดำเงา ติดฝากระโปรงหน้า
- ไฟหน้า LED รีเฟลกเตอร์ พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
- ไฟวิ่งกลางวันและไฟตัดหมอกหน้า LED
- ไฟท้ายแบบ LED Signature
- ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าแฮนด์ฟรี
- ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/55 R20
รุ่น Titanium+ ให้อุปกรณ์เพิ่มเติมจากรุ่น Sport มาดังนี้
- ไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมระบบปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติระบบป้องกันไฟแยงตา
- หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ
ดีไซน์ภายนอกของ รุ่น Titanium+
ดีไซน์ภายนอกของ รุ่น Sport
3. ภายใน Ford Everest 2022
ห้องโดยสารภายในมีความกว้างขวาง โปร่งโล่ง บริเวณแผงหน้าปัดและเครื่องเล่นเสียงได้รับการออกแบบให้ดูกลมกลืนกัน ส่วนเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังและหนังสังเคราะห์ โดยติดตั้งออปชันต่าง ๆ มาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสี ขนาด 12.4 นิ้ว แท่นชาร์จไร้สาย หน้าจอสีแบบสัมผัสมัลติทัช ขนาด 12 นิ้ว รองรับ Apple Car Play และ Android Auto ลำโพง 8 ตำแหน่ง ช่องต่อ USB 4 ตำแหน่ง ช่องต่อไฟ 12V 3 ช่อง พร้อมช่องต่อไฟ 230V 1 ช่อง ไฟตกแต่งในห้องโดยสาร และอื่น ๆ อีกมากมาย
อุปกรณ์ภายใน
รุ่น Sport ให้อุปกรณ์พื้นฐานมาดังนี้
- ชุดแต่งภายในสีดำสปอร์ต (เฉพาะรุ่น Sport)
- แท่นชาร์จไร้สาย
- เบาะหนัง และหนังสังเคราะห์
- หน้าจอสีแบบสัมผัสมัลติทัช ขนาด 10.1 นิ้ว
- หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสี ขนาด 8 นิ้ว
- รองรับ Apple Car Play และ Android Auto
- ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และระบบสั่งงานด้วยเสียง
- ระบบ FordPass Connect
- ช่องต่อ USB 2 ตำแหน่ง
- ช่องต่อไฟ 12V 3 ช่อง
- ลำโพง 8 ตำแหน่ง
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา
- เบาะนั่งคนขับปรับและผู้โดยสารตอนหน้า ปรับ 8 ทิศทาง
- เบาะแถวที่ 3 พับได้
- กระจกมองหลังแบบลดแสงอัตโนมัติ พร้อมช่องต่อ USB
รุ่น Titanium+ ให้อุปกรณ์เพิ่มเติมจากรุ่น Sport มาดังนี้
- แท่นชาร์จไร้สาย
- หน้าจอสีแบบสัมผัสมัลติทัช ขนาด 12 นิ้ว
- หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสี ขนาด 12.4 นิ้ว
- ช่องต่อ USB 4 ตำแหน่ง
- ช่องต่อไฟ 12V 3 ช่อง พร้อมช่องต่อไฟ 230V 1 ช่อง
- เบาะแถวที่ 3 พับไฟฟ้า
- ไฟตกแต่งในห้องโดยสาร
ห้องโดยสารภายในมีความกว้างขวาง โปร่งโล่ง
4. ขุมพลัง Ford Everest 2022
ขุมพลัง Ford Everest 2022 มี 2 ทางเลือก ประกอบด้วย
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ Turbo ส่งกำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ที่ 1,750 - 2,250 รอบต่อนาที
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ Bi-Turbo ส่งกำลังสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 - 2,000 รอบต่อนาที
ขุมพลังดีเซล 2.0 ลิตร
5. ความปลอดภัย Ford Everest 2022
Ford Everest 2022 ได้ติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงมาในรุ่น Titanium+ เช่น ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ พร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ส่วนรุ่น Sport ได้รับการติดตั้งระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานมาอย่างครบครัน อาทิ ถุงลมนิรภัย 7 จุด กล้องมองหลังขณะถอยจอด ระบบป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ฯลฯ
อุปกรณ์ความปลอดภัย
รุ่น Sport ให้อุปกรณ์พื้นฐานมาดังนี้
- ถุงลมนิรภัย 7 จุด : คู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลม และถุงลมบริเวณหัวเข่า
- ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
- สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า-หลัง
- กล้องมองหลังขณะถอยจอด
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
- ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA
- ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
- เบรกมือไฟฟ้า
รุ่น Titanium+ ให้อุปกรณ์เพิ่มเติมจากรุ่น Sport มาดังนี้
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ
- กล้องมองรอบคัน 360 องศา
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
- ระบบตรวจจับลมยาง
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop & Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ พร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า
- ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน
- ระบบตรวจจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องรถ
- ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง
- ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ
ระบบความปลอดภัยครบครัน
6. ราคา Ford Everest 2022
- รุ่น Sport ราคา 1,464,000 บาท
- รุ่น Titanium+ ราคา 1,854,000 บาท
รุ่น Sport ราคา 1.464 ล้านบาท
รุ่น Titanium+ ราคา 1.854 ล้านบาท
อ่านเพิ่มเติม >>