พอดีรถประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนค่ะแล้วคราวนี้ได้ติดต่อตัวแทนประกันเพื่อให้เข้าตรวจสอบยังสถานที่เกิดเหตุ โดยที่รถของเราทำประกันชั้นหนึ่งไว้นะค่ะ เมื่อตัวแทนประกันได้ตรวจสอบแล้วก็ออกใบเคลมมาให้ค่ะเพื่อนำรถเข้าเคลมยังศูนย์ซ่อม เลยมีข้อสงสัยอยากถามพี่ๆว่าใบเคลมนี้สามารถนำเข้าซ่อมได้ทั้งศูนย์ และ อู่ซ่อมใช่ไหมค่ะ แล้วถ้าใบเคลมหายจะเกิดอะไรขึ้นบ้างค่ะ ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ
จิตรา เอกศิลป์ (ink_jitra@gmail.com)
เจษฎา โชคอำนวย
ใบเคลมประกันรถยนต์
สวัสดีครับคุณจิตรา สำหรับการเคลมประกันรถยนต์นั้นใบเคลมถือได้ว่ามีส่วนสำคัญอย่างมาก เนื่องจากในขณะที่ผู้ขับขี่เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชน หรือ ประสบเหตุร้าย ผู้ขับขี่ควรโทรแจ้งไปยังบริษัทประกัน หรือ ตัวแทนประกันที่เราได้ทำประกันไว้เพื่อให้เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุซึ่งโดยทั่วไปแล้วประกันภัยจะดำเนินการทุกอย่างจนเสร็จสรรพโดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องติดต่อเพิ่มเติมอะไร
ภายหลังเมื่อตัวแทนประกันได้ทำการตรวจสอบจนเสร็จสิ้นดีแล้วจะมีการออกใบเคลมรถมาให้เพื่อให้ผู้ขับขี่นำรถเข้าไปซ่อมได้ตามศูนย์ซ่อม อู่ในเครือบริษัทประกัน หรือ อู่นอก ทั้งนี้ผู้ขับขี่จะต้องทำการตรวจสอบสิทธิว่าประกันที่ใช้นั้นสามารถนำรถเข้าซ่อมยังอู่แบบใดได้บ้าง หรือ สอบถามจากตัวแทนประกันโดยตรง โดยเฉพาะในประกันภัยชั้นหนึ่งที่จะมีการระบุประเภทของการซ่อมเอาไวอย่างชัดเจน เช่น ประกันชั้นหนึ่งซ่อมศูนย์บริการ หรือ ประกันชั้นหนึ่งซ่อมอู่ประกันผู้ขับขี่ควรตรวจสอบดูให้ถี่ถ้วนตั้งแต่ในขั้นตอนการต่อประกันภัยทุกครั้ง
ใบเคลมมีอายุการใช้งาน 2 ปี
ในส่วนของใบเคลมนั้น มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “ใบรับรองความเสียหาย” เมื่อผู้ขับขี่ประสบอุบัติเหตุไม่ว่าฝ่ายคู่กรณีจะผิดหรือไม่ก็ตาม บริษัทประกันจะออกใบเคลมให้กับผู้ขับขี่ (ผู้เอาประกัน) เพื่อเป็นการยืนยันต่อศูนย์บริการ หรือ อู่ที่ผู้ขับขี่ต้องการที่จะนำรถเข้าซ่อมว่าทางบริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถของลูกค้าตามที่ได้มีการระบุเอาไว้ในใบเคลม โดยใบเคลมที่บริษัทประกันมีการออกมาให้กับผู้ขับขี่นั้นมีอายุ 2 ปี ซึ่งหมายความว่าผู้ขับขี่สามารถที่จะนำรถเข้าซ่อมยังอู่ได้ภายในระยะเวลา 2 ปี ตามที่ได้มีการระบุเอาไว้
อย่างไรก็ตามผู้ขับขี่ควรนำรถเข้าศูนย์ซ่อมภายใน 15 วัน หลังจากที่ได้ใบเคลมมาแล้วสาเหตุก็เนื่องจากหากผู้ขับขี่ละเลยไม่นำรถเข้าซ่อมตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุขึ้นใหม่และปล่อยทิ้งไว้อาจมีชิ้นส่วนบางรายการนอกเหนือจากที่ได้มีการระบุเอาไว้ในใบเคลมสึกหรอเสียหายเพิ่มเติมได้ซึ่งในกรณีนี้ผู้ขับขี่ไม่สามารถที่จะเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมจากบริษัทประกันได้และผู้ขับขี่อาจต้องจ่ายค่าเสียหายในการซ่อมด้วยตนเอง
ส่วนในกรณีที่ใบเคลมหายให้ผู้ขับขี่รีบติดต่อไปที่บริษัทประกันอีกครั้งเพื่อขอเลขที่ในการเคลมโดยระบุวันที่เกิดเหตุ ประเภทรถ และ ชื่อของผู้เอาประกัน จากนั้นจึงไปแจ้งความเอกสารการเคลมประกันภัยหาย ณ สถานีตำรวจใกล้บ้านเพื่อแสดงตนว่าเป็นเจ้าของรถผู้เอาประกันตัวจริง ภายหลังจึงติดต่อบริษัทประกันเพื่อขอสำเนาใบเคลมอีกครั้งหนึ่งและให้บริษัทรับรองสำเนามาให้ด้วยเพียงแค่นี้ผู้ขับขี่ก็สามารถที่จะนำรถเข้าซ่อมได้อีกครั้งแล้วครับ
สำหรับผู้ขับขี่ที่ประสบอุบัติเหตุและได้ใบเคลมมาแล้วควรรีบนำรถเข้าซ่อมยังศูนย์บริการเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติมที่อาจเกิดขึ้นได้และต้องจ่ายค่าซ่อมด้วยตนเองครับ