15:20, 13 ส.ค. 2561

อายุการใช้งานของที่ปัดน้ำฝนคือกี่เดือนกี่ปี มีวิธีการตรวจสอบว่าควรเปี่ยนแล้วอย่างไร

บันทึกรายการ

โดยทั่วไปแล้วอายุการใช้งานตามปกติของใบปัดน้ำฝนอย่างมีประสิทธิภาพจะอยู่ที่ประมาณ 12 เดือน แต่ส่วนใหญ่ผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปจะละเลยการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนแม้ใบปัดน้ำฝนจะเสื่อมสภาพแล้วก็ตาม

สอบถามเกี่ยวกับอายุการใช้งานของที่ปัดน้ำฝนคือกี่เดือนกี่ปี  มีวิธีการตรวจสอบว่าควรเปลี่ยนได้แล้วอย่างไร ?

ระพี (rapee_pom@gmail.com)

นพดล นฤวัตปกรณ์

“ใบปัดน้ำฝน” หรือ ที่ปัดน้ำฝน  จัดเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นสำหรับรถยนต์ทุกคัน เพราะทำหน้าที่ปัดน้ำ, ปัดเศษใบไม้, แมลง, เศษดินโคลน หรือแม้กระทั่งฝุ่นละอองต่างๆ ที่เกาะอยู่บนกระจกบังลมหน้าและหลัง (หรือในรถบางรุ่นมีติดตั้งที่ไฟหน้ารถด้วย) ให้หลุดออกพร้อมทำความสะอาด  เพื่อทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น  เราจึงควรหมั่นดูแลให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา


ที่ปัดน้ำฝนของรถยนต์

โดยทั่วไปแล้วอายุการใช้งานตามปกติของใบปัดน้ำฝนอย่างมีประสิทธิภาพจะอยู่ที่ประมาณ 12 เดือน แต่ส่วนใหญ่ผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปจะละเลยการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนแม้ใบปัดน้ำฝนจะเสื่อมสภาพแล้วก็ตาม ซึ่งการใช้ใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพนั้นอาจจะส่งผลเสียไปถึงชิ้นส่วนอื่นๆได้ อีกเช่น กระจกหน้ารถอาจจะเป็นรอยได้  นอกจากนั้นหากใช้ใบปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพในช่วงที่ฝนตกหนักจะยิ่งทำให้ทัศนวิศัยในการขับขี่แย่ลง  ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

สาเหตุอันเป็นปัจจัยที่ทำให้ใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ ได้แก่ ความร้อนจากแสงแดดที่ส่องลงมาสะสมอยู่ในกระจก ซึ่งจะทำให้ใบปัดน้ำฝนที่ทำจากยาง กรอบ เสียความยืดหยุ่นและเสื่อมคุณภาพลงเรื่อยๆ  อีกสาเหตุหลักเกิดจากการใช้งานเช่น กรณีที่ฝุ่นจับที่ยางปัดน้ำฝนก็จะเกิดความสึกหรอขึ้นได้ เหมือนการเอากระดาษทรายไปขัดกระจกและยางปัดน้ำฝน


ที่ปัดน้ำฝน

การเลือกซื้อใบปัดน้ำฝนนั้นก็มีความสำคัญ  ควรเลือกซื้อใบปัดน้ำฝนที่ผลิตจากวัสดุ และเนื้อยางที่มีคุณภาพดี จะสามารถใช้งานได้นาน ใบปัดน้ำฝนที่ดี ส่วนโครงของใบปัดน้ำฝน ควรจะทำจากวัสดุที่เป็นโลหะทั้งโครง เพื่อช่วยป้องกันการกระพือจากแรงลมในขณะใช้ความเร็วสูง และสามารถเพิ่มน้ำหนักในการรีดน้ำให้เรียบอีกด้วย นอกจากนี้ เนื้อยางของใบปัดน้ำฝนก็มีส่วนสำคัญ ควรพิจารณาเลือกซื้อใบปัดน้ำฝนที่มีเนื้อยางสูตรเฉพาะ ที่เหมาะสำหรับการใช้ในบ้านเรา ซึ่งจะมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถคงคุณภาพยางไม่ให้เสื่อมเร็วเกินไป ใบปัดน้ำฝนบางชนิดอาจจะมีราคาถูก แต่อาจจะเสื่อมประสิทธิภาพเร็วภายหลังการใช้งาน  เนื่องจากผลิตด้วยวัสดุที่มีคุณภาพต่ำ (ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย แนะนำของแท้ติดรถ)

ข้อสำคัญอีกเรื่องคือ รถแต่ละรุ่นจะใช้ใบปัดน้ำฝนขนาดที่แตกต่างกัน ในการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน จึงควรจะดูขนาดที่ระบุอยู่ในคู่มือของรถรุ่นนั้นๆ หรือสามารถเทียบดูรุ่นรถที่ระบุไว้บนกล่องใบปัดน้ำฝนได้เช่นกัน ใน กรณีที่ติดใบปัดผิดขนาด ถ้าเล็กไปจะทำให้รัศมีในการปัดน้อยลง ทำให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่ไม่ดี ถ้าใหญ่ไปใบปัดอาจจะเลยขอบกระจก ทำให้ใบปัดเสีย และอายุการใช้งานน้อยลง การเลือกซื้อยางปัดน้ำฝนที่แนบสนิทกับกระจกบังลมหน้า-หลังได้ดี มีความยืดหยุ่นและมีขนาดพอดีกับก้านปัดน้ำฝนเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน


ปัดน้ำฝน

เมื่อทำการทราบวิธีการตรวจสอบ และ ทราบอายุการใช้งานแล้ว ลองเช็คที่ปัดน้ำฝนรถคู่ใจ เพื่อวิสัยทัศน์ในการขับขี่หน้าฝนอย่างปลอดภัยกันดีกว่า 

ในหมวดเดียวกัน