13:55, 22 ต.ค. 2561

อยากทราบวิธีการขับรถและการดูแลรักษา เพื่อยืดอายุการใช้งานเกียร์รถยนต์ให้ยาวนานค่ะ

บันทึกรายการ

วิธีการขับรถและการดูแลเพื่อยืดอายุการใช้งานเกียร์รถยนต์ให้ยาวนาน

เพิ่งเปลี่ยนเกียร์รถยนต์ชุดใหญ่มาค่ะ  อยากทราบวิธีการขับรถและการดูแลรักษา เพื่อยืดอายุการใช้งานเกียร์รถยนต์ให้ยาวนานขึ้น?

รัญจวน (newrun_teay@gmail.com)

เจษฎา โชคอำนวย

สำหรับเกียร์ออโต้หรือเกียร์อัตโนมัติ เป็นชิ้นส่วนหลักในการขับเคลื่อนของตัวรถที่สำคัญส่วนหนึ่ง  นอกจากนี้ยังเป็นชิ้นส่วนที่มีราคาสูงมากหากจำเป็นต้องซ่อมหรือเปลี่ยน วันนี้เรามีเรื่องราวดีๆมาแนะนำสำหรับการขับรถเพื่อถนอมรักษาเกียร์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นมาฝากกัน


เกียร์รถยนต์ส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและราคาสูงหากต้องเปลี่ยนหรือซ่อม

จอดรถบนทางลาดชันควรใช้เบรกมือช่วย

ในการจอดรถบนทางลาดชัน  คนส่วนใหญ่มักใช้วิธีใส่เกียร์ P เพื่อป้องกันรถไหลเพียงอย่างเดียว  แต่วิธีที่ดีที่สุดควรใช้เบรกมือควบคู่กันไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้สลักเกียร์ต้องแบกรับน้ำหนักตัวรถมากจนเกินไป

ส่วนวิธีจอดรถบนทางลาดชันที่เหมาะสมนั้น หลังจากจอดรถเสร็จอย่าเพิ่งใส่เกียร์ P ทันที ระหว่างที่เหยียบแป้นเบรกอยู่ ให้ดึงเบรกมือขึ้นจนสุด ค่อยๆปล่อยเท้าออกจากแป้นเบรกให้มั่นใจว่ารถไม่ไหล จากนั้นจึงค่อยผลักตำแหน่งเกียร์ไปยัง P วิธีนี้จะทำให้เบรกเป็นตัวรับภาระน้ำหนักรถแทน และหลังจากที่สตาร์ทรถเพื่อขับออกไปนั้น ให้ปลดเกียร์ออกจากตำแหน่งเกียร์ P ก่อน (จะใส่เกียร์ R N หรือ D ก็ตามแต่) แล้วจึงปลดเบรกมือ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยป้องกันความเสียหายกับชุดเกียร์ได้


5 วิธีการขับรถยนต์และการดูแกเกียร์รถยนต์ให้ใช้งานได้ยืนยาว 

ไม่เหยียบแป้นคันเร่งให้ลึกกว่าปกติเพื่อเพิ่มความเร็วอย่างเร่งด่วน

การเหยียบแป้นคันเร่งให้ลึกกว่าปกติเพื่อเพิ่มความเร็วอย่างเร่งด่วน หรือเรียกสั้นๆว่าการคิกดาวน์ (Kickdown)  โดยส่วนใหญ่ใช้ในกรณีเร่งแซงหรือหลบหลีกสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย  ซึ่งตำแหน่งเกียร์จะถูกปรับลงมา 1-2 จังหวะตามน้ำหนักเท้าที่กดลงไป แต่การคิกดาวน์บ่อยๆ   มีผลทำให้ชุดเกียร์สึกหรอเร็วกว่าปกติ เพราะชุดเกียร์ต้องรับแรงบิดที่เพิ่มขึ้นกะทันหันอยู่บ่อยครั้ง ทางที่ดีควรคิกดาวน์เมื่อจำเป็นจริงๆเท่านั้น การขับขี่ปกติควรค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้นไปจะดีกว่า

