สวัสดีค่ะ คือ ในเวลาที่หนูขับรถมาสักพักกลับได้กลิ่นเหม็นเหมือนมีอะไรไหม้เข้ามาภายในห้องโดยสารไม่รู้ว่ามีสาเหตุมาจากอะไรค่ะ แล้วหนูต้องพารถไปเข้าศูนย์บริการเลยไหมค่ะ ขอคำตอบจากผู้รู้ด้วยค่ะ ขอบคุณมากๆนะค่ะ
ดวงเดือน เรืองฉาย (duangduean@hotmail.com)
เจษฎา โชคอำนวย
รถมีกลิ่นไหม้สามารถขับต่อไปอีกได้หรือไม่
เรียนคุณดวงเดือนสำหรับปัญหากลิ่นเหม็นไหม้ภายในห้องโดยสารนั้นอาจมีสาเหตุมาจากหลายกรณีซึ่งมักเกิดขึ้นในเส้นทางการขับขี่ที่มีความลาดชันมาก เนื่องจากผ้าเบรกได้เสียดสีกับจานเบรกจนทำให้เกิดความร้อนค่อนข้างสูงจนส่งผลให้ไหม้ขึ้น สำหรับในกรณีนี้แนะนำให้คุณดวงเดือนหาจุดจอดรถแวะพักสักครู่เพื่อรอให้กลิ่นที่เหม็นไหม้จางลง พร้อมทั้งตรวจสอบดูรอยไหม้บริเวณผ้าเบรกสังเกตดูว่ามากหรือไม่ หากไม่มากสามารถที่จะขับรถต่อไปจนถึงปลายทางแล้วจึงนำเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คอีกครั้งหนึ่งได้
ทั้งนี้ในบางกรณีอาจจะมีกลิ่นเหม็นไหม้ที่เกิดขึ้นจากสาเหตุอื่นอีกเช่นกัน อาทิ กลิ่นเหม็นไหม้ที่คล้ายคลึงกับกลิ่นพลาสติกกำลังไหม้ในขณะขับขี่หากได้กลิ่นดังที่กล่าวมาข้างต้นสิ่งที่ควรปฏิบัติเป็นส่วนแรก คือ การตรวจดูระบบปรับอากาศภายในรถสังเกตที่ปุ่มปรับระดับความเย็นอยู่ในตำแหน่งใด หากมีการปรับให้อากาศภายนอกสามารถหมุนเวียนเข้ามาภายในห้องโดยสารได้ให้ผู้ขับขี่ลองปรับไปใช้โหมดอากาศหมุนวนเฉพาะภายในรถดูก่อน เนื่องจากในบางกรณีผู้ขับขี่มีการหมุนระบบปรับอากาศภายในรถให้หมุนเวียนอากาศจากภายนอกเข้ามาภายในตัวรถในขณะที่เส้นทางในการขับขี่อยู่ในจุดที่มีการจราจรแออัด รวมถึงมีการเผาขยะจากภายนอกแล้วส่งกลิ่นเหม็นไหม้เข้ามาภายในตัวรถได้
รถมีกลิ่นไหม้ควรหยุดรถแล้วตรวจสอบทุกครั้ง
อีกทั้งยังมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์จำพวกกลิ่นควันจากท่อไอเสียที่เกิดขึ้นจากรถบรรทุก รถเมล์ หรือ รถชนิดอื่นในขณะที่ผู้ขับขี่ขับรถไปจ่อทางด้านท้ายขอรถในประเภทดังกล่าวดังนั้นจึงต้องหมุนปุ่มระบบปรับอากาศภายในรถให้กลับมาอยู่ในโหมดหมุนเวียนอากาศภายในรถเสียก่อนหากกลิ่นจางลงก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป หากยังคงมีกลิ่นเหม็นไหม้อยู่ให้ผู้ขับขี่จอดรถแล้วทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้า หรือ ฟิวส์เชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถที่อาจเกิดการลัดวงจรจนส่งผลให้พลาสติกร้อนจนละลายส่งผลให้เกิดกลิ่นไหม้หากเป็นกรณีดังกล่าวให้ผู้ขับขี่ทำการแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันการเกิดเหตุไฟลุกลามไปไหม้รถได้
สำหรับผู้ที่ประสบเหตุกรณีรถมีกลิ่นไหม้ควรตั้งสติก่อนเป็นอันดับแรกแล้วสำรวจหาสาเหตุของการเกิดกลิ่นซึ่งอาจไม่ได้เลวร้ายจนต้องนำรถเข้าศูนย์บริการในทุกครั้ง