11:28, 2 มี.ค. 2562

เกียร์สะดุดและมีกลิ่นเหม็นไหม้เกิดจากอะไรครับ

บันทึกรายการ

ผู้ใช้รถหลายรายอาจเคยประสบกับปัญหาเกียร์สะดุดพร้อมกับกลิ่นเหม็นไหม้ออกมาจนส่งผลให้รถไม่สามารถที่จะขับไปต่อได้ วันนี้ข่าวรถจะมาแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหานี้กันครับ

สวัสดีครับพี่ๆพอดีผมมีข้อสงสัยถึงกรณีที่เราใส่เกียร์แล้วพบว่าเครื่องยนต์มีอาการกระตุกพร้อมกับกลิ่นเหม็นไหม้ที่ออกมาไม่ทราบว่าลักษณะดังกล่าวนี้เกิดขึ้นได้จากกรณีใดได้บ้างครับแล้วมีวิธีการแก้ไขอย่างไรรบกวนคำตอบจากพวกพี่ๆด้วยนะครับ

อมรเทพ โพธิ์ขยาย (amorn_tep@hotmail.com)

เจษฎา โชคอำนวย

เกียร์สะดุดและมีกลิ่นเหม็นไหม้เกิดจากสาเหตุใด

สวัสดีครับคุณอมรเทพ สำหรับกรณีที่เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์แล้วเครื่องยนต์มีอาการกระตุกพร้อมกับมีกลิ่นเหม็นไหม้ออกมานั้นก่อนอื่นต้องเรียนให้ทราบว่าในปัจจุบันค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ต่างก็ล้วนแล้วแต่มีการออกแบบระบบส่งกำลังให้มีความทันสมัยและสามารถที่จะตอบโจทย์การใช้งานของผู้ขับขี่ได้อย่างฉับไวพร้อมทั้งสามารถเปลี่ยนระดับเกียร์ได้อย่างง่ายดายโดยเฉพาะการส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติซึ่งได้รับความนิยมนำมาติดตั้งเอาไว้ในรถเกือบจะทุกรุ่น อย่างไรก็ตามการใช้เกียร์อัตโนมัตินั้นก็มีข้อเสียอยู่บ้างในกรณีของความทนทาน

กอปรกับการที่ผู้ขับขี่มีการใช้ระบบเกียร์ภายในรถมาอย่างยาวนานและไม่ได้รับการดูแลเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ก็ย่อมส่งผลให้ระบบเกียร์ภายในรถมีปัญหาขึ้นได้โดยง่าย อย่างไรก็ตามสาเหตุของการเกิดอาการเกียร์กระตุกในระบบเกียร์ออโต้นั้นมีผลสืบเนื่องมาจากการทำงานที่ผิดพลาดของวาล์วในชุดเกียร์ หรือ ในบางครั้งอาจมีสาเหตุมาจากน้ำมันเกียร์แห้งและมีการรั่วไหลของน้ำมันเกียร์ซึ่งจะทำให้การทำงานของชุดเกียร์มีความฝืดติดขัดขึ้นได้โดยง่ายอีกทั้งยังส่งผลให้มีกลิ่นเหม็นไหม้ออกมาเนื่องจากมีการเสียดสีกันของชิ้นส่วนของระบบส่งกำลังภายในรถ

ระบบเกียร์อัตโนมัติ

สำหรับวิธีการแก้ปัญหาระบบเกียร์เบื้องต้นผู้ขับขี่ควรนำรถเข้าไปทำการเปลี่ยนเกียร์ หรือ วาล์วน้ำมันเกียร์เพื่อช่วยให้ระบบการส่งกำลังมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น หรืออาจเลี่ยงมาใช้วิธีการฟลัชชิ่งเพื่อทำความสะอาดน้ำมันเกียร์ในขณะที่ทำการเปลี่ยนถ่ายซึ่งจะช่วยให้น้ำมันเกียร์มีความสะอาดมากยิ่งขึ้นเมื่อถูกเติมเข้าไปในระบบและยังถือเป็นการชำระล้างสิ่งสกปรกภายในระบบส่งกำลังอีกด้วย

ส่วนระยะในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์มักจะถูกกำหนดเอาไว้ที่ระหว่าง 20,000-30,000 กิโลเมตร หรืออย่างน้อยควรเปลี่ยนถ่าย 2 ปี/ครั้ง เพื่อให้ระบบส่งกำลังได้รับน้ำมันเกียร์ที่มีคุณภาพมากที่สุดเข้ามาใช้งาน ทั้งนี้ผู้ขับขี่ควรเลือกเกรดน้ำมันเกียร์ให้ตรงกับระบบเกียร์ภายในรถรุ่นนั้นซึ่งจะสามารถทราบได้จากสมุดคู่มือการใช้งานรถถือเป็นการช่วยยืดอายุในการใช้งานระบบส่งกำลังภายในรถให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้วผู้ขับขี่ควรสังเกตที่ประเภทของเกียร์ที่ถูกติดตั้งมาว่าต้องการน้ำมันเกียร์ที่มีความหนืดมากน้อยเพียงใดอีกด้วย

สำหรับผู้ที่พบความผิดปกติในระบบส่งกำลังควรนำรถเข้าไปตรวจเช็คยังศูนย์บริการและทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์เพื่อให้รถมีความพร้อมอยู่เสมอครับ

ในหมวดเดียวกัน