ไม่ปล่อยเกียร์ว่างขณะรถวิ่ง

สำหรับผู้ที่เคยชิยกับการขับรถเกียร์ธรรมดา  เมื่อมาขับเกียร์ออโต้ ควรปรับเปลี่ยนและทำความเข้าใจในการขับและการใช้งานที่แตกต่าง ห้ามใช้วิธีผลักไปเกียร์ว่างแล้วปล่อยให้รถไหลเวลาใกล้ถึงไฟแดงเด็ดขาด เพราะทันทีที่เข้าเกียร์ N น้ำมันหล่อลื่นในห้องเกียร์จะหยุดไหลเวียน ขณะที่เกียร์กำลังหมุนอยู่ ส่งผลให้เกิดความร้อนสูงกว่าปกติ หากทำบ่อยๆจะทำให้น้ำมันเกียร์เสื่อม ส่งผลต่อประสิทธิภาพการหล่อลื่น และทำให้เกียร์เกิดความเสียหายได้เร็วขึ้นนั่นเอง

เปลี่ยนเกียร์ให้สัมพันธ์กับความเร็ว

เกียร์ออโต้จะมีตำแหน่งเกียร์ให้ผู้ขับขี่สามารถปรับอัตราทดเองได้ ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม +, - หรือตำแหน่ง 3, 2, L (แตกต่างกันไปตามแต่ละผู้ผลิตจะใส่มา) ซึ่งตำแหน่งเกียร์ D ปกติก็สามารถครอบคลุมการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว ไม่ควรปรับเกียร์เป็นตำแหน่งอื่นบ่อยๆโดยไม่จำเป็น นอกเสียจากต้องการเร่งแซงหรือใช้แรงเบรกจากเครื่องยนต์

ในส่วนของเกียร์รถรุ่นใหม่ ที่มีโหมด Sport ติดตั้งมาให้  ก็ไม่ควรใช้งานบ่อยครั้งนัก เพราะจะทำให้เกียร์เปลี่ยนอัตราทดช้ากว่าปกติ  กล่าวโดยสรุปก็คือลากรอบเครื่องยนต์สูงๆนั่นเอง ทีนี้เมื่อเกียร์มีการเปลี่ยนอัตราทดที่รอบเครื่องยนต์สูงบ่อยๆ ชุดเกียร์ก็ต้องรับภาระแรงบิดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามไปด้วย เมื่อใช้ไปนานๆเข้าจะทำให้ชุดเกียร์เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติได้


ขับเป็น ดูแลดี รถยนต์ก็จะสร้างความสุขในทุกการเดินทางและอยู่กับเราแบบไร้ปัญหา

เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามอายุการใช้งาน

ในส่วนของน้ำมันเกียร์เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยหล่อลื่นและปกป้องชุดเกียร์ เมื่อใช้ไปนานๆเข้า ก็จะเกิดความเสื่อมสภาพ อาจมีเศษตะกอนค้างอยู่ในอ่างน้ำมันเกียร์ ซึ่งเกิดจากการเสียดสีเป็นระยะเวลานาน ดังนั้น จึงควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามกำหนดที่ระบุไว้ในคู่มือ แต่หากรถรุ่นใดระบุว่าไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตลอดอายุการใช้งาน ก็ให้ตั้งระยะเวลาเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ด้วยตัวเองประมาณ 40,000 - 60,000 กิโลเมตรแทน เนื่องจากสภาพอากาศร้อนในบ้านเรามีผลทำให้น้ำมันเกียร์เสื่อมเร็วกว่าปกติได้

เพียงเท่านี้คุณก็จะใช้รถยนต์ด้วยความสุขและยืดอายุการใช้งานเกียร์รถยนต์ที่หากมีปัญหาต้องเปลี่ยน จะต้องสูญเงินจำนวนมากแน่นอน

ในหมวดเดียวกัน