สวัสดีค่ะหนูมีข้อสงสัยอยากถามถึงในกรณีที่เราต้องเติมลมยางรถยนต์ผู้ขับขี่หลายรายมักมีความนิยมในการเติมลมยางแบบไนโตรเจนแทนลมยางแบบปกติ โดยให้เหตุผลว่าในขณะวิ่งจะช่วยลดความร้อนที่ล้อรถได้มีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ค่ะ รบกวนสอบถามผู้รู้ด้วยค่ะ
ปัทมา เรืองสมบูรณ์ (pattama_piggy@gmail.com)
เจษฎา โชคอำนวย
เติมลมยางไนโตรเจน
เรียนคุณปัทมาในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการเติมลมยางในแบบปกติมาเป็นลมยางแบบไนโตรเจนนั้นก่อนอื่นต้องเรียนให้ทราบว่าการเติมลมยางแบบปกติที่เราใช้บริการกันอยู่ในปั๊ม หรือ ศูนย์บริการเติมลมยางรถยนต์นั้นมีส่วนผสมของไนโตรเจนอยู่แล้วถึง 78 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการเติมลมยางแบบไนโตรเจนนั้นมีการนำไนโตรเจนเข้าไปผสมกับอากาศเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่เป็น 93 เปอร์เซ็นต์ซึ่งทำให้มีปริมาณก๊าซไนโตรเจนที่มากกว่าลมยางปกตินั่นเอง
โดยการเติมลมยางแบบไนโตรเจนสามารถที่จะช่วยลดอุณหภูมิเมื่อล้อเกิดการเสียดสีกับพื้นผิวถนนในยามที่ต้องเร่งเครื่องเพื่อสร้างอัตราความเร็วจนทำให้เกิดความร้อนได้ อีกทั้งยังช่วยชะลอความเสี่ยงในกรณีที่ยางระเบิด เนื่องจากคุณสมบัติของก๊าซไนโตรเจนนั้นไม่สามารถติดไฟได้ นอกจากนี้แล้วด้วยลักษณะโมเลกุลที่มีขนาดใหญ่จึงช่วยลดปัญหาการรั่วซึมของลมยางได้ดีกว่าการเติมลมยางในรูปแบบปกติอีกด้วย
เติมลมยางไนโตรเจนช่วยลดความร้อนของล้อเมื่อวิ่งทำความเร็วได้
ส่วนวิธีการเติมลมยางไนโตรเจนนั้นเมื่อนำรถเข้าไปยังศูนย์บริการจะต้องปล่อยลมยางแบบปกติออกจากทั้ง 4 ล้อ จนหมดเสียก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้ลมยางไนโตรเจนที่เติมเข้าไปผสมกับลมยางปกติ หากผู้ขับขี่มีการเติมลมยางแบบปกติเข้าไปในภายหลัง ลมยางแบบดังกล่าวจะไม่มีคุณสมบัติเป็นลมยางไนโตรเจนอีกกลับกลายเป็นลมยางแบบธรรมดาโดยทันที นอกจากนี้แล้วการเติมลมยางแบบไนโตรเจนในปัจจุบันมักหาศูนย์บริการเติมลมยางไนโตรเจนได้ยาก อีกทั้งในการเติมลมยางรูปแบบนี้ในแต่ละครั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 200 บาท จึงไม่ได้รับความนิยมจากผู้ขับขี่มากนัก
สำหรับการเติมลมยางแบบไนโตรเจนนั้นหากผู้ขับขี่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้รถยนต์วิ่งในระยะทางไกล หรือ ขับรถในประเภทรถแข่งก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเติมลมยางแบบไนโตรเจน เนื่องจากในปัจจุบันหลายๆบริษัทที่ผลิตยางออกมาจำหน่ายได้มีการดีไซน์ให้ยางที่เติมลมยางแบบปกติสามารถวิ่งบนพื้นผิวถนนที่มีอากาศร้อนได้อย่างปลอดภัยไร้ความกังวล พร้อมทั้งหากผู้ขับขี่มีการเช็คลมยางอยู่โดยตลอดก็สามารถช่วยลดปัญหาที่อาจส่งผลมาจากยางรถยนต์ได้
ทั้งนี้ผู้ขับขี่ที่ใช้ยางลมปกติไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมาใช้ลมยางแบบไนโตรเจนเพียงแค่หมั่นตรวจสอบลมยาง และ สภาพยางให้อยู่ในสภาพปกติก็สามารถช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นแล้ว